ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2016

แจกสูตร กล้วยปิ้งราดซอสมะพร้าวอ่อน ทำขายก็ดี

วัตถุดิบกล้วยปิ้ง ราดซอสมะพร้าวอ่อน 1.กะทิ(250 มิลลิลิตร) 1 กล่อง แนะนำเป็นยี่ห้ออร่อยดีไม่มีกลื่นหืน 2.น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม สูตรหวานพอดี หากชอบหวานมากให้เพิ่มเป้น 300 กรัม 3.เกลือ 1/2 ช้อนชา 4.แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำสะอาด 1 ช้อนโต๊ะ 6.กล้วยน้ำว้า 1 หวี 7.มะพร้าวอ่อนขูดลอนใหญ่ 1 ถ้วย เคล็ดลับการเลือกกล้วยให้พอดีปิ้งอร่อยไม่ฝาดและไม่เละ เลือกกล้วยน้ำว้าสีกะดังงา คือ กล้วยที่มีสีเขียวแซมบริเวณปลายและตรงโคนมีสีเหลือง หรือที่เรียกว่ากล้วยกำลังห่ามนั่นเองค่ะ แบบนี้จะย่างง่ายหน่อย เสียบไม้ง่าย และอร่อยกำลังพอดี วิธีทำซอสมะพร้าวอ่อน 1.เคี่ยวกะทิกับน้ำตาลปี๊บในหม้อด้วยไฟอ่อนจนละลาย 2.จากนั้นเติมเกลือลงไปคนไปเรื่อย ๆ จนกะทิเริ่มข้นชิมรสตามชอบใจ 3. นำแป้งข้าวโพสผสมกับน้ำคนให้เข้ากัน ใส่ลงในหม้อคนให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ ตั้งไว้ให้เย็น ขั้นตอนปิ้งกล้วยให้อร่อย 1.เริ่มจากการตัดหัวท้ายของผลกล้วยทั้งสองข้างทิ้งและกรีดลงมาเป็นแนวยาวเส้นเดียว หลังจากนั้นก็ลอกเปลือกกล้วยออกได้เลยอย่างง่ายดายตัดหัวท้ายของกล้วยออกเพื่อความสวยงาม 2. นำกล้วยน้ำว้าทั้งลูกไปปิ้งให้สุก หากไม่สะดวกใช้วิะีปิ้งเตาถ่านให้นำไป

วิธีการทำปลาส้ม การทำส้มปลาตะเพียน สูตรการทำปลาส้มอีสาน

ส่วนผสมของ ส้มปลาตะเพียน 1. ปลาตะเพียน 4 ตัว 2. ข้าวสุก 1 ถ้วยตวง 3. กระเทียมโขลก 1/2 ถ้วยตวง 4. เกลือป่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ วิธีการทำ ส้มปลาตะเีพียน 1. ถอดเกล็ดปลาตะเพียนทำความสะอาดและควักไส้ออกให้หมด จากนั้นล้างให้สะอาด ใช้ผ้าซับให้สะเด็ดน้ำ 2. คลุกกระเทียมที่โขลกแล้วกับเกลือให้เข้ากันจากนั้นนำไปทาให้ทั่วตัวปลา นวดเบาๆ ประมาณ 10 นาที ใส่ข้าวสุกนวดต่อไปอีกรอบพอให้เข้ากัน 3. นำข้าวสุกอัดใส่ท้องปลาให้เต็ม หมักปลาไว้ประมาณ 3 วัน จึงนำปลามาประกอบอาหาร เช่น ทอด ย่าง หรือ ปิ้ง ข้อแนะนำ การทำปลาส้ม 1. สามารถเลือกปลาชนิดอื่นแทนได้ แต่ควรเป็นชนิดที่มีก้างและมีกลิ่นคาวน้อยๆ 2. สามารถนำปลาไปทอด หมก ปิ้ง ย่าง รับประทานพร้อมกับหอมซอย และพริกขี้หนู หรืออาจจะนำมาประกอบอาหารเป็น หลนปลาส้มได้ Cr. สูตรอาหาร http://สูตรอาหารไทย4ภาค.blogspot.com/2013/05/blog-post.html Cr. ภาพอาหาร Internet

แจกสูตร ยำสามกรอบ แก้มเบียร์เย็นๆ จร้า.!!!

ยำสามกรอบ แก้มเบียร์เย็นๆ จร้า.!!! ส่วนผสม 1.กระเพาะปลา 2.ปลาหมึกแห้ง 3.กุ้งแห้ง 4.พริกขี้หนู 5.ใบคื่นช่าย 6.หอมหัวใหญ่ 7.มะเขือเทศ 8.น้ำปลา 9.น้ำมะนาว 10.น้ำตาลปี๊บ 11.เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 12.น้ำมันรำข้าวสำหรับทอด วิธีทำ 1.ทอดกระเพาะปลา กุ้งแห้ง ปลาหมึก ให้กรอบ พักให้สะเด็ดน้ำมัน 2.ปรุงน้ำยำ โขลกพริกขี้หนูพอหยาบๆ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว คนให้เข้ากันดี ใส่หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ใบคื่นช่าย กระเพาะปลา กุ้งแห้ง ปลาหมึกที่ทอดไว้ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ เคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน จัดใส่จาน ที่มา: Supaporn Kumnodnae ทางfacebook

แจกสูตร " ยำปลาทูน่าฟู " หรือจะใช้ ปลานิล,ปลาดุกก็ได้

" ยำปลาทูน่าฟู " หรือจะใช้ ปลานิล,ปลาดุกก็ได้ค่ะ ขั้นตอนก็ไม่ต่างกัน.. ช่วงหน้าฝน...หาเครื่องกระป๋องติดบ้านไว้ก็สะดวกดีนะคะ เผื่อวันฝนตกหนัก...ออกไปไหนลำบาก ทำอาหารทานเองที่บ้านดีกว่า วันนี้ขอเสนอเมนูจากปลาทูน่ากระป๋อง ค่ะ * ส่วนผสม 1.ปลาทูน่ากระป๋อง ชนิดในน้ำมันพืช 1 กระป๋อง 2.มะม่วงดิบสับ 5 ช้อนโต๊ะ 3.กุ้งแห้งโขลกหยาบๆ 1 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำปลา 2 ช้อนชา (ระวังเค็ม เพราะปลาทูน่าจะมีรสเค็มอยู่แล้ว) 5.น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา 6.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 7.หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ 8.พริกสดซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ 9.ใบคื่นช่าย 1 ต้น 10.ถั่วลิสงทอด 2 ช้อนโต๊ะ 11.น้ำมันรำข้าวสำหรับทอด ** วิธีทำ 1.นำปลาทูน่ากระป๋องเทใส่กระชอน พักไว้ให้น้ำมันออกหมด แล้วเอาแต่เนื้อไปโขลกให้ละเอียด ใช้ส้อมตะกุยๆให้เนื้อปลาแยกจากกัน ตอนทอดจะได้ฟู 2.ตั้งภาชนะสำหรับทอด ใส่น้ำมันลงไปให้สูงจากก้นหม้อ 1 นิ้ว (เราใช้หม้อใบเล็กทอดจะได้ไม่เปลืองน้ำมัน แล้วแบ่งเนื้อปลาทอด 3 ครั้ง) พอน้ำมันร้อนดี ใส่เนื้อปลาลงไปทอด ใช้ไฟกลางๆ พอเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วจัดใส่จาน ที่รองด้วยคื่นช่าย โรยหน้าด้วยถั่วทอด *ข้อควรระวัง เวลาทอดน้ำ

แจกสูตร " น้ำจิ้ม" 9 แบบ พร้อมอัตราส่วน

1. น้ำจิ้มซีฟู๊ด ทานกับอาหารซีฟู๊ด อัตตราส่วนสำหรับ 1 ถ้วยเล็ก วัตถุดิบ 1.พริกไทยเม็ด 5-8 เม็ด 2.พริกขี้หนูสวน 2 ชต. 3.กระเทียมไทย 1 ชต. 4.น้ำปลา 2.5 ชต. 5.มะนาว 2.5 ชต. 6.น้ำตาลทราย 0.5 ชช.(หากไม่ชอบหวานไม่ต้องใส่) 7.ผงชูรส(หากชอบ) 1/4 ชช. 8.ผงปรุงรสหมู 0.5 ชช. วิธีทำ 1.ตำพริกไทยให้ละเอียด 2.ใส่พริกและกระเทียมลงตำ 3.ปรุงรส เพิ่มตามตามชอบ ————— 2. น้ำจิ้มยำมะม่วงไม่ใส่ถั่ว ทานกับปลาสำลีแดดเดียว หรือปลาแดดเดียวหรือตามชอบ อัตตราส่วนสำหรับ 1 ถ้วยใหญ่ วัตถุดิบ 1.น้ำปลา 3-4 ชต. 2.น้ำตาลทรายหรือปี๊บ 2-3 ชต. 3.พริกขี้หนูสวน สับละเอียด 1.5 ชต. 4.หอมแดงซอย 5 หัว 5.มะม่วงซอย 3 ชต. 6.มะนาว 1 ชต. 7.ผักชี 8.ผงชูรส(หากชอบ) 0.5 ชช. 9.ผงปรุงรสหมู 1 ชช. วิธีทำ 1.ละลายน้ำตาลและน้ำปลาและเครื่องปรุงให้เข้ากัน 2.ใส่หอมแดง มะม่วง และชิมรสตามต้องการ เน้นอย่าเปรียวนำ(เพราะน้ำจากมะม่วงจะทำให้เปรี้ยวมากขึ้น) 3.โรยผักชี ————— 3.น้ำจิ้มเมี่ยงปลาทู ทานกับเมี่ยงปลาทู เมี่ยงปลาเผา อัตราส่วนสำหรับ1 ถ้วยใหญ่ วัตถุดิบ 1.พริกไทยเม็ด 10-15 เม็ด 2.รากผักชี 4-5 ราก 3.พริกขี้หนูสวน 3-4 ชต.(หากไม่ชอบเผ็ดให้ลดลง) 4.กระเทียมไท

แจกสูตรข้าวเกรียบปากหม้อง่ายๆ ทำเองได้

ส่วนผสมของแป้ง 1. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย 2. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ 3. แ้ป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ (แป้งซึ่งทำมาจากหัวหรือรากของต้นเท้ายายม่อม) 4. น้ำเปล่า 3 ถ้วย ทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อ เมื่อเตรียมส่วนผสมดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วก็มาเริ่มทำแป้งข้าวเกรียบปากหม้อกันเลย ซึ่งวิธีทำ ให้นำทั้งแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแ้ป้งเท้ายายม่อม ซึ่งได้เตรียมไว้เทผสมกันลงไป แล้วค่อยๆ เทน้ำลงไป นวดแป้งไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะเหนียว เท่านี้ก็ได้แป้งไว้สำหรับทำข้าวเกรียบปากหม้อแล้ว เมื่อได้แป้งแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นตัวตัดสินความอร่อยของข้าวเกรียบปากหม้อก็คือไส้นั่นเอง ซึ่งวิธีทำก็ไม่ยากอีกเช่นกัน ส่วนผสมของไส้ข้าวเกรียบปากหม้อ 1. เนื้อหมู สับให้ละเอียด 2 ขีด 2. ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 3 ขีด 3. ไชโป๊วสับละเอียด 3 ขีด 4.หอมแดง 10 หัว (นำมาสับละเอียด) 5. น้ำตาลปี๊บ 1 ขีด 6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำไส้ข้าวเกรียบปากหม้อ 1. ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน และนำหมูสับละเอียดที่เตรียมไว้ไปผัดให้สุก 2. ใส่หอมแดง กับไชโป๊วที่ได้เตรียมไว้ลงไปผัดกับหมูสับให้เข้ากัน 3. เมื่อเข้ากันดีแล้วให้เทน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาที่เตร

แจกสูตร สาคูไส้หมู

ส่วนผสมไส้สาคูไส้หมู 1. เนื้อหมูสับละเอียด 500 กรัม 2. หัวหอมแดงหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 500 กรัม 3. ถั่วลิสงคั่วป่น 1 ถ้วยตวง 4. หัวไชวโป๊วสับละเอียด 400 กรัม 5. พริกไทยเม็ด 2 ช้อนชา 6. กระเทียมหั่นหยาบๆ โขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ 7. รากผักชีหั่นโขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำตาลมะพร้าว 500 กรัม 9. ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ 10. กระเทียมทุบสับละเอียด 1/4 ถ้วยตวง 11. น้ำมัน 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำสาคูไส้หมู 1. ตวงน้ำมันใส่กระทะนำตั้งไฟ ใส่กระเทียมลงไปเจียวพอเหลือง ตักขึ้น พร้อมกับน้ำมัน 2. รวนหมูให้สุกตักขึ้นพักไว้ 3. ตวงน้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ ใส่กระทะนำไปตั้งไฟ ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปผัดจนหอม ใส่หมูที่รวนไว้ หัวหอมแดงหั่นสี่เหลี่ยม หัวไชวโป๊วสับใส่ซีอิ๊วขาว ผัดให้เข้ากันชิมรสพอรสดี ผัดจนแห้งยกลง ใส่ถั่วลิสงผัดให้เข้ากัน ตักขึ้นพักให้เย็น 4. ปั้นไส้เป็นรูปกลมๆ ขนาด 1 ซม. เตรียมไว้ ส่วนผสมแป้ง 1. สาคูเม็ดเล็ก 2 ถ้วยตวง 2. น้ำเปล่า 3. กระเทียมเจียว วิธีทำสาคูไส้หมู 1. นำสาคูมาล้างน้ำ แล้วเทน้ำทิ้งออกไป 2. แช่สาคูในน้ำพอแ ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที (สาคูจะพองตัว) 3. นำสาคูมานวดเบาๆ แล้วปั

แจกสูตร ผัดเผ็ดปลาเผาะใบยี่หร่า

* ส่วนผสม 1.ปลาเผาะ (ปลาแม่น้ำโขง อยู่ในวงศ์ปลาสวาย แต่เนื้อไม่มันมากค่ะ) 2.พริกแกงเผ็ด 3.มะเขือเปาะ 4.ใบยี่หร่า 5.พริกสด 6.น้ำตาลปี๊บ 7.น้ำปลา 8.น้ำปูนใส 9.เกลือ 10.น้ำมันสำหรับผัด ** วิธีทำ - ล้างทำความสะอาดปลา แช่น้ำปูนใส 10 นาที ล้างให้สะอาด แล่เอาแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้นเล็ก เตรียมไว้ - มะเขือล้างแล้วหั่นแช่น้ำเกลือไว้ เพื่อไม่ให้ดำ - ตั้งกะทะผัดพริกแกงให้หอม ใส่เนื้อปลาลงผัด พอเริ่มสุก ใส่มะเขือ เติมน้ำลงไป 1 ทัพพี ผัดพอมะเขือเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ใส่พริกสด และใบยี่หร่า ผัดพอผักสลด ตักใส่จานทานกับข้าวสวย ค่ะ ขอบคุณที่มา: Supaporn Kumnodnae  ทาง facebook.

แจกสูตร ขนมเบื้อง ขนมไทย

ส่วนผสม แป้งขนมเบื้อง 1. แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย 2. ถั่วเขียวคั่วป่นละเอียด 1 ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว) 3. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย 4. ไข่ไก่ 2 ฟอง 5. น้ำปูนใส 2 ถ้วย (หรือน้ำเปล่า) ส่วนผสม ครีมขนมเบื้อง 1. ไข่ขาว (ไข่เป็ด) แช่เย็นจัด 2 ฟอง 2. น้ำตาลปี๊บ 400 กรัม ส่วนผสม ไส้หวาน 1. ฝอยทอง 2 ถ้วย 2. งาขาวคั่ว (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 1/2 ถ้วย ส่วนผสม ไส้เค็ม 1. รากผักชี 2 ราก 2. กระเทียม 5 กลีบ 3. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา 4. มะพร้าวขาวขูด 1 ถ้วย 5. เกลือป่น 2 ช้อนชา 6. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ 7. กุ้งสดสับละเอียด 1/2 ถ้วย 8. สีผสมอาหารสีส้ม เล็กน้อย 9. น้ำมันพืชสำหรับผัด อุปกรณ์ที่ควรมี 1. เครื่องตีแป้ง 2. กระจ่า 3. เตาขนมเบื้อง (ถ้าไม่มีใช้กระทะเทฟลอน) วิธีทำแป้งขนมเบื้อง 1. ผสมแป้งข้าวเจ้า ถั่วเขียวคั่วป่น น้ำตาลทราย และไข่ไก่เข้าด้วยกัน 2. ค่อย ๆ เทน้ำปูนใสลงไปทีละน้อยแล้วสลับกับนวดแป้งไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแป้งเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ประมาณ 10 นาที และน้ำตาลทรายละลายหมด เตรียมไว้ วิธีทำครีมขนมเบื้อง 1. ตีไข่ขาวกับน้ำตาลปี๊บด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟูและตั้งยอด ประมาณ 10-15 นาที หมายเหตุ : ถ้าไม่มีเครื่องตีแป้

แจกสูตร ทอดมันหมูเด้งๆ

เครื่องปรุงทอดมันหมูเด้ง 1. เนื้อหมูบดละเอียด 400 กรัม (ละเอียดมากที่สุด ) 2. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนกินข้าว 3. พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนกินข้าวพูนๆ...เพิ่มลดได้ 4. ผงฝู 1 ช้อนชา 5. เกลือ 1/2 ช้อนชา 6. นํ้ามันพืช 1 ช้อนกินข้าว 7. นํ้าเย็นประมาณ 4 ช้อนกินข้าว (ถ้าไม่ใส่เนื้อหมูทอดแล้วแข็ง ) 8. ใบมะกรูด 7-8 ใบ 9. ใบกระเพรา 7-8 ใบ 10. นํ้ามันพืชสำหรับทอด วิธีทำ เนื้อหมูแช่เย็นจัดๆนำมาหั่นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอืยดสุดๆเลยนะคะ ถ้าไม่ละเอียดทอดมันก็จะไม่เด้ง ใส่นํ้า ใส่นํ้ามันพืช และเกลือ ปั่นต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเนื้อหมูจะละเอียด ให้ดูความละเอียดของเนื้อหมูที่บดได้ เมื่อละเอียดดีแล้ว ก็ใส่พริกแกงเผ็ด แล้วปั่นให้พริกแกงเข้ากันกับเนื้อหมู ใส่ผงฟู แล้วปั่นต่อ ให้ผงฟูเข้ากันกับเนื้อหมู ปั่นให้ผงฟูเข้ากันกับเนื้อหมูทั่วๆ แล้วก็ใส่แป้งข้าวโพด ปั่นต่อ ให้ส่วนผสมเข้ากันให้ทั่ว ก็หยุดเครื่องได้ แล้วตักออกใส่ชามใบผสม ใส่ใบมะกรูดซอย และใบกระเพราซอย คลุกเคล้าให้ใบมะกรูดและใบกระเพรากระจายทั่วๆเนื้อหมู นำมาทอดไฟกลางๆ ทอดไม่ต้องนาน เพราะเนื้อทอดมันหมูจะสุกง่ายมากๆ คือต้องสังเกตุดูด้วยนะคะ เพราะตอนทอดนี้ก็สำคัญเ

แจกสูตรน้ำจิ้มลูกชิ้นนึ่งสมุนไพร

สูตรน้ำจิ้มลูกชิ้นนึ่งสมุนไพร น้ำจิ้มลูกชิ้นนึ่ง แบบที่ 1 – น้ำส้มสายชู ส่วนผสม 1. น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง 2. น้ำสะอาด 1/4 ถ้วยตวง 3. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง 4. เกลือป่น 1 ช้อนชา 5. พริกแดงโขลกละเอียด 1-2 เม็ด 6. แป้งมัน 2 ช้อนชา ให้ละลายในน้ำสะอาด 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ผสมน้ำส้มสายชู, น้ำ, น้ำตาล, เกลือ, พริกแดง ตั้งไฟพอเดือด ใส่แป้งมันที่ละลายน้ำเล็กน้อยลงคนจนเหนียวพอสุกยกลง ชิมรสตามใจชอบ แบบที่ 2 – น้ำมะขามเปียก ส่วนผสม 1). น้ำมะขาม (โดยการนำมะขามเปียกหรือสดมาขยำกับน้ำพอประมาณ มากน้อยตามที่เราต้องการ จากนั้นกรองเอากากมะขามทิ้ง ) 2). นำน้ำมะขามที่เตรียมไว้ไปตั้งไฟให้ร้อน ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปให้เยอะหน่อย เพื่อให้น้ำจะออกรสหวาน ๆ ชิมรสให้ออกเปรี้ยวหวาน 3). ละลายแป้งมันใส่ลงไปเพื่อทำให้น้ำจิ้มเหนียว หมั่นคนเรื่อย ๆ จนเดือดก็หรี่ไฟลงแต่ก็ยังคนไปเรื่อย ๆ มันจะเหนียวขึ้น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วหรือน้ำปลานิดหน่อยไม่ต้องมาก พอให้รสออกหวาน ปน เปรี้ยวนิด ๆ และมีเค็มหน่อย ๆ 4). เอาพริกทอดมาตำให้ละเอียด พอน้ำจิ้มเริ่มข้นเหนียวดีแล้ว ก็เอาพริกทอดที่ตำเตรียมไว้ใส่ลงไป และโรยด้วยใบผักชีนิดหน่อย แบบที่ 3 - กระเทีย

แจกสูตร กุยช่ายแต้จิ๋วสูตรโบราณ

ส่วนผสมและวิธีทำ ตัวแป้ง 1. แป้งมันสำปะหลัง 500 กรัม 2. แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม 3. น้ำเดือดจัด 3+1/2 ถ้วย 4. น้ำ 1 ถ้วย 5. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ ไส้กุยช่าย 1. กุยช่ายซอย 2 กก. 2. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา 3. เกลือสมุทร 2 ช้อนชา 4. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำมัน 3/4 ถ้วย น้ำจิ้ม 1. น้ำ 4 ถ้วย 2. เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย 4. ซีอิ๊วดำหวาน 1/2 ถ้วย 5. น้ำตาลทรายไม่ฟอก 1/2 ถ้วย 6. พริกขี้หนูสวนบดผสมน้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย วิธีทำ 1. ทำน้ำจิ้มโดยผสมเครื่องปรุงทั้งหมดใส่หม้อ เคี่ยวไฟกลางพอเดือด ปิดไฟ พักไว้จนเย็น 2. ทำไส้โดยผสมใบกุยช่าย เบกกิ้งโซดา เกลือ น้ำตาล และน้ำมัน เคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ใบกุยช่ายนุ่ม เทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ 3. ทำแป้งโดยผสมแป้งมันและแป้งข้าวเจ้ารวมกันในอ่างผสม ใส่น้ำเดือดจัดลงไป ใช้พายไม้คนให้ทั่ว พอแป้งอุ่นมือใช้มือนวดให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่น้ำทีละน้อยสลับกับน้ำมัน ใช้สันมือนวดไปเรื่อย ๆ จนแป้งเหนียวรวมกันเป็นก้อน นวดจนน้ำและน้ำมันหมดแป้งจะเป็นก้อนเหนียวและนุ่มมือ 4. แบ่งแป้งเป็นก้อนกลมเล็ก ใช้แป้งมันแห้งเป็นแป้งนวล แล้วบีบไล่แป้งให้เป็นแผ่นบาง

แจกสูตร ปลากะพงนึ่งมะนาว รสเด็ดจัดจ้าน

ส่วนผสมเมนูปลานึ่งมะนาว 1. ปลากะพง 1 ตัว (ใช้ขนาดประมาณครึ่งกิโลนะค่ะ เหมาะกับทาน 2-3 คน) 2. น้ำปลา, น้ำมะนาว ประมาณอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ (เราต้องการรสที่เข้มข้นค่ะ) 3. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 4. พริกขี้หนูสวน (ปริมาณแล้วแต่ความชอบ หากชอบเผ็ดมากก็ใช้เยอะค่ะ) 5. กระเทียมประมาณ 10 กลีบ 6. ผักกาดขาว 7. ผักชี วิธีทำ 1. นำปลากะพงมาขอดเกล็ดแล้วล้างให้สะอาด บั้งปลาให้สวยงามแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ (ในกรณีที่ใช้ปลาตัวใหญ่อาจจะทำการหั่นเป็นสองท่อนก็ได้นะค่ะ) 2. นำพริกสดมาเด็ดขั้วออก, ปอกเปลือกกระเทียม, เด็ดใบผักกาดขาว, เด็ดใบผักชี แล้วนำทั้งหมดไปล้างน้ำ แล้วซับให้พอหมาดๆ เล็กน้อย 3. ใส่น้ำประมาณ 1/3 ของหม้อลังถึง ตั้งไฟรอน้ำเดือด นำผักกาดขาววางบนจานก่อนนำปลาขึ้นวางด้านบน เมื่อน้ำเดือดให้นำปลาลงนึง ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ เมื่อครบกำหนดแล้วเช็คดูอีกครั้งว่าปลาสุกดีหรือไม่ แล้วรีบยกลง (หากปลาตัวใหญ่และหนาก็อาจจะใช้เวลามากกว่านี้ค่ะ) 4. ทำน้ำราดโดยการผสม พริกขี้หนูทุบและหั่นหยาบๆ น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว กระเทียมซอยบางๆ คยให้เข้ากันแล้วชิมรส จะต้องได้รส เปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด หากเปรี้ยวเกินไปให้ใส่น้ำปลาและน

แจกสูตร หมกลาบปลาตอง

ส่วนผสม 1.ปลาตองขูดเอาแต่เนื้อ 2.พริกป่น 3.ข้าวคั่ว 4.น้ำปลาร้า 5.น้ำปลา 6.น้ำมะนาว 7.หอมแดงซอย 8.ต้นหอมซอย 9.ผักชีฝรั่ง 10.สะระแหน่ วิธีทำ - โขลกเนื้อปลาให้เหนียว ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำมะนาว หอมแดง ต้นหอม ผักชีฝรั่ง น้ำสะอาด 2ทัพพี คนส่วนผสมให้เข้ากัน ห่อด้วยใบตองแล้วนำไปปิ้งให้สุก ขอบคุณที่มา: Supaporn Kumnodnae ทาง facebook.

แจกสูตร ห่อหมกปลาใบโหระพา - ใบยอ (สูตรโบราณ)

ห่อหมกปลาใบโหระพา (สูตรโบราณ) สวยงาม และ น่าทานมาก ทำทานเองได้ไม่ยาก มาดูสูตรกันเลย!!! ส่วนผสม 1. น้ำพริกแกง ประกอบด้วย พริกชี้ฟ้าแห้ง 5 เม็ด ข่าหั่น 2 ช้อนชา ตะไคร้ 1 ต้น กระเทียม 10 กลีบ หอม 5 หัว ผิวมะกูดฝอย 1/2 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา กะปิ 1 ช้อนชา กระชาย ปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 5-6 ราก รากผักชี 1 ช้อนชา พริกไทย 5 เม็ด ตำหรือปั่นให้ละเอียด (น้ำพริกแกงนี้จะใช้แบบสำเร็จรูปก็ได้) 2. เนื้อปลาช่อน หรือปลาอินทรี แล่เป็นชิ้นอย่าให้เล็กมาก 800 กรัม 3. น้ำกะทิ 3 ถ้วย 4. หัวกะทิ 1 ถ้วย 5. แป้งข้าวจ้าว 3 ช้อนโต๊ะ 6. ไข่ไก่ 2 ฟอง 7. น้ำปลา น้ำตาลทราย 8. ใบโหระพาเด็ดเป็นใบประมาณ 1 ถ้วย (จะใช้ใบยอ หรือกระหล่ำปลีก็ได้) 9. ใบมะกรูดซอยบาง 10. พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น ใบมะกรูดหั่นเป็นเส้น สำหรับแต่งหน้า วิธีทำ 1. เทน้ำกะทิในข้อ 3 ลงในหม้อ ใส่พริกแกงที่ตำละเอียดแล้ว และแป้งข้าวจ้าวลงไป 2 ช้อน ใช้ทัพพีคนจนเข้ากันดี 2. ใส่เนื้อปลาลงในหม้อน้ำกะทิผสมเครื่องแกงและแป้งข้าวจ้าวที่ผสมเตรียมไว้ในข้อ 1 แล้วใช้ทัพพีคนส่วนผสม เวลาคนควรคนไปในทิศทางเดียวกันเสมอ อย่างน้อย 10 นาที จะเห็นว่าส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น 3.

แจกสูตร ปอเปี๊ยะสด เมนูของว่างยอดนิยมอีกหนึ่งเมนู

ปอเปี๊ยะสด เมนูของว่างยอดนิยมอีกหนึ่งเมนู ด้วยความอร่อยของเนื้อหมูที่ปรุงรสจนหอมอร่อย ห่อด้วยแป้งปอเปี๊ยะและไส้ต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หมูตั้ง เต้าหู้ กุนเชียง ผักต่างๆ ทานกับน้ำราดที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวานและต้นหอมสด รับรองว่าเมนูนี้ถูกใจคนชอบกินปอเปี๊ยะสดแน่นอนค่ะ วัตถุดิบ 1. แผ่นแป้งปอเปี๊ยะ (แผ่นบางๆ นิ่มๆ) 1/2 กิโลกรัม 2. หมูตั้ง (นึ่งพอสุกนิ่ม-หั่นเป็นแท่งยาวๆ 3”หนา 1/2ซม) 3 ขีด 3. เนื้อหมูสันนอก (หั่นเป็นเป็นแท่งยาว 5”) 3 ขีด 4. เต้าหู้เหลืองแผ่น (หั่นแป็นแท่งยาว 2”หนา 1/2ซม) 1 แผ่น 5. กุนเชียง (ทอด-หั่นเป็นท่อน 1 ท่อน 9 ชิ้น) 1 คู่ 6. แตงกวา (ตัดหัวท้าย-หั่นเป็นท่อน) 4-5 ลูก 7. ผักกาดหอม 1/2 กิโลกรัม 8. ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ 9. ซีอิ้วขาว (1 ชช บัวแดง 1ชต) 3 ช้อนโต๊ะ 10. ซีอิ้วดำ 1 ช้อนชา 11. แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ 12. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ 13. ถั่วงอก (ลวก-ผ่านน้ำเย็น-สเด็ดน้ำ) น้ำจิ้ม 14. น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วย 15. น้ำตาล 1 ถ้วย 16. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ 17. ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ 18. แป้งมันหรือท้าวยาวม่อม (ละลายน้ำ) 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. กะทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย ผัดผงพะโล้กับหมูเส้

แจกสูตร ชาปั่นปังเย็น

ชาปั่นปังเย็น เมนูนี้ควรมีไว้ประดับหน้าร้อนเป็นอย่างยิ่ง อร่อยถูกใจทุกคน ส่วนผสม ผงชาดำ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเดือดจัด 3/4 ถ้วยตวง นมข้นหวาน 5 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ น้ำแข็งป่น 3 ถ้วยตวง ขนมปังหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ 2 แผ่น คาราเมไซรัปสำหรับท้อปปิ้ง วิธีทำ 1.ผสมผงชาดำกับน้ำเดือด คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักครู่ นำมากรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำตาลทราย และนมข้นหวาน คนให้ละลายเข้ากัน 2.ใส่ส่วนผสมในข้อที่ 1 ลงในโถปั่นน้ำผลไม้ เติมน้ำแข็งป่น ปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ถ้วยที่รองด้วยขนมปัง จากนั้น ราดด้วยคาราเมลไซรัป จัดเสิร์ฟ ที่มา  https://www.instagram.com/p/BDCGDevsQwN/

วิธีทำ ปลาร้า ไว้กินเอง ไม่ยากอย่างที่คิด

วิธีทำ ปลาร้า 1. นำปลาที่จะทำปลาร้า (เป็นปลาสร้อยขาวหรือปลากระดี่ก็ได้) นำมาทำความสะอาด แล้ววางพักไว้บนตะแกรง หากเป็นปลาตัวใหญ่เอาไส้ออกให้หมดและขอดเกร็ดออก 2. เตรียมส่วนผสมหากใช้ปลาประมาณ 6 ถ้วยตวง (ประมาณเอา) ใช้ เกลือ 2 ถ้วย และข้าวคั่ว 1 ถ้วย จากนั้นก็คลุกให้เข้ากัน สังเกตุถ้าปลาได้ที่แล้วตัวเนื้อปลาจะแข็ง หากเนื้อปลายังเละอยู่ให้เติมเกลือเข้าไปอีก 3. เตรียมภาชนะใส่ปลาที่สามารถปิดได้มิดชิด กันแมลงวันลงไปได้ เช่น โหล หรือ ไห ล้างให้สะอาด แล้วใส่ปลาลงไปให้ต่ำกว่าขอบภาชนะเล็กน้อย จากนั้นใช้ผ้าปิดภาชนะให้สนิท หรือฝาโหล ควรปิดให้สนิทมิดชิด ไม่ให้อะไรลงไปได้ 4. หมักจนเกลือเป็นน้ำละลายท่วมตัวปลา ใช้เวลา 5 – 8 สัปดาห์ จนปลาเป็นสีแดงก็สามารนำมาใช้งานได้แล้ว 5. หากจะนำน้ำมาทำส้มตำ กรองเอาเนื้อออก และเพื่อความสะอาดก่อนนำมาใช้ให้นำไปต้มเพื่อฆ่าเชื้อก่อน หรือใครชอบกินตัวปลา ก็ใส่ไปได้ทั้งตัวและน้ำเลยค่ะ ปลาร้า นำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น หลน ทอด นึ่ง เผา ส่วนน้ำก็นำไปทำส้มตำ ปลาร้าที่นิยมใส่ลงไปในส้มตำจะมีอยู่ 3 แบบ 1. ปลาร้าต่วงหรือปลาแดกน้อย ทำจากปลาตัวเล็ก หมักกับเกลือ รสเค็มกลมกล่

แจกสูตร ผัดผักกระเฉดเส้นหมี่กุ้งสด

ส่วนผสม 1. เส้นหมี่แช่น้ำให้นิ่ม 2. กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลัง 3. ยอดผักกระเฉดอ่อนๆ 4. กระเที่ยม 5. พริกขี้หนู 6. น้ำมันหอย 7. ซีอิ๊วขาว 8. เต้าเจี้ยว 9. น้ำตาลทราย 10. น้ำเปล่า 11. พริกชี้ฟ้าแดง 12. น้ำมันพืช วิธีทำ 1. ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอร้อนได้ที่ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงผัดให้หอม 2. ใส่กุ้งสดลงไปผัดให้พอเข้ากัน เติมส่วนผสม น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว เต้าเจี้ยว น้ำตาลทราย จากนั้นจึงใส่เส้นหมี่ลงผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ผักกระเฉดลงสุดท้าย ผัดเร็วๆให้เข้ากัน ชิมรส ตามชอบ ตักใส่จานพร้อมรับประทาน Cr. สูตรอาหาร http://goodmenuthai.blogspot.com Cr. ภาพอาหาร Internet

แจกสูตร ยำเส้นแก้ว

เตรียมเครื่อง •กุ้งสดๆ ผ่าหลัง แล้วลวก •หอมหัวใหญ่ •พริกขี้หนูซอย (แล้วแต่ชอบนะคะ) •เส้นแก้ว 1 ถุง •คึ่นฉ่าย •ต้นหอม •ผักชี •มะเขือเทศ •มะนาว 2 ลูก •กระเทียมดอง 3 หัว (ไม่ชอบไม่ใส่ก็ได้ค่ะ) •น้ำปลา เกลือ น้ำตาลทราย วิธีทำ •หั่นมะเขือเทศ และซอยหอมหัวใหญ่ •ลวกเส้นแก้วด้วยน้ำร้อน (หลังซองระบุว่าใช้ได้เลย แต่แม่ก็นำไปลวกน้ำร้อนซักหน่อย) •เตรียมน้ำยำโดย ใส่น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ ผสมด้วย น้ำปลาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว (ใช้ 1 ลูกก่อน) เกลือ 1/2 ช้อนชา แล้วใส่พริกขี้หนูซอย เรียบร้อยแล้วให้ลองชิมรสดู ปรุงเพิ่มจนพอใจค่่ะ •ใส่กุ้งลวก เส้นแก้ว และผักทุกอย่างลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน และตอนนี้พร้อมรับประทานแล้วค่ะ Cr. สูตรอาหาร http://lekkathaifood.blogspot.com

แจกสูตร ปีกไก่ทอดน้ำปลา อร่อยง่ายๆ ในราคาประหยัด

ส่วนผสม 1. ปีกไก่ 1/2 กิโลกรัม 2. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำมันพืชสำหรับทอด วิธีทำ 1. หั่นครึ่งปีกไก่เป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ ใส่ชามผสมเตรียมไว้ 2. หมักไก่กับน้ำปลาแล้วเคล้าผสมให้เข้ากันจนทั่วชิ้นไก่ หมักทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง 3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟแรง รอจนน้ำมันร้อนจัด จากนั้นนำไก่ลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ 4. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน 5. จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ Cr. สูตรอาหารและภาพอาหาร http://www.naibann.com/fish-sauce-fried-chicken/

แจกสูตร ลาบปลาดุก

ส่วนผสม 1. เนื้อปลาดุกย่าง 1 ถ้วย 2. หอมแดงซอย 1/4 ถ้วย 3. ข่าซอยบางๆ 1 ช้อนโต๊ะ 4. ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วย 5. ผักชีฝรั่งซอย 1/4 ถ้วย 6. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 7. พริกขี้หนูป่น 1 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 9. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ 10. งาดำคั่วป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 11. ใบสะระแหน่ 1/2 ถ้วย 12. ผักที่รับประทานกลับลาบ ใบโหระพา กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว แตงกวา ผักชี มะเขือเปราะ วิธีทำ 1. ปลาดุกย่างเอาเฉพาะเนื้อ ลอกหนังออก สับให้ละเอียด นำปลาดุกที่สับแล้วใส่หม้อ ใส่ข่า ตะไคร้ ตั้งไฟคั่วให้แห้งเล็กน้อย ยกลงจากเตา 2. ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาว หอมแดง ผักชีฝรั่ง งาดำ เคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ Cr. สูตรอาหาร http://catfish-th.blogspot.com/ Cr. ภาพอาหาร Internet

วิธีการทำเมนูหมูสวรรค์ กับวิธีทำง่ายๆ แต่อร่อยสุดๆ

วิธีการทำเมนูหมูสวรรค์ กับวิธีทำง่ายๆ แต่อร่อยสุดๆ (ใครทานเนื้อก็ดัดแปลงกันได้นะค่ะ เราไม่ได้ทานเนื้อวัว) ส่วนผสมหมูสวรรค์ 1. เนื้อหมูส่วนสะโพก 1 กิโลกรัม 2. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ 3. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง 5. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา 6. กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 7. ลูกผักชีและยี่หร่าป่นหยาบ ½ ถ้วยตวง 8. น้ำมันพืช วิธีการทำหมูสวรรค์ 1. ล้างเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นบางๆ 2. เคี่ยวเกลือป่น น้ำตาลปี๊บ และกระเทียมสับให้ข้นเหนียว 3. นำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงเคล้ากับส่วนผสม หมักทิ้งไว้สักครู่ ใส่ลูกผักชีและยี่หร่าป่นเคล้าให้ทั่ว 4. แผ่เนื้อหมูแต่ละชิ้นวางบนตะแกรงผึ่งแดดพอแห้ง นำลงทอดในน้ำมันพืช ****พักส่วนผสมให้เย็นก่อนนำเนื้อหมูไปคลุก ลองทำกันดูนะวิธีทำง่ายๆ แต่ได้อาหารที่อร่อยสุดๆ กันไปเลยนะค่ะ ขอบคุณที่มาโดย : เกษตรก้าวหน้า Cr. สูตรอาหาร http://www.farmthailand.com/ Cr. ภาพอาหาร Internet

แจกสูตร กล้วยบวชชีสาคูรากบัว

“กล้วยบวชชีสาคูรากบัว” สิ่งที่ต้องเตรียมคือ กล้วยน้ำว้าเลือกแบบไม่สุกมากค่ะ นำมาต้มทั้งเปลือกประมาณ 15 นาที สุกแล้วตักขึ้นพักไว้ให้เย็นค่ะ ระหว่างนั้น เตรียมตั้งกะทิ ด้วยไฟอ่อนๆ นะคะ เติมน้ำเปล่านิดนึง เพราะใช้กะทิกล่อง 100% จะข้นมาก เติมเกลือหน่อยนึง และน้ำตาลปี๊บค่ะ จะไม่ใช้น้ำตาลทรายนะคะ เพราะจะทำให้ความหวานแหลมจนเกินไป อะไรก็ตามที่เป็นเมนูกะทิ ไม่ว่าจะเป็นของคาว หรือของหวาน แนะนำให้ใช้น้ำตาลปี๊บค่ะ รสชาติจะกลมกล่อมกำลังดีเลยทีเดียว ใส่ใบเตยลงไปด้วยเพื่อให้ได้ความหอมละมุน เอาล่ะคนให้น้ำตาลและเกลือละลาย จากนั้นก็จะใส่สาคูรากบัว เมื่อนำมาผสมกับแป้งสาคูซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่บริสุทธิ์มากที่สุดจากธรรมชาติ ตั้งทิ้งไว้ให้เดือดค่ะ ถ้าใช้ไฟแรงจะทำให้กะทิแตกมัน จะทำให้น้ำกะทิไม่สวยนะคะ พอกล้วยเย็นลงแล้ว นำมาปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นแผ่นยาวๆ ค่ะ หรือถ้าใครชอบแนวขวาง แนวเฉียง หั่นได้ตามใจชอบเลยค่ะ นำใส่ลงไปในหม้อกะทิที่กำลังเดือด เบาไฟลงนิดนึง ตั้งไฟต่อสักพักเพื่อให้น้ำกะทิซึมเข้าไปในเนื้อกล้วยสักเล็กน้อยค่ะ จากนั้นดับไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลยค่ะ Cr. ภาพอาหาร http://mungkulkar.com/cooking

แจกสูตร ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม 1 ปลาอินทรีย์เค็ม 2 กระเทียมสับละเอียด 3 ก้านคะน้าและแครอทหั่นเต๋าลวกสุกและน็อคน้ำเย็นมาแล้ว 4 ไข่ไก่ 5 ข้าวสวย 6 น้ำมันหอย 7 น้ำปลา 8 น้ำตาลทราย 9 ผงปรุงรส 10 พริกไทยป่น 11 มะนาวหั่นซีก พริกซอย หอมแดงซอย และต้นหอมสำหรับแต่งจาน วิธีทำ 1. เริ่มจากทอดปลาเค็ม แกะเอาเฉพาะเนื้อ ไม่เอาก้าง แล้วยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำลงไปทอดอีกครั้งจนกรอบ พักไว้ 2. ลวกก้านคะน้าและแครอทในน้ำเดือดจนเริ่มนิ่มแล้วรีบน็อคในน้ำเย็น พักไว้ 3. ใช้น้ำมันที่ทอดปลา เจียวกระเทียมสับจนหอม ตอกไข่ลงไปค่ะพอไข่สุกก็ยีๆๆ จากนั้นเติมข้าวสวยลงไปตามด้วยเนื้อปลาเค็ม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาลทราย ผงปรุงรส พริกไทยป่น ชิมจนได้รสที่ชอบ สุดท้ายใส่ก้านคะน้าและแครอทหั่นเต๋าลวกสุกลงไปคลุกเคล้า 4. เสิร์ฟพร้อมมะนาวหั่นซีก พริก หอมแดงซอย และต้นหอม Cr. สูตรอาหาร http://bankanom-chainat.blogspot.com/2015/05/blog-post_23.html Cr. ภาพอาหาร http://pantip.com/topic/33453903

แจกสูตร ปลาทับทิมนึ่งมะนาว

วิธีการทำปลาทับทิมนึ่งมะนาวไม่ยากครับ วิธีการทำแยกเป็น 2 ส่วนคือ การเตรียมน้ำจิ้มราด ซึ่งก็คล้ายๆหรือจะว่าไปเหมือนน้ำยำมาม่าเลย เมื่อเตรียมน้ำจิ้มราดแล้ว ต่อไปก็คือนึ่งปลาทับทิม เสร็จแล้วก็ราดน้ำจิ้มลงไปที่ปลา และประดับด้วยผักและมะนาวหั่นแว่น แค่นี้เราก็ได้ปลาทับทิมนึ่งมะนาวอร่อยๆค่ะ น้ำจิ้มราดปลา วัตถุดิบและเครื่องปรุง 1. พริกขี้หนูสด สับหรือตำให้ละเอียด 1-2 ช้อนโต๊ะ 2. กระเทียมสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ 3. มะนาว 3 ช้อน 4. น้ำปลา 3 ช้อน 5. น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ 6. รากผักชี 2-3 ราก ทุบให้แตก 7. น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 8. ผักชีหอมซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำน้ำจิ้มราดปลาทับทิมนึ่งมะนาว 1. ผสมพริก กระเทียม น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำกระเทียมดอง น้ำตาลปี๊บ รากผักชี ให้เข้ากันตามสูตรด้านบน หรือปรุงรสเพิ่มตามใจชอบจ้า แต่ให้ออกเปรี้ยวและมีกลิ่นมะนาว 2. ปรุงรสชาติได้ตามต้องการแล้ว โรยด้วยผักชีหอม วัตถุดิบและเครื่องปรุงปลาทับทิมนึ่งมะนาว 1. ปลาทับทิม ตัวใหญ่ 1 ตัว 2. ข่าหั่นเฉียง 2-3 หัว 3. ตะไคร้ 2-3 หัว ทุบให้แตก 4. ใบมะกรูด หั่นหยาบๆ 5. ขึ้นฉ่าย 2-3 ต้น วิธีทำปลาทับทิมนึ่งมะนาว 1. ล้างปลาให้ส

อาชีพเสริม อาชีพอิสระการทำหมูกระจก ทำง่ายๆ กำไรดี

"หมูกระจก" 3 สูตร ให้เลือกทำ ทำกินอร่อยมาก ทำเป็นอาชีพเสริมก็ดีเยี่ยม ลองดูสูตรทำกันเลยค่ะ อาชีพเสริม อาชีพอิสระการทำหมูกระจก ทำง่ายๆ กำไรดี หมูกระจกสูตร 1 ส่วนผสม 1. หมูสามชั้น 5 ขีด 2. แป้งสาลี 1 ถ้วย 3. ไข่ไก่ 1 ฟอง 4. น้ำมันพืช พริกไทย เกลือ ซอสปรุงรส วิธีทำ 1. ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง นำมาหมักกับพริกไทย เกลือ ซอสปรุงรส หมัก 1 ชั่วโมง 2. นำหมูสามชั้นมาต้มให้สุกตักขึ้น หั่นเป็นชิ้นบางๆ 3. ผสมแป้งสาลี ไข่ไก่ น้ำปูนใสเข้าด้วยกัน ดูอย่าให้ใสนัก นำหมูสามชั้น จุ่มลงในแป้งลงทอดในน้ำมันจนเหลือง 4. ตักขึ้นรับประทานกับน้ำพริกเผา ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมะนาว ----------------------------------------------------------------------------------- หมูกระจกสูตร 2 เครื่องปรุง 1. หมูสามชั้น 1 กก. 2. เกลือป่น ครึ่งช้อน 3. แป้งข้าเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ 4. แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ 5. ปูนแดง 1/4 ช้อนชา 6. น้ำมันพืชสหรับทอด 4 ถ้วยตวง วิธีปรุง ก่อนอื่น ต้มหมูสามชั้นให้สุกเสียก่อน แต่ไม่สุกจนเปื่อย ยกลง เอาหมูสามชั้นพักเอาไว้ให้หายร้อน จึงเอามาหั่นเป็นชิ้นบางๆ โดยเอาหนังหมูออกไปก่อน ไม่ใช่หนังหมูหั่นเป็น

สูตร แหนมซี่โครงหมูทอด ( แหนมกระดูกอ่อนทอด)

ส่วนผสม 1. ซี่โครงหมูหรือกระดูกอ่อนหมู 1 กก. 2. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ 3. กระเทียมกลีบใหญ่ 15 กลีบ 4. ข้าวเหนียวนึ่งสุก 1 ถ้วย 5. รสดีหมู 1/2 ช้อนชา 6. แป้งทอดกรอบ( ไม่ใส่ก็ได้คะ ) 7. น้ำมัน วิธีทำแหนมซี่โครงหมู 1. นำซี่โครงหมู หรือ กระดูกอ่อน มาล้างให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นพอดี แล้วนำไปผึ่งให้แห้ง 2. โขลกกระเทียมกับเกลือพอหยาบๆ นำไปผสมกับข้าวเหนียวที่เตรียมไว้ 3. นำซี่โครงหมูไปคลุกเคล้ากับส่วนผสมข้อ 2 ใช้มือนวด ให้เข้ากัน ซัก 2-3 นาที แล้วพักไว้ซักครึ่งชั่วโมงค่อยใส่ถุง 4. แบ่งใส่ถุงพลาสติก ไล่ลมในถุงออกให้หมด แล้วห่อและมัดด้วย หนังยางให้แน่น ซัก 3 ชั้น ทิ้งไว้ 3 วัน ข้างนอกอุณภูมิปกติ ซี่โครงหมูจะมีรสเปรี้ยว หรือถ้าหมักเก็บไว้ เข้าตู้เย็น แช่ช่องฟรีซเพื่อเก็บอจะอยู่ได้นานมาก ไม่มีเสียคะ 5. ก่อนนำลงทอด เอาข้าวเหนียวที่พอกออกให้มากที่สุดก่อนนะคะ เหลือติดอยู่บ้างไม่เป็นไรค่ะ ทานได้ จากนั้นให้คลุกแหนมใน แป้งทอดกรอบ ( ไม่ใส่ก็ได้คะ ) พอให้แป้งทั่ว ๆ ชิ้นแหนม ไม่ต้องพอกหนาคะ ถ้าไม่ใส่ ก็นำไปทอดได้เลยคะ 6. ตอนทอด ต้องทอดไฟอ่อนๆ และคนตลอดค่ะ ไม่อย่างนั้นติดกะทะค่ะ 7. จัดใส่จาน พร้อมเสริฟ คู่กระเทียมแกะ

แจกสูตร ยำตะไคร้กุ้งสด

ส่วนผสมและสัดส่วน 1. ตะไคร้ซอยบางๆ 5 ต้น 2. พริกขี้หนูซอย 3. หอมแดงซอย 2 – 3 หัว 4. กุ้งสด 4 – 5 ตัว 5. กุ้งแห้งทอดกรอบ ตามชอบ 6. มะม่วงหิมพานต์อบสุกครึ่งซีก ตามชอบ 7. น้ำตาลปี๊บ ตามชอบ 8. น้ำมะนาวตามชอบ 9. เกลือหรือน้ำปลา ตามชอบ 10. น้ำเปล่า วิธีปรุง 1. เตรียมเครื่องยำต่างๆ ซอยผักต่างๆ กุ้งแกะเปลือกผ่าหลัง ลวกสุกไว้ เตรียมไว้ 2. เตรียมทำน้ำยำโดย ตั้งน้ำเปล้าเล็กน้อยให้เดือดใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนให้ละลาย จนส่วนผสมเริ่มข้นเหนียว 3. เติมเกลือ น้ำมะนาว คนให้เข้ากันชิมรสตามชอบ ใส่เครื่องยำต่างๆ ลงไปคลุกให้เข้ากัน ตักใส่จานโรยด้วยกุ้งแห้งทอดกรอบ Cr. สูตรอาหาร http://th.openrice.com/th/recipe/ยำตะไคร้กุ้งสด/937 Cr. ภาพอาหาร http://www.rimklonghouse.com/gallery/present/big/2.png

แจกฟรี สูตรเครื่องดื่มวุ้น เย็นจับใจปานอยู่ขั้วโลกเหนือ แบบไม่ง้อตู้เย็น

ไว้ อาลัยแด่อุณหภูมิ 40 องศาด้วยสูตรทำโค้กวุ้น, น้ำผลไม้วุ้น หรือแม้แต่เบียร์วุ้น ให้กลายเป็นสเลอร์ปี้แบบบ้านๆ ดับร้อนกันง่ายๆ แบบไม่ง้อตู้เย็น ร้อนจุงเบย >< เลิกบ่นแล้วมาทำเครื่องดื่มคลายร้อนแบบง่ายๆ ในราคาประหยัดกันดีกว่าค่ะ ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้วล่ะก็ เริ่มกันเลยค่า  วัตถุดิบ น้ำอัดลม, น้ำผลไม้, เบียร์     เลือกได้ตามชอบ น้ำแข็ง   4  ถุง เกลือเม็ดใหญ่   1 ถุง   อุปกรณ์        1. กล่องโฟมหรือกระติกน้ำแข็ง ลงมือโลดดดด!! 1. ไล่อากาศ เริ่มด้วยการนำน้ำอัดลมมาเปิดฝาเพื่อไล่อากาศออก แล้วปิดฝาน้ำอัดลมให้สนิทและใส่ลงในกล่องโฟม 2. แช่ + เขย่า ใส่น้ำแข็งลงไปทั้งหมดและโรยเกลือเม็ดใหญ่ให้ทั่วๆ ปิดกล่องและคอยเขย่ากล่องโฟมบ่อยๆ จนครบ 15 นาที Tip ..ลองสังเกตุดูว่าน้ำอัดลมจับตัวเป็นน้ำแข็งหรือยัง ถ้ายังแช่ต่ออีก 5 นาทีจ้า 3. เท เย้! ในที่สุดก็ได้สเลอร์ปี้แล้ว อย่าช้าเทใส่แก้วแล้วมาดูดดื่มกับเครื่องดื่มเย็นจับใจ แบบที่ไม่ต้องง้อตู้เย็น Tip ..เมื่อน้ำอัดลมจับตัวเป็นน้ำแข็งแล้ว ห้ามเขย่าเด้อ ให้เทใส่แก้วเลยไม่งั้นจะเป็นน้ำเสียก่อน ส่วนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ครบ 15 นาทีแล้วพลิกขวด เอาเหรียญบ

แจกสูตร ไก่ต้มกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

ส่วนผสมไก่ต้มกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว 1. สะโพกไก่ (ชอบส่วนตัว) 2. ขิงบุบ/กระเทียมบุบ/รากผักชีบุบ 4. เกลือเม็ด 5. น้ำแข็ง 6. น้ำเปล่า 7. แตงกวา/ผักชี/ผักกาดหอม วิธีทำไก่ต้มกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว 1.ต้มน้ำใส่ ขิงบุบ/กระเทียมบุบ/รากผักชีบุบและเกลือ ให้เดือด 2. ใส่ไก่ลงไปต้ม เมื่อเดือดอีกครั้งให้หรี่ไฟลง ต้มไปอีกประมาณ 30 นาที 3. เตรียมน้ำแข็งใส่น้ำให้เย็นจัด เอาไก่ที่ต้มได้ที่แล้ว ใส่ลงไปเพื่อน๊อคไก่ เมื่อไก่เย็นแล้วให้ นำมาวางไว้บนตะแกรง 4.นำไก่มาสับและจัดจานด้วยผักกาดหอม แตงกวา ผักชี ส่วนผสมน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว 1.เต้าเจี้ยว 2.ขิงหั่นเต๋าเล็ก ๆ 3.กระเทียมสับละเอียด 4.พริกซอย 5.น้ำส้มสายชู 6.น้ำมะนาว 7.น้ำตาล วิธีทำน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว 1. นำเต้าเจี้ยว น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว น้ำตาล ผสมเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ 2.ใส่ขิง กระเทียม พริก ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน 3.ตักใส่ถ้วยแต่งหน้าด้วยผักชี Cr. สูตรอาหาร http://rayong-phakin2.blogspot.com/ Cr. ภาพอาหาร Internet

แจกสูตร ครองแครงกรอบ

ส่วนประกอบ 1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม 2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 3. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 4. ไข่ไก่เบอร์ 2 - 1 ฟอง 5. หัวกะทิ 120 กรัม 6. น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 8. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา 9. น้ำมันสำหรับทอด 2 ถ้วยตวง สูตรประจำตระกูลร่อนน้ำตาลทรายไปพร้อมกับแป้ง คุณย่าบอกว่า "น้ำตาลทรายเป็นตัวช่วยให้ความกรอบ" ถ้าท่านคั่วมะพร้าว หรือเจียวกระเทียม เสร็จแล้วเอาน้ำมันออก เมื่อเย็นตัวใส่น้ำตาลทรายลงไป จะทำให้คงความกรอบนาน ส่วนผสมน้ำตาลเคลือบ 1. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ 2. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ 3. รากผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำตาลปีบ 1/4 ถ้วยตวง 5. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมข้อ 1 + 2 + 3 สามเกลอ ใส่ครกโขลกให้ละเอียดมากที่สุด แล้วพักไว้ ขั้นตอนการทำแป้ง 1. ร่อนแป้ง + น้ำตาลทราย + พริกไทยป่น สองรอบ เสร็จแล้วเกลี่ยแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง ใส่ไข่ไก่ + น้ำปูนใส + น้ำกะทิ + เกลือ + น้ำมันพืช นวดให้พอเข้ากัน ไม่ต้องนวดนานเดี๋ยวแป้งจะเหนียว พักแป้งประมาณ 20 นาที 2. จากนั้นแบ่งแป้งเป็นก้อนเล็ก ๆ กลม ๆ ขนาด 1 - 1.5 ซม. นำแป้งที่ปั้นกดลงบนพิมพ์ ชอบรูปทรงแบบไหน จะแบบขดหอย หรือแบบแบนย

วิธีทำ น้ำสลัด หลากหลายสไตล์

ถ้าพูดถึงเมนูสำหรับคนลดความอ้วนแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นสลัด แต่จะกินสลัดแบบเดิมๆ ทุกวันก็คงจะเบื่อ วันนี้เลยเอาวิธีทำน้ำสลัด ที่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้านเราเอง ใครชอบสูตรไหน ก็จดกันไปทำได้เลยมาเริ่มกันที่ น้ำสลัดน้ำใสสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนผสม 1. ซีอิ๊วถั่วเหลืองญี่ปุ่น 1/4 ถ้วยตวง 2. น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง 3. น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง 4. มายองเนส 1/4 ถ้วยตวง 5. งาคั่ว และน้ำมันงา 1/4 ถ้วยตวง วิธีทำน้ำสลัด 1. นำ 3 ข้อแรก มาผสมกัน ถ้ารสยังไม่ถูกใจให้ปรุงรสตามชอบ ถ้ารู้สึกหวานไป ให้เติมน้ำส้มสายชูเพิ่ม เอาใส่หม้อ ตั้งเตาให้น้ำตาลละลาย ยกลงจากเตา 2. แล้วใส่มายองเนส คนให้เข้ากันตามด้วยงา และน้ำมันงานิดหน่อยพอแต่งกลิ่น 3. นำไปราดบนผักที่เตรียมไว้ ก็พร้อมรับประทานแล้ว ****น้ำสลัดแบบนี้เหมาะกับผักเรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค และมะเขือเทศ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบของเลี่ยนๆ น้ำสลัดลูกพลับ ส่วนผสม 1. ลูกพลับ 2 ผล 2. มะนาว 1 ผล(ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ) 3. เกลือ 1 ช้อนชา 4. น้ำมันโอลิฟ 1 ช้อนโต๊ะ 5. พริกไทยดำเล็กน้อย วิธีทำน้ำสลัด 1. ปอกเปลือกลูกพลับ แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆนำลูกพลับ และส่วนผสมใส่ลงเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

วิธีทำ ผัดสุกี้ยากี้ทะเลแห้ง

ส่วนผสมสำหรับทำสุกี้ยากี้แห้ง 1. น้ำจิ้มสุกี้ 1 ถ้วยน้ำจิ้ม ดูวิธีทำน้ำจิ้มสุกี้ 2. ผักบุ้งหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย 3. ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย 4. วุ้นเส้นแช่น้ำ 1 ถ้วย 5. ผักคื่นฉ่าย หั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ต้น 6. ต้นหอมหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ต้น 7. ไข่ไก่ 1 ฟอง 8. ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ตัว 9. กุ้งสด 5-6 ตัว 10. เนื้อปลาลวก 5-6 ชิ้น 11. น้ำมัน 2 ช้อนโต้ะ วิธีทำสุกี้ยากี้แห้ง 1. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นตอกไข่ลงไปผัด ตามด้วย กุ้ง ปลาหมึก ผัดให้สุก 2. จากนั้นใส่ ผัก ทั้งหมดและวุ้นเส้นลงไปผัด และเติมน้ำจิ้มสุกี้ลงไปผัดด้วย 3.ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นเสริฟใส่จาน โรยหน้าด้วยเนื้อปลาลวก สาเหตุที่ใส่เนื้อปลาลวกสุดท้ายเพราะว่าถ้านำเนื้อปลาลงไปผัดพร้อมกับส่วนผสมอื่นเนื้อปลาจะเละไม่น่ารับประทาน

สูตร หมูมะนาว รสแซ่บ

เมนูหมูมะนาวหรืออีกชื่อหนึ่งอาจจะเรียกหมูสะดุ้งก็ได้ เพราะตอนลวก ลวกแค่หมูสะดุ้งจริงๆ ค่ะ มื้อนี้แค่หมูมะนาวจานเดียวกับผักสดเครื่องเคียงอีกจาน ก็อิ่มแปร้จนถึงเย็นแล้วค่ะ ขอบอกว่าแตงกวาปอกแช่เย็นกับก้านคะน้าอวบๆ ปอกแล้วแช่น้ำแข็ง หมูมะนาวคำก้านคะน้ากรอบๆ เย็นๆ คำนึง อร่อยสุดๆ ไปเลยค่ะ เครื่องปรุงหมูมะนาว 1. หมูสันนอก 300 กรัม 2. พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด 3. กระเทียมปอกเปลือก 10 กลีบ 4. กระเทียมโทนดอง 3 หัว 5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำเปล่า 2 ถ้วย วิธีทำหมูมะนาว - ล้างเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นบางๆ ขนาดพอคำพักไว้ - โขลกพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนูสวน กระเทียมและกระเทียมโทนดองให้ละเอียด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลและน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ เตรียมไว้ - น้ำเปล่าใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดจัดใส่หมูลงไปลวก ลวกเอาแค่หมูสะดุ้ง เพราะหมูบางอยู่แล้วแป๊บเดียวก็เป็นอันใช้ได้ - ตักเนื้อหมูขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เสร็จแล้วจัดหมูใส่จาน ราดด้วยน้ำราดที่เตรียมไว้ ยกเสิร์ฟพร้อมกับผักสดตามชอบ หรือก้านคะน้าแช่น้ำแข็งก็อร่อยค่ะ Cr. สูตรอาหาร http://lekkathaifood.blogspot.com/2011/03

วิธีทำ หนังไก่ทอดฮ่องเต้

ส่วนประกอบและวิธีทำ หนังไก่ทอดฮ่องเต้ 1. หนังไก่ 1 กิโลกรัม ล้างทำความสะอาด ซับน้ำให้แห้ง ตัดเป็นชิ้นพอคำ พักไว้ก่อน 2. รากผักชี 5 ราก , กระเทียม 5 กลีบ , พริกไทย 1/2 ช้อนโต๊ะ บดหรือโขลกให้เข้ากัน ตักใส่กะละมัง เติมกะทิ 1/2 ถ้วยตวง และน้ำตาลทราย 1 ช้อนชา คลุกให้เข้ากัน เติมผงแป้งทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากันดีแล้ว เอาหนังไก่ที่เตรียมไว้ลงหมักประมาณ 12 นาที นำไปตากแดดให้หนังไก่แห้ง 3. หนังไก่แห้งดีแล้วนำไปทอดพอกรอบเหลือง กินคู่กับใบมะกรูดทอดกรอบและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เทคนิคการทำหนังไก่ทอดฮ่องเต้ หนังไก่จะเหนียวถ้าเราหมักแล้วนำไปทอดเลย เครื่องปรุงจะไม่ค่อยซึมเข้าไปในเนื้อของหนังไก่ ต้องนำไปตากแดดให้แห้งหรืออบก่อน เพื่อให้รสชาติของเครื่องปรุงซึมเข้าไปในหนังไก่ เวลานำไปทอดกินแล้วจะรู้สึกได้ถึงรสชาติของส่วนผสมที่หมักลงไป การทำหนังไก่ทอดสูตรนี้ไม่ยากเลย เคล็ดลับก็ง่ายนิดเดียวแค่หมักเสร็จแล้วนำไปตากแดดหรืออบให้หนังไก่แห้งก่อนก่อนนำไปทอดเท่านั้นเอง ลองไปทำทานกันดูนะค่ะ Cr. สูตรอาหาร http://paicooker.blogspot.com/2012/08/blog-post.html Cr. ภาพอาหาร Internet

ปั้นน้ำเป็นเงิน น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพร บรรจุขวดขาย 8 สูตร ทำง่าย ขายคล่อง!!

น้ำผลไม้และน้ำสมุนไพรพร้อมดื่ม (1. น้ำเก๊กฮวย) ส่วนผสม 1. น้ำ 20 ลิตร 2. เก๊กฮวย ตรานก 150 กรัม 3. น้ำตาลทราย 2.75 กิโลกรัม 4. เมล็ดดอกพุด 5 ดอก 5. ใบเตย 4 ใบ วิธีทำ 1. ต้มน้ำพร้อมใส่ใบเตย จนน้ำเดือด 2. ทุบเมล็ดดอกพุดห่อผ้าขาวบาง ชงให้ได้สีตามต้องการ 3. เมื่อได้สีตามต้องการแล้ว เอาห่อเมล็ดพุดออก 4. เติมน้ำตาล เคี่ยวไปจนเดือด ปิดไฟ 5. ใส่เก๊กฮวย เกลี่ยเบาๆ ให้ทั่ว ปิดฝา เป็นอันเสร็จ (2. น้ำเฉาก๊วย) ส่วนผสม 1. น้ำสะอาด 20 ลิตร 2. ใบเตย 5-6 ใบ 3. น้ำตาลทราย 3.5 กิโลกรัม เฉาก๊วยแข็ง 2 กิโลกรัม วิธีทำ 1. ขูดเฉาก๊วยเป็นเส้น ใส่ลงในขวดที่นึ่งไว้แล้ว ประมาณ 1 ช้อนส้อม แยกไว้ 2. ตั้งน้ำพร้อมใบเตยให้เดือด 3. ใส่น้ำตาลทรายลงไป เคี่ยวให้เดือด 4. กรองและบรรจุลงในขวดที่ใส่เฉาก๊วยไว้แล้ว หมายเหตุ ต้องใช้เฉาก๊วยแข็ง ซึ่งหาซื้อได้ตามตลาดสด ไม่ใช้เฉาก๊วยนิ่ม เพราะจะเละและไม่ให้สี เมื่อบรรจุน้ำเชื่อมลงไป สีของเฉาก๊วยจะยังไม่ออก รอไว้สักครู่สีจะออกมาเอง (3. น้ำมะพร้าว) ส่วนผสม 1. น้ำ 12 ลิตร 2. มะพร้าวอ่อนน้ำหอม 6 ลูก 3. น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม 4. ใบเตย 5 ใบ 5. น้ำหัวเชื้อ (น้ำและเนื้อมะพร้าวอ่อน) 6. สับมะพ

วิธีทำ ถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน

ส่วนผสมถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน 1. ถั่วลิสงเม็ดใหญ่ 300 กรัม 2. น้ำตาลทราย 200 กรัม 3. น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง 4. เกลือ 1 ช้อนชา 5. โอวัลติน 1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ 6. งาขาวคั่ว ตามชอบ วิธีการทำถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน 1. นำน้ำ น้ำตาลทราย ถั่วลิสง โอวัลติน ใส่ในกระทะ ใช้ไฟปานกลางถึงแรงเล็กน้อยเคี่ยวจนน้ำใกล้งวด (ประมาณ 15 นาที) ให้คอยคนกันน้ำตาลติดกระทะ 2. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำแห้งหมด น้ำตาลจะตกทราย ให้ลดไฟเบา แล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำตาลเริ่มเยิ้มเล็กน้อย 3. เมื่อน้ำตาลเริ่มเยิ้มพอประมาณ ให้ใส่เกลือ ลงไป 4. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลเยิ้มจนเคลือบถั่วเป็นเงาแวววาว ใช้ตะหลิวคนตลอด แล้วจึงใส่งาคลุกให้ทั่ว และปิดไฟ 5. ยกลงและเทลงในภาชนะกระจายถั่วให้แยกจากกัน รอจนเย็น กรอบ 6.ใส่ถุง หรือขวดโหล ปิดให้สนิท พร้อมรับประทาน ****เคล็ดลับ สีของถั่วจะสวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการให้ไฟ ถ้าแรงเกินไปสีจะออกมาคล้ำ สามารถเปลี่ยนเป็น ไมโล กาแฟ ก็ได้ตามความชอบ หรือจะผสมทั้ง โอวัลตินกับกาแฟ ก็ได้ Cr. ภาพอาหาร Internet

สูตรการทำ " ฟักทองนมสด "

เนนูนี้มีชื่อว่า "ฟักทองนมสด" ซึ่งฟักทองมีสารอาหารบำรุงร่างกายมากมายเช่น วิตามินเอ บี ซี และธาตุฟอสฟอรัส และที่สำคัญสารเบต้าแคโรทีน ที่มีอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทองยังมีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งได้ หากกินฟักทองทั้งเปลือกจะได้ฤทธิ์ทางยา สามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงตับ ไต นัยน์ตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไป นอกจากนี้ฟักทองยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล เหมาะสำหรับหลังคลอดบุตร ที่ขาดธาตุฟอสฟอรัส และเสี่ยงกับการเกิดหน้าท้องลาย ส่วนนมสด ก็อย่างที่รู้ๆกันเป็นอย่างดีว่า เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยในการเจริญเติบโตอีกด้วย บรรยายสรรพคุณมาเยอะแยะจนน้ำลายสอ เรามาลงมือทำกันเลยดีกว่า ส่วนผสม 1. ฟักทองหั่นแล้ว 1 ถ้วย 2. นมสด 2 ถ้วย 3. น้ำตาล 1/2 ถ้วย 4. น้ำเปล่า 1 ถ้วย 5. เกลือ (เล็กน้อย) วิธีทำ 1. นำฟักทองมาล้างให้สะอาด จากนั้น นำฟักทองมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ พอดีคำ 2. นำฟักทองที่หั่นแล้ว นมส

วิธีเผามะเขือยาวให้น่าทาน

มะเขือยาวสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง แต่ต้องนำไปเผาก่อน วันนี้มีเคล็ดลับการเผาเขือยาวให้น่าทานมาฝาก... การเผามะเขือยาวถ้าเผาไม่เป็นก็จะทำให้ มะเขือเผาเนื้อแข็งทานไม่อร่อย เพราะเวลาเผากลัวว่ามะเขือจะไหม้ เลยใช้ไฟอ่อน แต่กลายเป็นว่าต้องใช้เวลาในการเผานาน เนื้อมะเขือที่ปอกแล้วเลยมีสีน้ำตาล แข็ง ไม่น่าทาน เคล็ดลับการเผามะเขือยาวที่ถูก คือ ให้ใช้ไฟแรง กลับไปกลับมาจนสุกทั่ว จากนั้นเอาไปจุ่มน้ำเย็นสักครู่ เมื่อลอกเปลือกออกมา เนื้อข้างในจะนุ่มและมีสีเขียวสวย น่าทาน ครั้งหน้าถ้าจะเผามะเขือยาว ก็อย่าลืมนำเคล็ดลับนี้ไปปฏิบัติตามกันได้ Cr. ข้อมูลในโพสท์ หนังสืออาหารไทย

"แจกสูตรก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระ สำหรับทำเป็นอาชีพ ฟรี!!!"

วัตถุดิบและเครื่องปรุงมีดังนี้.... 1. เส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดใดก็ได้ตามชอบ แต่วันนี้แอดมินเลือกใช้เส้นบะหมี่ไข่ค่ะ 2. น่องไก่ 8 น่อง 3. โครงไก่ 2 โครง 4. ถั่วงอก 5. ผักกาดหอม 6. ต้นหอม 7. ผักชี 8. เห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 15 ดอก 9. หอมใหญ่ปอกเปลือก 2 หัว 10. ตังฉ่าย 11. เครื่องเทศสำหรับตุ๋น 2 ชุด 12. อบเชยยาว 4 นิ้ว 4 ท่อน 13. โป๊ยกั๊ก 4 ดอก 14. ใบกระวาน 2 ใบ 15. น้ำกระเทียมดอง 1/2 ถ้วยตวง 16. กระเทียมดอง 3 หัว 17. ข่าหั่นแว่น 4 แว่น 18. ผักชี 10 รากใหญ่ 19. พริกไทยเม็ด 1 ช.ช. 20. กระเทียมไทยแกะกลีบ 2 หัว 21. กระเทียมเจียว 22. น้ำตาลมะพร้าว 170 กรัม 23. ซีอิ้วขาวสูตรห้า 16 ช.ต. 24. ซอสปรุงรสแม็กกี้ 15 ช.ต. 25. ซีอิ้วดำ 2 ช.ต. 26. เกลือป่น 2 ช.ต. 27. น้ำมันงา 1 ช.ต. 28. เหล้าจีน 2 ช.ต. (หากไม่มีก็ใช้แม่โขงแทน) 29. น้ำมัน 1 ช.ต. 30. น้ำเปล่า 9 ลิตร 31. มะระจีน 1 ลูก 32. พริกไทยป่น วิธีทำก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระ 1. นำมะระมาผ่าครึ่งตามยาว นำเอาไส้ออกให้หมด จากนั้นนำแต่ละซีกมาผ่าครึ่งตามยาวอีกครั้ง จากนั้นหั่นขวางให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยม นำไปล้างให้สะอาด 2. นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด เติมเกลือป่นลงไป 1 ช.ต.

สูตรหอยทอด 3 สูตร พร้อมวิธีทำน้ำจิ้ม

สูตรหอยทอด สูตรที่1 เครื่องปรุง 1. หอยแมลงภู่ (ประมาณ 18 ตัว ต่อ 1 จาน) 2. ถั่วงอก 1/2 ถ้วยตวง 3. กระเทียมสับ 1/3 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำปลา 1/3 ช้อนโต๊ะ 5. ไข่ไก่ 1 ฟอง 6. ต้นหอม ผักชี 1/3 ถ้วยตวง 7. แป้งอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วยตวง 8. น้ำเปล่า 1/3 ถ้วยตวง วิธีทำ ตั้งกระทะให้ร้อน เติมน้ำมัน ตักแป้งที่ผสมเรียบร้อยแล้วราดเป็นแผ่น ใส่หอยแมลงภู่ให้ทั่วแผ่นแป้ง ใส่ไข่ เติมน้ำมันเล็กน้อย ทอดให้เหลืองทั้งสองด้าน พักไว้ข้างกระทะ เจียวกระเทียมพอหอม ใส่ถั่วงอก น้ำปลา ผัดให้เข้ากัน ตักหอยทอดที่พักไว้ใส่จาน วางถั่วงอกบนหอยทอด โรยหน้าด้วยผักชี พริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อมซอสพริกและน้ำส้ม สูตรหอยทอด สูตรที่ 2 เครื่องปรุง 1. หอยแมลงภู่ 10 – 15 ตัว 2. ไข่ไก่ 1 ฟอง 3. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ 4. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ 6. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำตาล 1/2 ช้อนชา 9. ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 10. ถั่วงอก 1/2 ถ้วยตวง 11. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา 12. ต้นหอมสับ 1 ช้อนโต๊ะ 13. น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ 14. น้ำมันพืช 15. ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร) วิธีทำหอยทอด 1. ล้างหอยแมลงภู่ในน้ำสะอาด จากนั้นนำไปลวกใ

วิธีทำ ลาบเป็ด

ส่วนประกอบเครื่องปรุงและวัตถุดิบ สูตรลาบเป็ด 1. น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง 2. เป็ดอ่อน 1/2 ตัว 3. หอมแดงซอยบางๆ 1/4 ถ้วยตวง 4. ตะไคร้หั่นเป็นท่อนๆ 1 ต้น 5. ผักชีฝรั่งหั่น 2 ช้อนโต๊ะ 6. ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ 7. ข่าหั่นเป็นแว่นๆ 5 แว่น 8. ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ 9. น้ำปลาดี 3 ช้อนโต๊ะ 10. ผักชีหั่น 2 ช้อนโต๊ะ 11. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 12. ใบมะกรูดหั่น 1 ช้อนโต๊ะ 13. ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ 14. ต้นหอมหั่น 2 ช้อนโต๊ะ 15. พริกขี้หนูคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ 16. ผักสด ถั่วฝักยาว ใบโหระพา ผักชี วิธีทำและขั้นตอนในการทำลาบเป็ด 1. ลำดับแรกให้เตรียมหม้อต้มน้ำต้มน้ำให้เดือดใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดฉีก จากนั้นนำเป็ดลงไปต้มแค่พอสุกต่อไปให้ตักขึ้นมาจากนั้นทำการลอกหนังเป็ดออก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ (สังเกตหนังเป็ดให้ต้มพอสุก พยายามอย่าให้เละเพราะจะทำให้ลาบแฉะ) เลาะเนื้อเป็ดหั่นเป็นชิ้นๆ 2. ขั้นตอนที่สองต่อจากขั้นตอนแรกให้สับเนื้อเป็ดที่หั่นเป็นชิ้นๆเรียบ ร้อยแล้วให้ละเอียดผสมข่าพร้อมด้วยหนังเป็ดให้เข้ากันจากนั้นให้นำขึ้นตั้ง ไฟอีกครั้ง พอเป็ดสุกทั่วดีแล้วยกลง 3. ขั้นตอนที่สามให้ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำปลาร้า ชิม