resepthilnd

วัตถุดิบ เนื้อหมูประมาณ 1 กก. ซีอิ้วดำประมาณ ½ – 1 ช้อนโต๊ะ นมข้นจืดประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊ปประมาณ 100 – 150 กรัม น้ำมันหอยประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาวเห็ดหอม 3 – 4 ช้อนโต๊ะ กระเทียมกลีบใหญ่ 10 – 15 กลีบ รากผักชี 5 – 7 ราก พริกไทยเม็ด 1 – 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด จากนั้นหั่นเนื้อหมูตามยาว 2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดให้ละเอียด แล้วผสมให้เข้ากัน 3. นำเนื้อหมูที่หั่นแล้วมาหมักกับเครื่องเทศที่โขลกไว้ จากนั้นก็ใส่ซีอิ้วดำ น้ำมันหอย น้ำตาลปิ๊ป นมข้นจืด และซีอิ้วขาวลงไป 4. คลุกเคล้าหมูกับเครื่องปรุงให้เข้าเครื่องกัน จากนั้นนำไม้แหลมมาเสียบหมูที่หมักไว้ ตามจำนวนที่ต้องการ เสร็จแล้วใส่ลงในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท แล้วแช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน 5. นำหมูมาปิ้งบนเตาย่างร้อนๆ ประมาณ 10 – 15 นาที จนสุกทั่ว เสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียวร้อนๆ ที่มา  https://plus.google.com/111931163800471551598/posts/iRPAiRibatd

เย็นตาโฟเกี๊ยวกรอบ สูตรเย็นตาโฟไม่ใส่เส้น ไม่ใช่เกาเหลาด้วยนะเออ แค่จับเกี๊ยวกรอบมาเป็นพระเอกในชามเย็นตาโฟ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูก๋วยเตี๋ยวเพิ่มอีกสูตรทำขายกันแล้วค่ะ เย็นตาโฟเกี๊ยวกรอบต้มยำ รสแซ่บ มีความกรุบกรอบของแผ่นเกี๊ยวทอด ผสานกับเครื่องเย็นตาโฟ รสชาติเยี่ยมจนลูกค้าต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ ส่วนผสม แผ่นเกี๊ยว หั่นเป็นเส้น 70 กรัม น้ำมันพืช (สำหรับทอดแผ่นเกี๊ยว) น้ำเปล่า (สำหรับลวก) ลูกชิ้นรักบี้ 50 กรัม ปลาเส้น 50 กรัม กุ้งสด 2 ตัว (ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำออก) ปลาหมึกกรอบ 50 กรัม เลือดหมู 50 กรัม ผักบุ้ง 50 กรัม น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชำ พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ซอสเย็นตาโฟ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำพริกเผา 2 ช้อนชา ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ เต้าหู้ทอด 20 กรัม วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำแผ่นเกี๊ยวลงทอดพอเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้ 2. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด นำลูกชิ้นรักบี้ ปลาเส้น กุ้ง ปลาหมึกกรอบ เลือดหมู และ ผักบุ้งลงไปลวกพอสุก ตักขึ้นพักไว้ 3. ผสมน้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น น้ำมะนาว ซอสเย็นตาโฟ และน้ำพริกเผา คนให้เข้ากัน 4. จัดแผ่นเกี๊ยวกร

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรใช้น้ำมะนาวแท้ เครื่องแน่นไม่เหมือนเจ้าไหน ใส่ทั้งหมูแดงและขาหมูต้ม (แบบก๋วยเตี๋ยวที่เวียดนาม) รสเข้มข้นถึงใจ มาพร้อมไข่ต้มยางมะตูม สูตรน้ำซุปข้น (แบบญี่ปุ่น) หอมน้ำซุปกระดูกหมู ทำขายง่ายมาก ๆ ส่วนผสม น้ำซุปกระดูกหมู กระดูกหมู 1 กิโลกรัม พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ รากผักชี กระเทียม ส่วนผสม หมูแดง สันคอหมู น้ำผึ้ง ผงพะโล้ เกลือ สีผสมอาหารสีแดง ส่วนผสม ขาหมูต้ม ขาหมู น้ำสำหรับต้ม ส่วนผสม เครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยว เส้นก๋วยเตี๋ยว (ตามชอบ) ถั่วงอก ถั่วคั่วบดหยาบ ต้นหอมซอย พริกป่น กุ้งแห้ง หมูแดง ขาหมูต้ม ไข่ต้มยางมะตูม มะนาว วิธีทำ วิธีทำน้ำซุปกระดูกหมู 1. ลวกกระดูกหมูในน้ำเดือด 2 นาที เพื่อล้างเลือด จากนั้นนำไปล้างน้ำอีกครั้งให้สะอาด 2. ใส่กระดูกลงในหม้อความดัน ตามด้วยพริกไทย รากผักชี และกระเทียม ใช้เวลาต้ม 1ชั่วโมง 30 นาที จะได้น้ำซุปที่ข้นจากไขกระดูก เตรียมไว้ วิธีทำหมูแดง หมักสันคอหมูกับน้ำผึ้ง ผงพะโล้ เกลือ และสีผสมอาหารสีแดง หมักไว้ 1 ชั่วโมง แล้วนำมาทอดจนสุก หั่นเป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้ วิธีทำขาหมูต้ม นำเนื้อขาหมูไปต้มด้วยไฟอ่อนจนเปื่อย ประมาณ 45 นาที หั่นเป็นชิ้น ๆ เตรียมไว้ วิธ

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม 1 น้ำซุป 2 ใบตำลึง 3 เต้าหู้ไข่ 4 หมูสับ 5 ซีอิ้วขาว 6 น้ำมันงา 7 ไช้โป้วเค็มสับละเอียด 8 รากผักชีสับละเอียด 9 พริกไทยป่น 10 เกลือป่น 11 กระเทียมเจียวสำหรับโรยหน้า (ถ้าเคร่งมากก็ไม่ต้องใส่ค่ะ) วิธีทำ 1 ปรุงหมูสับด้วยไช้โป้วเค็มสับ รากผักชีสับละเอียด ซีอิ้วขาว น้ำมันงา พริกไทยป่น ใช้ฝ่ามือนวดหมูสับจนหนึบ พักไว้ 2 ตั้งน้ำซุปจนเดือด ใช้มือปั้นหมูสับเป็นทรงกลม ทยอยนำลงไปต้มจนก้อนหมูสับเกือบสุก ใส่เต้าหู้ไข่ตามลงไปค่ะ พอทั้งหมูสับและเต้าหู้ลอยขึ้นมาแสดงว่าสุกแล้ว 3 ปรุงรสชาติแกงจืดด้วยเกลือป่น ซีอิ้วขาวเล็กน้อย พริกไทยป่น ชิมแล้วปรับจนได้รสชาติที่ชอบ เร่งไฟให้เดือดใส่ใบตำลึงลงไปเลยค่ะ คนเล็กน้อยแล้วปิดไฟเลยค่ะ เวลาเสิร์ฟโรยกระเทียมเจียวเพิ่มความหอม ที่มา  https://plus.google.com/101330165158802365711/posts/jDu9iGktXJz

ส่วนผสม ปลาช่อนลุยสวน ปลาช่อน 1 ตัว พริกขี้หนูบด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ ผักชีฝรั่งหั่นฝอย 2 ช้อนโต้ะ ผักชีหั่นฝอย 2 ช้อนโต้ะ ใบสาระแหน่ 2 ช้อนโต้ะ ตะไคร้หั่น 2 ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย 4 ช้อนโต๊ะ มะนาวหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าพร้อมเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 4 ถ้วยตวง วิธีทำ ปลาช่อนลุยสวน 1. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำปลาช่อนลงไปทอดปลาให้เหลือง นำปลามาสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน 2. ทำน้ำยำ โดย ดยผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล หอมแดงหั่น ตะไคร้หั่น ผักชีหั่น ผักชีฝรั่งหั่น เปลือกมะนาวหั่นเป็นลูกเต๋าและพริกขี้หนู ผสมให้เข้ากัน 3. ราดน้ำยำลงบนจานปลาช่อนลุยสวนที่จัดไว้แล้ว ที่มา  https://plus.google.com/101330165158802365711/posts/jEVQDzRWmgT

วัตถุดิบหมูกรอบ 1.หมูสามชั้น 2.เกลือ 3.น้ำมันปาล์ม -------------- วิธีทำ นำหมูสามชั้นมาล้างทำความสะอาด ตั้งน้ำให้เดือดใส่เกลือลงไป นำหมูลงไปต้ม1ชั่วโมง จากนั้นนำหมูขึ้นมาผึ่งให้แห้ง ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนนำหมูที่ต้มไว้แล้วลงไปทอดจนหนังหมูพองกรอบเป็นสีเหลือง นำมาสับเป็นชิ้นพอดีคำ จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียก ------------- น้ำจิ้มแจ่ว ------------ วัตถุดิบ 1.มะขามเปียก1ถ้วย 2.น้ำตาลครึ่งถ้วย 3.เกลือ2ช้อนชา 4.น้ำปลา3ช้อนชา 5.พริกป่นใส่ตามชอบ 6.ข้าวคั่วใส่ตามชอบเช่นกัน ------------- วิธีทำ นำมะขามเปียกมายีกับน้ำปล่าวจนได้น้ำมะขามเปียกข้นๆ นำขึ้นตั้งไฟจากนั้นใส่น้ำตาลลงไปคนให้ละลาย ตามมาด้วยเกลือและน้ำปลา ใส่พริกป่นลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากันดี แล้วปิดไฟพักไว้ให้เย็น แล้วค่อยเอาข้าวคั่วลง เพราะถ้าเอาข้าวคั่วลงในขณะยังร้อนจะทำให้ข้าวคั่วสุกเป็นเนื้อเดี๋ยวกับน้ำจิ้ม มันจะไม่หอมและไม่มีเนื้อของข้าวคั่ว เวลาจะรับประทานให้ซอยต้นหอมลงแล้วบีบมะนาวลงไป ก็อร่อยมากครับ สามารถเก็บสูตรนี้ไว้ในตู้เย็นได้เป็นอาทิตย์เพราะทุกอย่างผ่านความร้อนจนสุกหมดแล้ว วันนี้ผมได้หมูกรอบมาลองจิ้มดูครับ รสเปรี้ยวเค็มเผ็ดและห

ส่วนผสม 1. กล้วยไข่ห่ามๆ 12 ลูก 2. น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง 3. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง 4. ใบเตย (ผูกเป็นปม) 2 ใบ 5. มะนาว 1 ลูก 6. ปูนแดง 1 ช้อนชา 7. น้ำเปล่า (ผสมกับปูนแดง) 3 ถ้วยตวง ส่วนผสมกะทิราดหน้า 1. หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง 2. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 3. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา วิธีทำกะทิราดหน้า 1. ตั้งกะทะทองเหลืองไฟอ่อน ใส่กะทิลงไป คนไปเรื่อยๆ จนร้อน 2. ใส่เกลือ คนจนเกลือละลาย 3. ใส่แป้งข้าวเจ้า ลงไป คนจนแป้งละลาย กะทิร้อน พอข้น แล้วปิดไฟ ตักใส่ถ้วยพักไว้ วิธีทำกล้วยไข่เชื่อม 1. ผสมปูนแดงกับน้ำ พักไว้ให้ตกตะกอนแล้วรินเอาน้ำ ส่วนที่ใสสำหรับแช่กล้วย 2. ปอกเปลือกกล้วยนำแช่ลงในน้ำปูนใสประมาณ 30 นาที แล้วนำมาล้างน้ำเปล่าอีกครั้งให้สะอาด แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 3. ใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และใบเตยมัดเป็นปม ลงในกะทะทองเหลือง คนให้เข้ากัน จนน้ำตาลละลายแล้ว ไม่มีฟองฝุด นำออกมากรองด้วยผ้าขาวบาง 4. ใส่กล้วยไข่ในน้ำเชื่อม ใช้ไฟกลางค่อนอ่อน พอร้อน บีบมะนาวลงไป 1ลูก จะทำให้น้ำเชื่อมใส สีกล้วนเงาสวย แล้วค่อยๆ เคี่ยวจนกล้วนเหลืองสุกดี อย่าคน จะเละ กล้วยจะเป็นขน ให้ใช้วิธีตักน้ำเชื่อมราดเอา พอกล้วยเหลืองสุกดี ปิ

เครื่องปรุง + ส่วนผสม * แป้งสาลี 950 กรัม  * ไข่เป็ด 25 ฟอง * น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม * กลิ่นวานิลา 1 ถ้วยตวง * น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง  วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 1. ตีไข่กับน้ำจนไข่ขึ้นฟู จากนั้นจึงใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีจนน้ำตาลละลาย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที 2. นำส่วนผสมไข่ไปใส่ในตระแกรงล่อน เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก เมื่อล่อนเสร็จแล้วนำแป้งลงไปผสม ตีจนไข่ขึ้นฟูอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงเติมกลิ่นวานิลา 3. นำส่วนผสมแป้งและไข่ที่ทำเสร็จไปหยอดลงในแบบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ (อย่าใส่จนเต็มแบบ เพราะ เมื่ออบแล้วตัวขนมจะฟูขึ้นอีก ควรใส่ประมาณครึ่งหนึ่งของแบบก็พอ) ควรทาน้ำมันบางๆที่ผิวแบบเพื่อไม่ให้ติด   4. นำไปอบโดยใช้อุณหภูมิประมาณ 180 องศาเซลเซียส อบประมาณ 20-25 นาทีหรือจนสุก จึงนำออกมาจากเตา 5. เคาะขนมออกจากแบบ จัดใส่จานเสริฟ (บางกรณีอาจเสริฟขนมโดยไม่ต้องนำขนมออกจากแบบก็ได้) ที่มา  https://plus.google.com/113146528524548992503/posts/UXw6poKVCNZ

ส่วนผสมและสัดส่วน 1. กุ้งสด 200 กรัม 2. แป้งเปาะเปี๊ยะ 3. รากผักชี 2 – 3 ราก 4. พริกไทย ¼ ช้อนชา 5. เกลือ เล็กน้อย 6. ไข่ไก่ 1 ฟอง 7. ซีอิ๊วขาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ 8. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ 9. น้ำมันพืชสำหรับทอดเปาะเปี๊ยะ วิธีปรุง 1. กุ้งแกะเปลือก ผ่าหลังเอาเส้นดำออก รากผักชี พริกไทยโขลกเข้าด้วยกันเติมเกลือเล็กน้อย 2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงมาผัดจนหอม ใส่เนื้อกุ้งลงมาผัด ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น 3. ใส่ไส้กุ้งที่ผัดไว้บนแป้งเปาะเปี๊ยะ แล้วห่อ ปิดหัวท้ายด้วยไข่ไก่ที่ตีพอแตก นำไปทอด โดยใช้ไฟปานกลาง ให้เหลืองเท่ากันทั้งสองด้าน นำขึ้นสะเด็ดน้ำมันจัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ ที่มา  https://plus.google.com/113146528524548992503/posts/DAdTYzxK1se

ส่วนผสม ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทั้งแผ่น (แบบยังไม่หั่น) 500 กรัม กุ้งชีแฮ้ 10 ตัว เนื้อหมูบดละเอียด 100 กรัม เต้าหู้แข็ง 1 แผ่น ผักกาดหอม 2 ต้น ใบโหระพา 10 ช่อ ไข่กุ้ง 50 กรัม เนื้อปู 100 กรัม กระเทียมเจียวสำหรับโรยหน้า ส่วนผสมสำหรับน้ำจิ้ม ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วหวาน 1 ช้อนชา น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรสตราภูเขาทอง 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนชา พริกชี้ฟ้าหั่นบาง ๆ 3 เม็ด ขิงแก่บดละเอียด 1 ช้อนชา วิธีทำ 1. ลวกกุ้งและหมูบดในน้ำเดือด ใส่เกลือป่นให้มีรสเค็มเล็กน้อย แบ่งครึ่งกุ้งตามยาวเตรียมไว้ 2. เต้าหู้แข็งหั่นเป็นเส้นยาว กว้างประมาณ ½ เซนติเมตร นำไปต้มให้สุก เติมเกลือป่นและซีอิ๊วขาวเล็กน้อย เตรียมไว้ 3. แผ่แผ่นก๋วยเตี๋ยวบนเขียง หันด้านแคบเข้าหาตัว วางผักกาดหอม ใบโหระพา ใส่กุ้ง 1 ตัวผ่าครึ่ง เต้าหู้ 1 เส้น หมูบด เนื้อปู และไข่กุ้งอย่างละเล็กน้อย ม้วนเป็นท่อนยาว หั่นด้วยมีดเป็นชิ้นพอคำ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว รับประทานกับน้ำจิ้ม 4. ละลายน้ำตาลทรายและน้ำส้มสายชูให้เข้ากัน เติมซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วหวาน น้ำมันงา ขิงบด และพริกชี้ฟ้าหั่น คนให้เข้ากันดี เตรียมไว้สำห

ห่อหมกกุ้งสูตรเพื่อสุขภาพนี้มาจาก นิตยสารชีวจิต ซึ่งอาจจะทำให้ใครหลายคนสงสัยว่า ห่อหมกจะเป็นเมนูเพื่อสุขภาพได้อย่างไร ? คำตอบก็คือ ห่อหมกสูตรนี้จะใช้น้ำเต้าหู้แทนกะทินั่นเอง และใช้ถั่วลิสงคั่วกับเต้าหู้หลอดมาเพิ่มความมันและเพิ่มความข้นแทนไข่ แต่ก็ยังความเป็นห่อหมกทั่ว ๆ ไป คือ มีผักรองกระทงอย่างใบยอ โหระพา หรือใบแมงลัก ซึ่งประโยชน์ของห่อหมกกุ้งสูตรสุขภาพนี้คือ กินแล้วไม่เพิ่มระดับไขมันในเลือด ช่วยให้สบายท้อง เพราะอุดมไปด้วยใยอาหารจากผักสารพัดชนิดนั่นเอง เอาซี้ ! ประโยชน์เด็ดและดีแบบนี้ รอช้าอยู่ทำไมคะ ลองตามมาดูวิธีทำห่อหมกกุ้งสูตรนี้กันเลย ส่วนผสม ถั่วลิสงคั่ว 1/4 ถ้วย น้ำพริกแกงเผ็ด 1/4 ถ้วย น้ำพริกแกงใต้ 1 ช้อนโต๊ะ เต้าหู้หลอด 1/2 ถ้วย (ประมาณ 2 ขีด) กุ้งสดสับละเอียด 1 ขีด น้ำปลา 3 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำเต้าหู้ 1/4 ถ้วย กระชายซอยเป็นเส้นยาว 2 ช้อนโต๊ะ ใบยอหั่นหยาบ ใบโหระพา และใบแมงลัก ปริมาณตามชอบ กุ้งสดแกะเปลือก 4-5 ตัว ใบมะกรูดหั่นซอยละเอียด ปริมาณตามชอบ พริกชี้ฟ้าสีเหลืองและแดงหั่นเป็นเส้นยาว ปริมาณตามชอบ น้ำเต้าหู้ผสมเกลือเล็กน้อย วิธีทำ 1. โขลกถั่วลิสงพอหยาบ ใส่น้ำพริกแกง

ส่วนผสม ปลาดุกย่าง(แกะเฉพาะเนื้อ) 1 ตัว สับปะรดหั่นชิ้นพอคำ 1½ ถ้วย มะเขือเทศลูกเล็กผ่าครึ่ง 1 ถ้วย น้ำพริกแกงเผ็ดสำเร็จรูป ¼ ถ้วย กะทิธัญพืช 3 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 - 3 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ ใบโหระพา 1 ถ้วย พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง หั่นแฉลบ อย่างละ 1 - 2 เม็ด น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันด้วยไฟกลางจนหอม ใส่เนื้อปลาดุกย่าง ผัดพอเข้ากัน 2. ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บเติมกะทิ แล้วตั้งไฟต่อให้เดือด 3. ใส่สับปะรด มะเขือเทศ พริกชี้ฟ้าและใบมะกรูด คนให้เข้ากันโรยใบโหระพา ปิดเตา 4. ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆได้ทันที อร่อยได้อีก - ใช้มะเขือส้มแทนมะเขือเทศลูกเล็กได้ในปริมาณที่เท่ากัน สูตรโดย : หนังสือจานเด็ดเมนูอาหารไทย ภาพโดย : กฤษดา อนุนาท , สกล ปานกลิ่นพุฒ

ขนมหวานแบบไทย ๆ เมนูวุ้นกรอบ ๆ เคี้ยวกรุบ ๆ หวานละมุนชวนให้กินเพลิน อีกหนึ่งขนมไทย ๆ ที่หาซื้อกินได้ง่าย แต่ทำเองก็ง่ายไม่แพ้กัน วุ้นกะทิ อีกหนึ่งเมนูขนมไทยที่ใครก็ยากจะปฏิเสธลง ยิ่งเอาไปแช่เย็น ๆ สักหน่อย มีสิบชิ้นหมดสิบชิ้น กินกันเอาอร่อยไม่ต้องกลัวอ้วน กลัวแต่จะหมดก่อน ! วันนี้แอดมินเลยอยากจะชวนทุกคนมาเป็นนางในวังนั่งพับเพียบทำเมนูวุ้นกะทิดอกไม้สวย ๆ ติดไว้ในตู้เย็น ยามใดขาดความหวาน หรือต้องการเติมความเย็นก็หยิบออกมาจิ้มกินสักชิ้นสองชิ้นก็พอชื่นใจแล้ว ส่วนผสม วุ้นกะทิ ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วย ใบเตย หั่นเป็นท่อน 2-3 ใบ น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนชา ส่วนผสมวุ้นสี ผงวุ้น 1 ช้อนชา น้ำเปล่า น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย สีผสมอาหาร 1 ช้อนชา อุปกรณ์ พิมพ์วุ้นซิลิโคนรูปดอกไม้ วิธีทำ 1.ทำวุ้นกะทิ ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน 2.ใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย พอน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลายหมด 3.ใส่ใบเตยลงไป กวนไปเรื่อย ๆ ให้พอมีกลิ่นใบเตย ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายและส่วนผสมเดือด 4. เทหัวกะทิใส่ลงไป คนผสมให้เข้ากันพอเ

เมนูเบเกอรี่เดิม ๆ แต่เติมไอเดียเก๋ ๆ จับฮันนี่โทสต์ชิ้นหนาแบบเดิม ๆ กลายร่างเป็นฮันนีบริคโทสต์ใส่ไส้ลงในกล่องอย่างอลังการ เนื้อหนานุ่มชุ่มเนย เพิ่มความฟินอีกระดับ เด็ดจริงจนต้องลองทำ ส่วนผสม ฮันนี่บริคโทสต์ ขนมปังปอนด์ (แบบยังไม่สไลซ์) 1/2 ก้อน (สูงประมาณ 5 นิ้ว) เนยสด (ชนิดจืด หรือเค็มก็ได้) 1/2 ถ้วย ส่วนผสมท็อปปิ้งและตกแต่ง (ตามชอบ) น้ำผึ้ง, ซอสช็อกโกแลต หรือไซรัปอื่น ๆ ตามชอบ วิปปิ้งครีม ผลไม้สดตามชอบ เช่น กล้วยหอมสไลซ์, กีวี, ราสป์เบอร์รี, แบล็กเบอร์รี และสตรอว์เบอร์รี ไอศกรีมรสชาติตามชอบ เวเฟอร์แท่ง วิธีทำ 1.ทำกล่องขนมปังโดยใช้มีดฟันเลื่อยค่อย ๆ เลื่อยขนมปังทั้ง 4 ด้านแล้วคว้านเอาเนื้อขนมปังด้านในออกมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ขนมปังที่ได้จะมีเป็นลักษณะเป็นกล่อง (เทคนิคการกรีดขนมปังสามารถดูได้จากคลิปวิดีโอ) 2.นำเนื้อขนมปังที่คว้านออกมาแล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า เตรียมไว้ 3.นำเนยสดไปละลายในกระทะใช้ไฟปานกลางอ่อนคนให้เข้ากันจนเนยละลาย ปิดไฟ เตรียมไว้ 4.เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ 5.จุ่มขนมปังก้อนสี่เหลี่ยมลงในเนยสดเพียง 1 ด้าน (ระวังอย่าให

ช่วงไหนที่ลำไยล้นตลาดก็เหมาะมากที่จะทำวุ้นลำไยปีโป้หลากสีเก็บไว้กินเย็น ๆ ที่สำคัญไม่ต้องมานั่งต้มวุ้น แค่มีปีโป้สี ๆ เอาไปละลายเป็นน้ำแล้วจับหยอดใส่ลำไย จากนั้นก็นำเข้าแช่ในตู้เย็น ประมาณ 2 นาที ก็ได้วุ้นไว้ทานเป็นของว่างแล้ว แหม… ไอเดียเก๋ ๆ แบบนี้มีหรือแม่ครัวมือใหม่อย่างเราจะพลาด ส่วนผสม ลำไย ปีโป้ เลือกสีตามชอบ วิธีทำ 1. แกะเปลือกลำไย คว้านเอาเมล็ดออกอย่างเบามือ เตรียมไว้ 2. แกะปีโป้ใส่ลงในภาชนะทนความร้อน นำเข้าไมโครเวฟใช้กำลังไฟ 800 วัตต์ ประมาณ 30 วินาที หรือจนปีโป้ละลายเป็นน้ำ (ข้อควรระวังคือ อย่าใช้เวลานานเกินไปไม่เช่นนั้นปีโป้อาจจะไหม้ได้) 3. ตักใส่ลงในลำไย (ขอย้ำว่ารีบ ๆ ตักเลย เพราะปีโป้จะแข็งตัวเร็วมาก) 4. พักวุ้นปีโป้ลำไยให้เซตตัว (ไม่เกิน 2 นาที) หรือจะเอาไปแช่เย็นก่อนรับประทาน ขอขอบคุณสูตรและภาพจาก คุณ Moo Nuy & The Bird สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

สูตรเบเกอรี่สุดฮิต ราดซอสบลูเบอร์รีฉ่ำ ๆ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน กินเท่าไรก็ไม่เลี่ยน เหมาะสำหรับสาว ๆ วัยทีนที่กำลังมองหาขนมหวานไว้กินเพลิน ๆ มื้อบ่าย ไม่ต้องใช้เตาอบด้วยนะ อยากให้ลองทำดูแล้วจะรู้ว่าไม่ยากเลยทีเดียว ส่วนผสม แป้งพาย ขนมปังกรอบบดละเอียด 1 1/2 ถ้วย น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ เนยสดละลาย 1 ถ้วย วิธีทำ 1. ผสมขนมปังกรอบที่บดแล้วกับน้ำตาลไอซิ่ง และเนยละลายคนผสมให้เข้ากัน 2. นำไปกรุลงพิมพ์โดยให้มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น เตรียมไว้ ส่วนผสม ครีมชีส เจลาติน 2 แผ่น น้ำเย็น (สำหรับแช่เจลาติน) น้ำอุ่น (สำหรับละลายเจลาติน) วิปครีมชนิดจืด 75 กรัม นมสด 25 กรัม ครีมชีส 100 กรัม น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ซอสบลูเบอร์รีสำเร็จรูป สำหรับราดหน้า วิธีทำ 1. นำเจลาตินไปแช่น้ำเย็นจนนิ่ม จากนั้นนำไปละลายกับน้ำอุ่น เตรียมไว้ 2. นำวิปครีมมาตีกับนมสดจนตั้งยอดอ่อน เตรียมไว้ 3. นำครีมชีสกับน้ำตาลไอซิ่งผสมให้เข้ากัน ใส่ลงในหม้อตุ๋นคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน ยกลงใส่น้ำมะนาวผสมพอเข้ากัน 4. ใส่ส่วนผสมวิปครีมและเจลาตินลงไป คนให้เข้ากัน 5. เทส่วนผสมครีมชีสลงในพิมพ์ที่กรุด้วยแป้งพาย

เมนูของหวานสไตล์ฝรั่ง เนื้อนุ่มเด้งไม่คาว หอมคาราเมล ทำง่าย ๆ ไม่ต้องอบ ไม่ต้องนึ่ง แค่ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็ได้หม่ำแล้ว อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม หม้อ กระชอนกรอง ถ้วยตวง ช้อนตวง ถ้วยใส่คัสตาร์ดคาราเมล (ควรใช้พิมพ์โลหะ หรืออุปกรณ์ที่ทนความร้อน เพราะคาราเมลมีความร้อนเกิน 100 องศาเซลเซียส) ส่วนผสม คาราเมล น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ (เพื่อช่วยให้น้ำตาลไม่ไหม้เร็ว หรือน้ำตาลเป็นก้อน และช่วยให้ไม่ข้นเกินไป) หมายเหตุ : ถ้าอยากให้มีรสเค็มใส่เกลือได้ แต่ใส่แค่ปลายช้อนชาเท่านั้น ส่วนผสม คัสตาร์ด นมจืด 1 กล่อง (ประมาณ 250 มิลลิลิตร) ไข่ไก่ 2 ฟอง (ใช้เบอร์ 3 จะได้กลิ่นไม่คาวมาก) น้ำตาลทรายป่น 2 ช้อนโต๊ะ นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ (เพื่อเพิ่มความมันและหอม) ผงเจลาติน 1 1/2 (หรือ 2 ช้อนชา เนื้อจะแน่น ๆ นุ่ม ๆ) กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) วิธีทำคาราเมล 1. ใส่น้ำตาลทรายกับน้ำเปล่าลงในหม้อ ใช้ไฟปานกลาง (ควรคนน้ำตาลทรายกับน้ำเปล่าก่อน พอเดือดจะได้ไม่จับกันเป็นก้อน) รอให้ตัวคาราเมลเดือดกลายเป็นสีน้ำตาลทอง (ไม่เอาน้ำตาลเข้ม เพราะมันจะขมมาก และระวังส่วนผสมกระเด็น) 2. เทคาราเมลลงใส่พิมพ์

ขอแนะนำสูตรวุ้นลูกชุบ ขนมหวานกินคำเดียวสัมผัสได้ทั้งวุ้นและลูกชุบ หน้าตาและ สีสันคัลเลอร์ฟูลมาก ๆ ถ้าหากคุณแม่บ้านอยากประหยัดงบลองทำเป็นของขวัญวันเกิดสำหรับคุณสามีหรือคุณลูกก็เก๋ไปอีกแบบนะคะ ส่วนผสม ลูกชุบ ถั่วเขียวผ่าซีก 220 กรัม (นึ่งสุก) น้ำตาลทราย 1 ถ้วย น้ำกะทิ 1 ถ้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนชา วุ้นสำหรับชุบ ส่วนผสม วุ้นสำหรับชุบ ผงวุ้น 2 ช้อนชา น้ำเปล่า 2 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย ส่วนผสม วุ้นน้ำผลไม้ หรือวุ้นน้ำสมุนไพร น้ำเปล่า 3 ถ้วย ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (ถ้าหากชอบหวานให้เพิ่มอีก2 ช้อนโต๊ะ) น้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพร 1 ถ้วย อุปกรณ์ ไม้เสียบลูกชิ้น (ขนาดเล็ก) แผ่นโฟม พู่กันทาสี สีผสมอาหาร วิธีทำลูกชุบ 1. นำถั่วเขียวนึ่งสุก น้ำตาลทราย กะทิ และเกลือ ใส่ลงในเครื่องปั่นแล้วเปิดเครื่องปั่นให้ละเอียด 2. เทส่วนผสมใส่กระทะสำหรับกวนถั่ว ใช้ไฟปานกลาง ค่อย ๆ กวนจนขนมล่อนจากกระทะ จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน กวนจนเนื้อขนมให้เนียนและเหนียวพอปั้นได้ ปิดไฟ พักไว้จนเย็น 3. เมื่อส่วนผสมถั่วกวนเย็นแล้วก็นำมาปั้นเป็นรูปทรงต่าง ๆ เสียบไม้ลูกชิ้นขนาดเล็ก ปักทิ้งไว้บนแผ่นโฟม แล้วค่อย ๆ ใช้พู่กันระบายสี

ส่วนผสม เส้นเซี่ยงไฮ้ผสมสาหร่ายญี่ปุ่นต้มสุก 1 ถ้วย เนื้ออกไก่หั่นชิ้นพอคำ ½ ถ้วย ไข่ไก่ 1 ฟอง ผักกาดขาวหั่นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนสั้น ¼ ถ้วย กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา น้ำเปล่า ¼ ถ้วย น้ำมันพืชสำหรับผัด น้ำจิ้มสุกี้ตามชอบ วิธีทำ 1. คลุกเคล้าเนื้อไก่ ไข่ น้ำมันงา และพริกไทยเข้าด้วยกัน นำไปแช่เย็นหมักไว้นานประมาณ 15 นาที 2. ผัดกระเทียมกับน้ำมันด้วยไฟกลางให้หอมใส่เนื้อไก่หมักลงผัดพอสุก เติมน้ำตามด้วยผักกาดขาวและขึ้นฉ่าย 3. ปรุงรสด้วยน้ำจิ้มสุกี้ น้ำปลา และน้ำตาลทราย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันใส่เส้นเซี่ยงไฮ้ลงผัดต่อเล็กน้อยชิมรสตามชอบ 4. ตักใส่จานเสิร์ฟ รับประทานได้ทันที ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือจานเด็ดเมนูจานเดียว

เอาใจคนทานอาหารมังสวิรัติเป็นนิจด้วยเมนูก๋วยเตี๋ยวกันบ้าง มาในรูปแบบก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นรสแซ่บถูกปากคนไทย ทำง่ายสำหรับมือใหม่ จับเส้นใส่น้ำซุปต้มยำ ไม่ใส่เนื้อสัตว์ ใส่ผักตามชอบ แคลอรีต่ำ ได้สุขภาพไปเต็ม ๆ ส่วนผสม บะหมี่ไข่ 1 ก้อน นมสด 1/4 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วยตวง ข่าหั่นแว่น 5 แว่น ตะไคร้ทุบพอแตกหั่นแฉลบ 3 ต้น ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ หอมแดงทุบพอแตก 3 หัว เห็ดนางฟ้าฉีก 50 กรัม แครอทกดเป็นดอก 4 ดอก ถั่วลันเตา 50 กรัม น้ำพริกเผาสูตรเจ 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่นหยาบ 1/4 ช้อนชา น้ำมะนาว 2 ช้อนชา พริกขี้หนู 10 เม็ด ผักชีซอย 1/4 ถ้วยตวง น้ำเปล่าสำหรับลวกเส้น วิธีทำ 1. ใส่นมสดและน้ำเปล่าลงในหม้อยกขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดงลงต้มพอเดือด 2. ใส่เห็ดนางฟ้า แครอท และถั่วลันเตาลงต้มสักครู่ 3. ปรุงรสด้วยน้ำพริกเผาสูตรเจ ซอสปรุงรส และเกลือป่น พอเดือดยกลง ใส่น้ำมะนาว พริกขี้หนู และผักชี คนพอเข้ากัน เตรียมไว้ 4. ลวกเส้นบะหมี่ในน้ำเดือดจนสุก สะบัดให้แห้ง นำใส่ชาม นำส่วนผสมในข้อที่ 3 ราดลงบนเส้นบะหมี่ไข่ จัดเสิร์ฟ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นกินมังสวิรัติด้วย

ส่วนผสม หัวปลีซอยเป็นเส้นบาง 2 ถ้วย สะโพกไก่สับเป็นชิ้นพอคำ 300 กรัม พริกไทยเม็ด ½ ช้อนชา กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูแดง 9-11 เม็ด รากผักชีสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ ใบกะเพรา ¼ ถ้วย พริกไทยอ่อน 2 ช่อ กะทิ ½ ถ้วย กะปิ ¼ ช้อนชา น้ำตาลทรายขาว ½ - 1 ช้อนชา เกลือป่น ¼ ช้อนชา น้ำปลา 1 - 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. โขลกพริกไทย กระเทียม พริกขี้หนู รากผักชีตะไคร้ กะปิ และเกลือรวมกันให้ละเอียด จากนั้นนำไปผัด กับน้ำมันจนหอม 2. ใส่สะโพกไก่ลงผัดด้วยไฟปานกลาง พอเริ่มสุกแล้วค่อย ๆ ใส่กะทิลงไป ตามด้วยหัวปลี ผัดต่อจนสุกดี และกะทิเริ่มแห้ง 3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ใส่ใบกะเพรา(แบ่งไว้เล็กน้อยสำหรับตกแต่ง) และพริกไทยอ่อนลงผัดเบาๆ ให้เข้ากัน ปิดเตา 4. ตักใส่จานเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยใบกะเพราให้สวยงาม รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือกล้วยทำอะไรก็อร่อย

สำหรับใครที่ชอบเฟรนช์โทสต์แบบแท่งสุดกรอบ ขอแนะนำเฟรนช์โทสต์สติ๊ก (Cinnamon French Toast Sticks) นำขนมปังลงไปชุบส่วนผสมไข่แล้วนำทอดจนกรอบ คลุกกับน้ำตาลทรายผสมอบเชย เสิร์ฟคู่กับน้ำเชื่อมเมเปิล เหมาะสำหรับแม่บ้านมือใหม่ที่กำลังหาเมนูอาหารยามเช้าแบบเบาท้อง เมนูนี้แจ่มมาก ลองทำให้คุณแฟนกินก่อนไปทำงานสิคะ ส่วนผสม ขนมปังแบบหนา 4 แผ่น (หั่นเป็นแท่งแผ่นละ 4 แท่ง) เนย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ ไข่ไก่ 2 ฟอง นมสด 1/4 ถ้วย เกลือป่น น้ำตาลทรายป่น 1/4 ถ้วย อบเชย 1/2 ช้อนชา น้ำเชื่อมเมเปิล วิธีทำ 1. ผสมไข่ไก่ นมสดและเกลือให้เข้ากัน เตรียมไว้ 2. ผสมผงอบเชยและน้ำตาลทรายให้เข้ากัน เตรียมไว้ 3. ใส่เนยลงไปในกระทะใช้ความร้อนปานกลาง 4. นำขนมปังลงไปชุบในส่วนผสมไข่อย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วนำลงไปทอดในกระทะจนกลายเป็นสีเหลืองทอง แล้วนำไปชุบในส่วนผสมผงอบเชยให้ทั่ว ตักขึ้น 5. เสิร์ฟกับน้ำเชื่อมเมเปิล ที่มาสูตรและภาพ : ภาพจาก recipetineats.com

วันนี้ใครอยากกินหมูสามชั้นที่รสชาติอร่อยและยังอุดมไปด้วยประโยชน์จากสมุนไพร แอดมินขอนำเสนอเมนู “หมูสามชั้นคั่วสมุนไพร” ที่เมื่อใครได้ลองนำไปทำให้คนที่บ้านกิน รับรองว่าต้องอร่อยจนใครๆ ก็เรียกร้องให้ทำอีกแน่นอนค่ะ ส่วนผสม หมูสามชั้นหั่นชิ้น 150 กรัม ตะไคร้ซอยเส้น ½ ถ้วยตวง หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมซอย 2 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ พริกขี้หนูแห้ง 6 เม็ด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 2 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ซีอิ๊วดำ ¼ ช้อนชา พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา ซอสปรุงรส ½ ช้อนชา น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม ใบมะกรูด พริกขี้หนูแห้ง ลงทอดทีละอย่างพอสุกกรอบ ตักขึ้น 2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดพอหอม ใส่หมูสามชั้นลงผัดพอสุก 3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ซีอิ๊วดำ พริกไทยดำป่น ซอสปรุงรส ผัดพอเข้ากัน ใส่ส่วนผสมในข้อที่ 1 และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ ที่มาสูตรและภาพ : เพจMaeban

เมนูอาหารไทย พื้นบ้านที่พ่วงมาพร้อมวิธีทำน้ำจิ้มไก่ต้มน้ำปลาแบบแซ่บ ๆ กินคู่กันบอกคำเดียวว่า เด็ด ! และที่สำคัญไก่ต้มน้ำปลาสูตรนี้ใช้แค่ชิ้นส่วนไก่ตามที่ชอบก็พอ ไม่ต้องยัดไก่ทั้งตัวลงหม้อให้อลังการ และขอแอบกระซิบว่า ลองเอาไก่ต้มน้ำปลาสูตรนี้ไปกินกับข้าวมัน กลายเป็นข้าวมันไก่ในอีกรสชาติหนึ่งก็ไม่เลวเลยล่ะ ส่วนผสม ไก่ต้มน้ำปลา น่องไก่ติดสะโพก 1 ชิ้น (หรือไก่ส่วนอื่น ๆ ตามชอบ) รากผักชี 3 ราก ข่า 1/2 หัว ตะไคร้ 1 ต้น มะกรูด 3 ใบ น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา น้ำเปล่า ส่วนผสม น้ำจิ้มไก่ต้มน้ำปลา พริกขี้หนู กระเทียม น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำปลา วิธีทำ 1.ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด จากนั้นใส่ไก่ลงไปลวกให้พอหนังตึง 2.ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่จานพักไว้ 3.ใส่รากผักชี ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงในหม้อ 4.วางชิ้นไก่ที่ลวกไว้ทับลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ซอสปรุงรส และซีอิ๊วดำ จากนั้นเทน้ำเปล่าใส่ลงไป กะให้พอท่วมชิ้นไก่ เปิดไฟอ่อน ๆ ปิดฝาต้มทิ้งไว้ประมาณ 30-60 นาที 5.ทำน้ำจิ้มไก่ต้มน้ำปลา โดยซอยพริกและกระเทียมแล้วนำไปโขลกเข้าด้วยกันพอหยาบ 6.ใส่น้ำตาล

ปลาแซลมอนอบสมุนไพร (Lemon Garlic Herb Crusted Salmon) เมนูอาหารคลีนที่มีส่วนผสมของสมุนไพร เวลากินจะได้กลิ่นหอมของกระเทียม พาร์สลีย์ และผักชีลาว แซมด้วยความเปรี้ยวของเปลือกเลมอน และความเผ็ดร้อนของพริกไทย ถ้าต้องการความเผ็ดมากกว่านี้เหยาะพริกป่นลงไปหน่อย ว้าว… เผ็ดจี๊ดถึงใจ ส่วนผสม เนยสด 100 กรัม เกลือป่น 1 ช้อนชา เปลือกเลมอนขูด 1 ลูก พาร์สลีย์สับ 1 ช้อนโต๊ะ ผักชีลาวสับ 1 ช้อนชา กระเทียมสับละเอียด 1 กลีบ พริกไทยป่น เนื้อปลาแซลมอน 4 ชิ้น วิธีทำ 1. นำเนยสด เกลือป่น เปลือกเลมอน พาร์สลีย์ ผักชีลาว กระเทียม และพริกไทยป่น ใส่ภาชนะ นำเข้าไมโครเวฟ ประมาณ 30-45 วินาที เสร็จแล้วนำออกมาคนให้เข้ากัน 2. นำส่วนผสมสมุนไพรไปทาด้านบนเนื้อปลาแซลมอนที่วางเรียงบนถาดอบ 3. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ นำเนื้อปลาแซลมอนเข้าไปอบ ประมาณ 10-12 นาที สำหรับคนที่ไม่ชอบทานเนื้อปลาแซลมอนที่แห้ง นำเข้าเตาอบใช้ไฟปานกลางค่อนข้างสูง ประมาณ 8-10 นาที จะได้เนื้อปลาแซลมอนที่ฉ่ำ ที่มาสูตรและภาพ : mynaturalfamily.com

ส่วนผสม เนื้อปลาอินทรีสด (หั่นเป็นชิ้น) 150 กรัม ปลาอินทรีเค็ม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 70 กรัม กะทิ (เข้มข้นปานกลาง) 2 ถ้วยตวง หอมแดงซอย 1 ถ้วยตวง พริกชี้ฟ้า 1 ถ้วยตวง (สีเขียว สีแดง และสีเหลือง หั่นเป็นท่อนสั้น ๆ รวมกัน) น้ำตาลปี๊บ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1/4 กรัม ผักชี (สำหรับตกแต่ง) เนื้อหมูแดดเดียวทอด ผักสดตามชอบ (เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ขมิ้นขาว แตงกวา และมะเขือต่าง ๆ) วิธีทำ 1. เทกะทิเข้มข้นปานกลางลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่ปลาอินทรีเค็มลงต้มจนสุกใช้ทัพพีบี้ให้เนื้อปลาแหลก 2. ใส่หอมแดง พริกชี้ฟ้าทั้ง 3 สี และเนื้อปลาอินทรีลงต้มพอเดือด 3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก เคี่ยวต่อสักครู่ ยกลงตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยผักชี จัดเสิร์ฟคู่กับเนื้อหมูแดดเดียวทอด และผักสดตามชอบ เคล็ดลับ : เลือกใช้เนื้อปลาอินทรีสดหั่นเป็นชิ้น ๆ หรืออาจยีเป็นชิ้นเล็กก็ได้ไม่ว่ากัน ส่วนผสมหลักอยู่ที่กะทิ ซึ่งต้องเคี่ยวไม่ให้แตกมัน แล้วเพิ่มรสเปรี้ยว เค็ม และหวานตามชอบ ว้าว… หน้าตาหลนปลาอินทรีสดดูอลังการ มาก ๆ เปลี่ยนเมนูหลนหน้าตาธรรมดา ๆ ให้ดูน่าหม่ำขึ้นหลายเท่า อยากให้เพื่อน ๆ ลองทำทานกัน จะ

หิวเมื่อไหร่ก็กินได้เลย เบาสบายอยู่ท้อง ส่วนผสม ไข่ไก่ 2 ฟอง กุ้งสดแกะเปลือกออก 3-4 ตัว กุ้งแห้ง 10 ตัว ดอกไม้จีนแช่น้ำ 1 ห่อ ต้นหอมสับ 1/2 ถ้วย เห็ดหอมหั่นซอย 1/2 ถ้วย ฟองเต้าหู้ 1 ถ้วย เกลือ 1/2 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำซุปไก่ 2 ถ้วย แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยเล็กน้อย วิธีทำ 1. ผัดเห็ดหอมกับดอกไม้ ฟองเต้าหู้ และกุ้งแห้ง พักไว้ 2. เทน้ำซุปไก่ลงในหม้อ พอเดือดแล้วเติมเกลือ ซีอิ๊วขาว และแป้งข้าวโพดลงไปเพื่อให้น้ำซุปข้นขึ้น ตอกไข่ไก่แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้น ปิดฝา เสร็จแล้ว ตักซุปใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยกุ้งสดและต้นหอมสับ 3. นำไปนึ่งประมาณ 10 นาที ที่มาสูตรและภาพ : นิตยสาร Lisa

เมนูนี้เหมาะสำหรับกรุ๊ป B ส่วนผสม เนื้อสันในหั่นชิ้นตามขวางหนา 0.5 นิ้ว 300 กรัม สับปะรดหั่นชิ้นใหญ่ 2 ถ้วย สับปะรดสับหยาบ ½ ถ้วย หอมหัวใหญ่ซอยตามยาว ½ หัว กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ เบย์ลีฟ 1 - 2 ใบ ผงปาปริก้า 1 ช้อนชา น้ำซุปเนื้อ 1 ถ้วย น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่นสำหรับปรุงรสและหมักเนื้อ พาร์สลีย์สับละเอียดสำหรับโรยหน้า วิธีทำ 1. เคล้าเนื้อ สับปะรดสับ และเกลือเล็กน้อยให้เข้ากันในอ่างผสม คลุมด้วยพลาสติกใสนำไปแช่เย็นพักไว้ประมาณ 30 นาที 2. ตั้งน้ำมันในกระทะด้วยไฟกลางให้ร้อนใส่เนื้อลงทอดให้ด้านนอกเหลืองเกรียมแต่ไม่ต้องสุกมาก ตักขึ้นพักไว้ 3. ผัดหอมหัวใหญ่และกระเทียมต่อในกระทะใบเดิมรอให้มีกลิ่นหอม จากนั้นใส่เบย์ลีฟ ซอสปรุงรส และผงปาปริก้าลงผัด ตามด้วยเนื้อทอดเติมน้ำซุป ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลและน้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน 4. หรี่ไฟอ่อน แล้วใส่สับปะรด เคี่ยวต่อจนเนื้อสุกนิ่มและส่วนผสมงวดเข้ากัน ปิดฝา เร่งเป็นไฟกลางอบต่อ 5 นาที ปิดเตา 5. ตักเนื้ออบใส่ชาม โรยพาร์สลีย์ก่อนเสิร์ฟ ที่มาสูตรและภาพ : หนังสืออร่อยตามกรุ๊ปเลือด

ส่วนผสม ไข่ไก่ 2 ฟอง ชะอมเด็ดเป็นใบ 1 ถ้วย น้ำพริกแกงส้ม 1/2 ถ้วย หอมแดง (ปอกเปลือก) 5 หัว กระชาย 100 กรัม ปลาทูน่ากระป๋องในน้ำเกลือ หรือน้ำแร่ 1 กระป๋อง (บีบน้ำออกจนแห้ง) น้ำเปล่า 5 ถ้วย น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ เกลือทะเล 1 ช้อนชา น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วย กุ้งสด (ปอกเปลือกผ่าหลัง) 10 ตัว น้ำมันพืช (สำหรับทอดไข่เจียว) วิธีทำ 1. ตีไข่ไก่พอแตก ใส่ชะอมเด็ดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย ตีผสมให้พอเข้ากัน 2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่ไข่ลงไปทอดจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงในถ้วย (หรือหม้อสำหรับเสิร์ฟ) เตรียมไว้ 3. โขลกน้ำพริกแกงส้ม หอมแดง และเนื้อปลาทูน่าเข้าด้วยกันจนละเอียด (หรือนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่น) 4. ใส่น้ำลงในหม้อ ตักน้ำพริกแกงส้มที่โขลกลงไปคนให้ละลาย จากนั้นเปิดไฟต้มจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก รอจนเดือดแล้วชิมรสตามชอบ 5. ใส่กุ้งสดลงไปต้มพอสุก ปิดไฟ ตักใส่ลงในถ้วยที่รองด้วยไข่เจียวชะอม พร้อมเสิร์ฟ เมนูแกงส้มชะอมกุ้งหน้าตาธรรมดา ๆ แบบนี้ ถ้าได้ใส่เนื้อปลาทูน่าลงไปก็ทำให้แกงส้มชะอมกุ้งแบบเดิม ๆ อร่อยมากยิ่งข

ส่วนผสม เนื้อปลากะพงหั่นชิ้นพอคำ 300 กรัม น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ ¼ ถ้วย เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า ¼ ถ้วย หอมเล็กเจียว ¼ ถ้วย กระเทียมเจียว 3 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูแห้งทอดกรอบ 10 - 15 เม็ด น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ 1. เคล้าเนื้อปลากับเกลือให้ทั่ว หมักไว้นาน 10 นาที จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนด้วยไฟกลางจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ 2. ทำซอสมะขามโดยผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำ เข้าด้วยกัน ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนเคี่ยวจนข้นเหนียว 3. ใส่เนื้อปลาลงคลุกเคล้ากับซอสมะขามที่เตรียมไว้ ปิดเตา 4. จัดใส่จานเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยหอมเจียวกระเทียมเจียว และพริกทอด ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือจานเด็ดเมนูอาหารไทย

ส่วนผสม ข้าวหอมมะลิหรือชนิดอื่นตามชอบ 300 กรัม สะโพกไก่ 8 ชิ้น หอมเล็กสับละเอียด 1 ช้อนชา ลูกผักชีคั่วป่นละเอียด 1 ช้อนชา ยี่หร่าคั่วป่นละเอียด ½ ช้อนชา อบเชยคั่วป่นละเอียด 1 ช้อนชา ใบกระวาน 2 - 3 ใบ ผงกะหรี่ 2 ช้อนชา ผงขมิ้น 2 ช้อนชา นมข้นจืด ¼ ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 2½ ถ้วย เนยสดชนิดเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช ¼ ถ้วย หอมเล็กเจียวตามชอบ น้ำจิ้มข้าวหมกไก่ตามชอบ ผักกาดหอมหรือผักสลัดตามชอบ วิธีทำ 1. ใช้ส้อมจิ้มบนหนังไก่ให้ทั่ว พักไว้ 2. ผสมผงกะหรี่ ผงขมิ้น ลูกผักชี ยี่หร่าอบเชย ใบกะวาน เกลือ และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน แบ่งส่วนผสมครึ่งส่วน ใส่ลงคลุกเคล้ากับไก่ที่เตรียมไว้ให้ทั่วเติมนมข้นจืด หมักไว้นาน 1 ชั่วโมงหรือแช่เย็นค้างคืนไว้ 3. ละลายเนยกับน้ำมันให้ร้อน ใส่ไก่ลงทอดพอให้หนังไก่ตึง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน 4. ใส่หอมเล็กลงผัดกับน้ำมันที่เหลือจนหอมตามด้วยส่วนผสมเครื่องหมักไก่ที่เหลือและข้าวสาร ผัดพอเข้ากัน ยกลงจากเตา เทลงหม้อหุงข้าว 5. เติมน้ำ ตามด้วยไก่ทอด ปิดฝาหม้อหุงจนข้าวสุกดี 6. จัดข้าวและไก่ใส่จานเสิร์ฟโรยหน้าด้วยหอมเล็กเจียวตามชอบรับประทานคู่กับน้ำจิ้

ส่วนผสม ข้าวสวย 1½ ถ้วย ไส้กรอกหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ¼ ถ้วย แฮมหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 2 - 3 ถ้วย เมล็ดถั่วลันเตาต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ แครอทหั่นสี่เหลี่ยมเล็กต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ เมล็ดข้าวโพดหวานต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ หอมหัวใหญ่สับ 2 ช้อนโต๊ะ ไข่ไก่ (ตีให้เข้ากัน) 2 ฟอง เนยสดชนิดเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น ¼ ช้อนชา พริกไทยป่น ½ ช้อนชา น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศสำหรับรับประทานคู่กัน วิธีทำ 1. ทาน้ำมันบางๆ ในกระทะเทฟลอนรอให้ร้อน เทไข่ลงกลอกให้ทั่วเป็นแผ่นบาง รอจนสุกดี ตักใส่จานพักไว้ 2. ผัดหอมหัวใหญ่กับเนยสดในกระทะใบเดิมด้วยไฟกลางจนหอม ใส่ไส้กรอกและแฮมลงผัดพอเข้ากัน ตามด้วยเมล็ดถั่วลันเตาแครอท และข้าวโพด 3. ใส่ข้าวสวยลงผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทย ปิดเตา 4. ตักข้าวผัดวางลงกลางแผ่นไข่ที่เตรียมไว้พับมุมทั้งสี่ด้านเข้าหากันและห่อข้าวให้มิดจากนั้นวางจานอีกใบลงด้านบน แล้วพลิกกลับด้าน ยกจานด้านบนออก 5. จัดเสิร์ฟได้ทันที รับประทานคู่กับซอสมะเขือเทศ ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือจานเด็ดเมนูจานเดียว

ส่วนผสม ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 300 กรัม เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอคำ 200 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ ตั้งฉ่าย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 2 - 3 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่นเล็กน้อย ต้นหอมซอยและผักกาดหอมตามชอบ ซอสพริกสำหรับรับประทานกับก๋วยเตี๋ยว วิธีทำ 1. ใส่น้ำมันในกระทะพอร้อน ผัดตั้งฉ่ายกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม แล้วใส่เนื้อไก่ลงไปผัดจนสุก 2. ใส่ไข่ไก่ลงไปเกลี่ยเบาๆ พอให้ไข่สุก 3. ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงผัด แล้วปรุงรสด้วยซอสปรุงรสน้ำมันหอย และน้ำตาลทราย 4. ตักใส่จานที่รองด้วยผักกาดหอม โรยหน้าด้วยพริกไทยป่นและต้นหอมซอย พร้อมเสิร์ฟทันที รับประทานกับซอสพริก ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือ Easy Thai Cooking

ส่วนผสม 1.แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง 2.แป้งทอดกรอบตราเหรียญทองคู่ 1 ถ้วยตวง 3.หัวกะทิ 250 มล. 4.น้ำปูนใส 200 มล. 5.น้ำตาลทรายเเดง 1 ถ้วยตวง 6.เกลือป่น 1/2ชช. 7.มะพร้าวทึนทึกขูดขาว 2 ถ้วยตวง 8.งาขาว 1/4 ถ้วยตวง 9.กล้วยน้ำหว้าห่ามๆ1หวี+มันรึเผือกก็ได้ผสมได้จ้า 10.น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ 1.นำแป้งทั้ง2อย่างผสมรวมกันใส่อ่างและใส่กะทิลงไป นวดๆแป้งจนหมดและใส่น้ำปูนใส่ลงไปนวดด้วยจนแป้ง เนียนไม่มีเม็ดแป้งแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปคนๆให้ ละลายและใส่เกลือลงไปและใส่มะพร้าวและงาขาวลงไป แล้วชิมรสนิดหน่อยจนพอใจได้จ้า 2.ปลอกเปลือกกล้วยและฝานให้เป็นแผ่นบางขนาดครึ่ง ซม.อะและมันก็ปลอกเปลือกล้างและเอามาหั่นเป็นชิ้นยาว เล็กๆหน่อยไว้และเอามันรึกล้วยลงแป้งได้เลยเตรียมทอด และทอดทีละอย่างนะค่ะ 3.ตั้งกะทะใส่น้ำมันพืชเยอะหน่อยประมาณครึ่งกะทะได้ และใช้ไฟกลางเมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้เอากล้วยลงหย่อน ไปทีละชิ้นนะค่ะแล้วคอยดูและเอาตะริวค่อยๆเขี่ยๆไม่ให้ กล้วยติดกันและพอเหลืองก็กลับด้านทอดให้เหลืองสวย ทั้งสองด้านแล้วตักพักไว้ในกระชอนให้สะเด็ดน้ำมันแล้ว ค่อยเอาใส่ถาดและทอดมันก็ทำแบบเดียวกันจ้า ไม่มีอะไรมากแค่นี้ก็อร่อยมา

อาหารที่ทำง่ายและอร่อยเหลือเชื่อ 📝🐓 ส่วนผสม และ เครื่องปรุง 1.ปีกไก่กลาง ครึ่งกิโล 2.เกลือทะเล 1ช้อนชา 📌เกลือที่หมักจะช่วยให้ไก่มีรสชาติแหลมอร่อยขึ้น ไก่ถูกหุ้มด้วยหนัง90%ไม่ต้องกลัวเค็มค่ะ 3.น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 5.ผงซุปไก่1ช้อนชา หรือผงชูรสก็ได้เลือกตามชอบ 6.ขมิ้นผง 1 ช้อนโต๊ะพูนๆ 🍳🍳 วิธีทำ 1.นำส่วนผสมทั้งหมดมาขยำกับปีกไก่ให้เข้ากัน 2.หมักทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง 3.นำมาทอดในน้ำมันร้อนจัด7-10นาที พอเหลืองสวยเอาขึ้นมาจัดใส่จานโรยเกลือ 📌เกลือที่โรย เราใช้ดอกเกลือจะอร่อยค่ะ จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว หรือ น้ำพริกหนุ่ม ทานกับข้าวสวยร้อนๆนะคะรับรองอร่อยอย่าบอกใคร 🎏🎏🎏น้ำส้มสายชูช่วยให้อาหารที่ทอดพวกหนังไก่ หรือ หนังหมู เหลืองกรอบหอมอร่อยน่าทาน เป็นเคล็ดลับของ ปีกไก่ทอด และ หมูกรอบ หรือหมูสามชั้น 🎏🎏ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูมหาศาลเกินคิดนะคะ ใช้ล้างดับกลิ่นคาวและล้างฟอร์มาลีนที่ใส่มาในปลาหมึกสด หรือ ล้างสารตกค้างที่ติดมากับอาหารพวกไก่สดและครื่องในของหมูกับไก่ได้เยี่ยมมาก สมัยนี้ทำอาหารต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับอาหารสดแต่ละชนิดด้วยค่ะ ที่มา:  Pilailuck Kanjanawat‎ ทางfacebook.

เมนูนี้เหมาะสำหรับกรุ๊ป A ส่วนผสม แซลมอนสดหั่นชิ้นพอคำ 180 กรัม กระเทียมดองหั่นชิ้นบาง 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสดหั่นชิ้นบาง 2 ช้อนโต๊ะ หอมเล็กซอยบางตามยาว 3 ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่สำหรับโรยหน้า ผักสลัดชนิดตามชอบสำหรับเสิร์ฟคู่กัน ส่วนผสมน้ำยำ พริกขี้หนูซอยบาง 1 - 2 เม็ด กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ผสมส่วนผสมน้ำยำทั้งหมดเข้าด้วยกัน พักไว้ 2. ใส่แซลมอน กระเทียมดอง กระเทียมสดและหอมเล็กลงในอ่างผสม แล้วใส่น้ำยำที่เตรียมไว้ลงเคล้าให้เข้ากัน 3. ตักยำแซลมอนใส่จานที่รองด้วยผักสลัดโรยใบสะระแหน่ก่อนเสิร์ฟ ที่มาสูตรและภาค : หนังสืออร่อยตามกรุ๊ปเลือด

ส่วนผสม หมูสันนอกหรือหมูสันในหั่นชิ้นหนา 1 เซนติเมตร 300 กรัม รากผักชีและพริกไทยเม็ดโขลกรวมกัน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 3 - 4 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ (ไม่ใส่ก็ได้) ½ ช้อนชา น้ำจิ้มแจ่วและผักสดต่างๆ สำหรับเสิร์ฟคู่กัน วิธีทำ 1. คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันใช้ส้อมจิ้มชิ้นหมูให้ทั่ว จัดใส่กล่องปิดฝาให้สนิท นำไปแช่เย็นหมักไว้ 1 คืน 2. ย่างเนื้อหมูที่หมักไว้บนกระทะด้วยไฟกลางค่อนข้างแรงจนสุกทั่ว ยกลงจากเตาหั่นเป็นชิ้นตามชอบ 3. จัดใส่จานเสิร์ฟ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วและผักสดตามชอบ ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย ½ ช้อนโต๊ะ ผักชีใบเลื่อยซอยบาง ½ ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ พริกป่น ½ - 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ผสมน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาวและพริกป่นเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ โรยข้าวคั่ว ต้นหอม และผักชีใบเลื่อย เตรียมไว้ ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือจานเด็ดเมนูอาหารไทย

ส่วนผสม ปลาดุกย่าง(แกะเฉพาะเนื้อ) 1 ตัว สับปะรดหั่นชิ้นพอคำ 1½ ถ้วย มะเขือเทศลูกเล็กผ่าครึ่ง 1 ถ้วย น้ำพริกแกงเผ็ดสำเร็จรูป ¼ ถ้วย กะทิธัญพืช 3 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 - 3 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ ใบโหระพา 1 ถ้วย พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง หั่นแฉลบ อย่างละ 1 - 2 เม็ด น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันด้วยไฟกลางจนหอม ใส่เนื้อปลาดุกย่าง ผัดพอเข้ากัน 2. ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บเติมกะทิ แล้วตั้งไฟต่อให้เดือด 3. ใส่สับปะรด มะเขือเทศ พริกชี้ฟ้าและใบมะกรูด คนให้เข้ากันโรยใบโหระพา ปิดเตา 4. ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆได้ทันที อร่อยได้อีก - ใช้มะเขือส้มแทนมะเขือเทศลูกเล็กได้ในปริมาณที่เท่ากัน ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือจานเด็ดเมนูอาหารไทย

ส่วนผสม เนื้อหมูสับ 200 กรัม กุ้งสับ 200 กรัม เนื้อปูต้มสุก 200 กรัม ไข่ไก่ 3 ฟอง รากผักชีหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 2 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ต้นหอมซอยละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ กระดองปูม้าขนาดกลาง 6 - 8 กระดอง น้ำมันสำหรับทอด พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นฝอย วิธีทำ 1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยจนละเอียด พักไว้ 2. ผสมเนื้อปู เนื้อหมู กุ้งสับ ไข่ไก่ 2 ฟอง และต้นหอมเข้ากับส่วนผสมในข้อแรก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทราย ผสมพอเข้ากัน 3. ตักส่วนผสมในข้อสองมาใส่ลงในกระดองปูให้เต็มนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 20-25 นาทีจนสุก พักให้เย็นนำมาชุบกับไข่ไก่ แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงแล้วทอดในน้ำมันจนเหลือง พักให้สะเด็ดน้ำมันจัดเสิร์ฟกับซอสต่างๆ ตามชอบ ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือ Easy Thai Cooking

ส่วนผสม เนื้อปลาสลิดทอดกรอบ 1½ ถ้วย ไข่เค็มหั่นชิ้นเล็ก 1 ฟอง ใบมะกรูดซอย 1 - 2 ใบ พริกชี้ฟ้าสีแดงซอยตามยาว ½ เม็ด น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 - 2 ช้อนชา น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ผัดน้ำพริกเผากับน้ำมันจนได้กลิ่นหอม ใส่ปลาสลิดลงผัดให้เข้ากัน ตามด้วยไข่เค็มปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ชิมรสให้ออกหวานนำเล็กน้อย ใส่ใบมะกรูด (เหลือไว้เล็กน้อยสำหรับโรยหน้า) และพริกชี้ฟ้าลงผัดให้เข้ากัน 2. ตักใส่จานเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยใบมะกรูดให้สวยงาม รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เคล็ดลับ - ใช้ปลาดุกฟูหรือปลากรอบชนิดอื่น ๆ แทนปลาสลิดทอดกรอบได้ตามชอบ ที่มาสูตรและภาพ : หนังสือปลาทำอะไรก็อร่อย

~เครื่องปรุง ~ _กุ้งแห้ง _กากหมู _ขิงอ่อน _หอมแดง _มะนาว _พริกขี้หนูสด _น้ำปลา _น้ำตาลปี๊บ ================================== ~วิธีทำ~ ใช้น้ำร้อนลวกกุ้งแห้งก่อนแล้ว ใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ ปอกเปลือกขิงหั่นฝอย ปอกหัวหอมซอยตามยาวพริกขี้หนูหั่นเล็กๆ ละลายน้ำตาลปีบ น้ำปลา น้ำมะนาวเข้าด้วยกัน ผสมกุ้งแห้ง กากหมู ขิงซอย หัวหอม พริกขี้หนูชิมรสตามชอบ ================================== ที่มา: ศุภชัย เสมอมิตร  ทาง facebook. https://plus.google.com/111133648436751462106/posts/HM5SxQsk4Hw

สิ่งที่ต้องเตรียมในการทำกล้วยบวชชี กล้วยน้ำว้าห่าม 8 ลูก หางกะทิ 500 มิลลิลิตร ใบเตย 2 ใบ น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ เกลือปริมาณเล็กน้อย หัวกะทิ 400 มิลลิลิตร ขั้นตอนการทำกล้วยบวชชี ต้มกล้วยน้ำในน้ำเดือด นานประมาณ 3-5 นาที จนผิวกล้วยเริ่มแตกออก ตักขึ้น ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ต้มหางกะทิกับใบเตยจนเดือด ใส่กล้วยตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และเกลือ ต้มจนเดือดอีกครั้ง ใส่หัวกะทิลงไป ต้มจนเดือดประมาณ 3 นาที ตักใส่ถ้วย พร้อมรับประทาน ที่มา  http://goo.gl/65OhYI

ส่วนผสมของไส้               หัวหอมซอย 2  ช้อนโต๊ะ    พริกไทย 1  ช้อนชา    รากผักชี  1  ช้อนโต๊ะ    ถั่วเขียวนึ่งบด  3  ถ้วยตวง      น้ำตาลทราย  1/2  ถ้วยตวง    น้ำมัน  1/3  ถ้วยตวง  เกลือ  1  ช้อนโต๊ะ    ถั่วเขียวนึ่งบด  3  ถ้วยตวง                 ตัวแป้ง  ฟักทองนึ่งบด 1/2  ถ้วยตวง  แป้งข้าวเหนียว  3  ถ้วยตวง  หัวกะทิ  1/2  ถ้วยตวง  น้ำ  1/4  ถ้วยตวง  น้ำมันสำหรับทอด  1  ขวด  น้ำตาลฉาบ     น้ำตาลทราย  1 1/2  ถ้วยตวง  น้ำปูนใส  3/4  ถ้วยตวง แป้งข้าวเจ้า  1 1/2  ถ้วยตวง  วิธีการทำขนมไข่หงส์ ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน นวดกับฟักทองแล้วค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใส กะทิ นวดจนเข้ากันและเนื้อเนียน ปั้นเป็นก้อนกลมขนาด 1 นิ้ว ส่วนของไส้   ให้โขลกรากผักชี หัวหอม พริกไทย ให้ละเอียด ใส่น้ำมันในกระทะ  เจียวเครื่องที่โขลกให้เหลือง ใส่ถั่วลงผัดปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือให้เข้ากัน ผัดจนแห้ง ปั้นไส้เป็นก้อนกลมเล็กกว่าแป้งนิดหน่อยพักไว้ แผ่แป้ง หยิบไส้ใส่หุ้มแป้งให้มิดไส้   คลึงเป็นรูปรีหรือกลม   นำไปทอดในน้ำมันร้อนจัด พอเหลืองตักขึ้น ผสมน้ำตาลทรายน้ำ ตั้งไ

ส่วนผสม ส่วนผสมในการทำตัวแป้ง แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง ข้าวสุก 1/2 ถ้วยตวง น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง มะพร้าวขูด 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 ช้อนชา มันหมูห่อผ้าขาว (เช็ดหลุมเตาก่อนหยอดตัวแป้ง, อาจใช้น้ำมันพืชแทนได้) ต้นหอมซอย, เมล็ดข้าวโพด, เผือก, ฟักทอง (สำหรับโรยหน้าขนมครก) ส่วนผสมทำกะทิหยอดหน้า หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 ช้อนชา วิธีทำขนมครก ทำตัวแป้งก่อน โดยเอาข้าวสารซาวให้สะอาด ผสมกับข้าวสุก, แป้งข้าวเจ้า, มะพร้าว และเกลือ ใส่กาละมังพักไว้ ต้มน้ำให้เดือด แล้วเอามาผสมในกาละมังที่ใส่ส่วนผสมไว้ ใช้ไม้พายคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันทั่ว ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอาไปโม่ก็จะได้แป้งขนมครกตามต้องการ ทำกะทิหยอดหน้าโดยผสมหัวกะทิ, น้ำตาลทรายและเกลือป่นเข้าด้วยกัน เสร็จแล้วพักไว้ วิธีทำ นำกระทะหลุมที่เตรียมไว้ตั้งไฟจนร้อนได้ที่ จึงเช็ดหลุมด้วยน้ำมันจากนั้นจึงหยอดแป้งลงไป (อย่าหยอดจนเต็ม เพราะต้องหยอดหน้ากะทิภายหลัง)  ปิดฟาทิ้งไว้จวนสุกจึงเปิดฝาออกและหยอดด้วยหน้ากะทิที่เตรียมไว้ ถ้ามีต้นหอมหรืออย่างอื่นเพิ่มเติมก็โรยลงบนหน้ากะทิ ปิดฝารอสักพักจนสุกจึงแคะออก ที่มา  http://goo.gl/ota6cg

วิธีทำ 1 แกะเม็ดหนำเลี๊ยบเอาแต่เนื้อ ใส่ชามแล้วใช้ช้อนยีๆๆๆ จากนั้นใส่หมูสับลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน 2 ตั้งกระทะเจียวกระเทียมสับจนหอม 3 ใส่หนำเลี๊ยบที่ยีพร้อมหมูสับเมื่อซักครู่ลงไป พอหมูเริ่มสุก ใส่ข้าวสวยค่ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน 4 ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ชิมแล้วปรับรสตามชอบ เสิร์พพร้อมเครื่องเคียงต่างๆ พริกแดงซอย ถั่วฝักยาวซอย มะนาวหั่นเต๋า ถั่วลิสงหรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หอมแดงซอย ฯลฯตามชอบ ที่มา  https://plus.google.com/111133648436751462106/posts/iXmeG23f8oL

ขนมหวานไทย ๆ ที่ชอบทานมาก สาคูไม่ว่าจะทำขนมอะไร ชอบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สาคูเปียก เผือก ข้าวโพด มะพร้าวอ่อน หรืออื่น ๆ ตะโก้สาคูเอย สาคูถั่วดำ หรือแม้แต่สาคูไส้หมู ก็ชอบ ส่วนผสม ..สาคูเปียก สาคูเม็ดเล็ก 1 ถุง (20 บาท) ข้าวโพดดิบ 3 ฝัก (25 บาท) น้ำตาลทราย 500 กรัม น้ำเปล่า 1.5 ลิตร ส่วนผสม ...หน้ากะทิ มะพร้าวขูดขาวคั้น 300 กรัม เกลือ 1 ช้อนชา แป้งมันหรือแป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ฝานเมล็ดข้าวโพดออกจากฝัก จะใช้เผือกหั่นเต๋า หรือมะพร้าวอ่อนด้วยก็ได้ พอดีเรามีแต่ข้าวโพดอย่างเดียว นำเม็ดสาคูมาเอาเศษดำ ๆ ที่ติดมากับเม็ดสาคูออกก่อน จากนั้นจึงเม็ดสาคูลงไปใส่ในหม้อที่ต้มน้ำไว้จนเดือด หมั่นคอยคนเพื่อไม่ให้เม็ดสาคูจับตัวเกาะกันเป็นก้อน สังเกตว่ารอบนอกของเม็ดสาคูเปลี่ยนจากสีขาวเป็นเม็ดใส ข้างในยังเป็นตากบสีขาวขุนอยู่บ้าง ใส่ข้าวโพดดิบที่ฝานไว้ลงไป คนไปเรื่อย ๆ จนเหลือสีขาวขุนนิดหน่อย จึงใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย รอจนสาคูสุกทั่วกันไม่มีไตขาว เสร็จแล้วยกลงพักไว้ จากนั้นก็ทำกะทิราดหน้าสาคู ด้วยการนำหัวกะทิไปเคี่ยวใส่เกลือลงในกะทิตั้งไฟ คนให้เกลือละลาย เมื่อกะทิเริ่มเดือด ใส่แป้งมันหรือแป้งข้าว

ส่วนผสม หอยลาย 1 กิโลกรัม ใบโหระพา กระเทียม พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้าแดงไสลด์เป็นเส้นๆ น้ำพริกเผา ซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาวเห็ดหอม รสดี พริกไทย น้ำตาล  วิธีทำ 1. นำหอยมาล้างน้ำ แล้วนำหอยลายไปนึ่่งประมาณ 5 นาที ให้พอสุก แล้วเด็ดฝาออกให้เหลือแค่ข้างเดียว 2. เตรียมใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง และเครื่องปรุง (นำซีอิ้วขาวเห็ดหอม ซอสหอยนางรม รสดี พริกไทย น้ำตาลเล็กน้อย มาผสมกัน แล้วเติมน้ำนิดหน่อย ผสมให้เข้ากัน) 3. ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำพริก กระเทียม ลงไปผัดจนหอม 4. ใส่น้ำพริกเผาตามลงไป ผัดต่อจนมีกลิ่นหอม 5. ใส่เครื่องปรุงรส 6. ใส่หอยลายลงไป ผัดให้เข้ากัน 7. ปิดท้ายด้วยใบโหระพา และพริกชี้ฟ้าแดง ผัดให้เข้ากันปิดไฟ ตักเสริฟ ที่มา  https://plus.google.com/101330165158802365711/posts/U9n3a5K8YFm

เครื่องปรุง + ส่วนผสม * หมูสับ 200 กรัม * วุ้นเส้น 100 กรัม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) * ไข่ไก่ 6 ฟอง * น้ำมันพืช ¼ ถ้วยตวง * กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ (ไว้โรยหน้า) * หัวหอมใหญ่ ½ ถ้วยตวง * น้ำซุปไก่ 6 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า) * น้ำปลา 1/3 ถ้วยตวง * พริกไทย 1/4 ช้อนชา * กะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม * ต้นหอม 2 ต้น (หั่นยาวประมาณ 1 นิ้ว) วิธีทำทีละขั้นตอน 1. ตั้งไฟในกระทะ ใส่น้ำมัน รอจนกระทั่งน้ำมันร้อน จึงใส่ไข่ลงไปเจียวให้เหลือง (หนึ่งข้างใช้เวลาทอด ประมาณ 2 นาที) เมื่อสุกแล้วนำออกมาหั่นเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป 2. นำน้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) ใส่หม้อและนำไปตั้งไฟ รอจนกระทั่งเดือด ใส่หมูสับ คนจนกระทั่งหมูสุก 3. ใส่หอมใหญ่, กะหล่ำปลี, ต้นหอม ต้มสักพักจึงใส่ไข่เจียวที่หั่นเป็นชิ้นๆไว้แล้ว และเครื่องปรุงที่เหลือทั้งหมด 4. ต้มจนเดือดอีกครั้งจึงตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ที่มา  https://plus.google.com/107826646780188892807/posts/L2ZiQP1dNDS

เครื่องปรุง + ส่วนผสม * กุ้งขนาดกลาง 5-8 ตัว * เกล็ดขนมปัง 1/2 ถ้วยตวง * หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ * มะม่วงดิบสับเป็นเส้น 1 ถ้วยตวง * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ * พริกขี้หนูซอย 1/2 ช้อนชา * ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ (หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์) * พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ * ผักชีสำหรับโรยหน้า * น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ 1. ทำน้ำปรุงรสโดยผสมน้ำตาล, น้ำปลา, พริกขี้หนู, มะม่วงดิบและหอมแดงซอย เคล้ากันจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มเตรียมรอเสริฟ 2. ล้างทำความสะอาดกุ้ง ปอกเปลือกออก สับหยาบๆ จากนั้นจึงใส่เกล็ดขนมปังลงไป สับต่อจนเนื้อกุ้งละเอียดให้ละเอียด 3. ตั้งน้ำมันบนไฟร้อนปานกลาง นำกุ้งสับที่ผสมเกล็ดขนมปัง (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) ลงไปทอดจนเหลืองกรอบ จึงปิดไฟ นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานโรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่ว, พริกชี้ฟ้าและผักชี 4. เวลาเสริฟ สามารถแยกเสริฟระหว่างกุ้งฟูทอดกับน้ำปรุงรส หรือเสริฟโดยราดน้ำปรุงรสบน กุ้งฟูแล้วเสริฟทันที พร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นกับแกล้มก็ดี ที่มา  https://plus.google.com/107826646780188892807/posts/XnZ6KouAr1s

ส่วนผสมในการทำทำมะขามแช่อิ่ม 1. มะขามสดฝักใหญ่ 1 กิโลกรัม ประมาณ 40 ฝัก 2. น้ำต้มเดือด 3. น้ำปูนใส 5 ถ้วย 4. น้ำเกลือ (เกลือ 1/2 ถ้วยต่อน้ำ 5 ถ้วย ) 5. น้ำเชื่อม 6. น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม 7. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 8. น้ำ 3 ถ้วย วิธีทำมะขามแช่อิ่ม 1. มะขามใส่หม้อ ต้มน้ำเดือดเทลงในหม้อมะขามให้ท่วมฝักมะขามทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที เทน้ำออกให้หมด แช่น้ำเย็นทันที แกะเปลือกออก 2. นำมะขามที่แกะเปลือกออกแล้ว แช่ในน้ำปูนใสประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วสงขึ้น ล้างด้วย น้ำอีกครั้ง 3. แช่ในน้ำเกลือประมาณ 3 ชม. แล้วล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ 4. น้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำ ตั้งไฟพอเดือดและน้ำตาล เกลือ ละลายหมด กรองด้วยผ้าขาว บาง พักไว้ให้เย็น 5. นำมะขามลงแช่ ให้น้ำเชื่อมท่วมมะขาม พักไว้ 1 วัน วันที่ 2 นำมะขามขึ้นจากน้ำเชื่อม นำน้ำเชื่อม อุ่นให้เดือด พักไว้ให้เย็น ใส่มะขามลงแช่ใหม่ทำเช่นนี้ 3-4วัน แต่วันหลังๆ ควรเพิ่มน้ำตาลอีกเล็กน้อย คำแนะนำในการทำทำมะขามแช่อิ่ม * น้ำร้อนช่วยทำให้แกะเปลือกมะขามออกได้ง่ายขึ้น แต่อย่าแช่นานเกินไป จะทำให้ มะขามสุกเปื่อย * แช่มะขามในน้ำปูนใสเพื่อต้องการให้กรอบและแช่ในน้ำเกลือเพื่อให