resepthilnd

จากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ที่พระราชนิพนธ์ โดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ที่ช่วงรัชกาลนั้นเป็นจุดกำเนิดของสุนทรภู่ที่ได้เลื่อนยศเป็น หลวงสุนทรโวหาร จากการแต่งบทละครในเรื่อง "รามเกียรติ์"เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลั...ยจนเป็นที่พอพระทัย "แกงมัสมั่นไก่" (หม้อเบอร์ 22 ซม. 1 ใบ สำหรับ 15-22 คน) ส่วนผสม สะโพกไก่ติดน่อง 1 กิโลกรัม หางกะทิ 9 ถ้วย มันฝรั่งหั่นชิ้นใหญ่ 1 หัว น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ น้ำพริกแกงที่โขลก 1/2 ถ้วย หัวกะทิ 3 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 5 ช้อนโต๊ะ เกลือสมุทร 2 ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ หอมใหญ่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 1 นิ้ว 1 หัว ลูกกระวานคั่ว 3 ลูก ใบกระวาน 4 ใบ พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบและใบผักชีสำหรับตกแต่ง \\ น้ำพริกแกง (ปริมาณ 1/2 ถ้วย) น้ำพริกแกงเผ็ด (สูตรหน้า 55) 1/2 ถ้วย ลูกผักชีคั่วป่น 11/2 ช้อนชา ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนชา ลูกกระวานขาวคั่วแกะเมล็ดในออก 3 เม็ด กานพลู 2 ดอก วิธีทำ 1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกน้ำพริกแกงเผ็ด ลูกผักชี ยี่หร่า เมล็ดในลูกกระวาน และกานพลูเข้าด้วยกันใ

ส่วนผสม โคนปีกไก่ 300 กรัม ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป, น้ำเย็นจัด คอร์นเฟลกบีบพอแตก น้ำมันพืช ซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศ วิธีทำ - ล้างโคนปีกไก่ ใช้มีดเล็ก ๆ เลาะเนื้อและหนัง รูดลงมาเป็นกระจุกอยู่ตรงด้านล่าง - โรยพริกไทยป่นและซีอิ๊วขาว ลงบนโคน ปีกไก่คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 15 นาที นำไปนึ่งให้ สุกพักไว้ให้เย็น - ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นจัดพอข้น นำโคนปีกไก่ลงชุบพอทั่ว คลุกด้วยคอร์นเฟลก นำลงทอดในน้ำมันพืชร้อนไฟปานกลางจนสุกเหลือง จัดเสิร์ฟคู่กับซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศตามชอบ ที่มาสูตรและรูปภาพ : เพจ Maeban

ส่วนประกอบในการทำหมูตุ๋นยาจีนเห็ดหอม เนื้อหมูแดง ช่วยเสริมสร้างแหล่งโปรตีนให้แก่ร่างกายของเรา ให้ร่างกายของเรามีความแข็งแรง เห็ดหอม เห็ดหอมนั้นมีฤทธิ์อุ่น ซึ่งช่วยเสริมสร้างร่างกายให้มีความแข็งแรง ซึ่งถ้าหากได้กินพร้อมกับเนื้อหมูแล้วจะช่วยเสริมสร้างและบำรุงให้ร่างกายแข็งแรงได้ดีและจะทำให้ให้น้ำซุบมีรสหวานโดยธรรมชาติ ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลลงไปก็ได้ ชุดสมุนไพร ซึ่งประกอบได้สมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด เสริมสร้างพลังงานและความแข็งแรงให้แก่ร่สงกายของเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้แก่ โสม ช่วยในการกระตุ้นสร้างพลังงานให้แก่ร่างและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เก๋ากี้ ช่วยในการบำรุงสายตาและเลือด ฮ่วยซัว เพิ่มน้ำเลือดและของเหลวในร่างกาย รากผักชี ในเมนูอาหารจีน อาจจะไม่มีในส่วนผสม แต่จะมีอยู่ในอาหารไทย ซึ่งรากผักชีมีส่วนช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น โดยออกฤทธิ์คล้ายกับกระเทียมและพริกไทย กระเทียม ซึ่งเป็นสมุนไพรฤทธิ์ร้อน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบไหลเวียนของเลือด พริกไทย เป็นเครื่องเทศรสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบร่างกายได้ดี เกลือ ซึ่งหลายๆคนอาจคิดว่าเกลือไม่ดี แต่ถ

เมนูกินเล่นในร้านพิซซ่าที่ใครเห็นเป็นต้องสั่ง อร่อยครบรสทั้งเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ด ถูกใจทุกคน เพียงหมักปีกไก่กับซอสจนได้ที่แล้วเรียงบนถาด นำไปย่างพร้อมกับมันฝรั่งอบกระเทียมจนสุกโดยไม่ต้องเสียเวลาวอร์มเตาแค่รอเสียงดังติ๊ง ก็พร้อมอิ่มแบบคอมโบ้ทั้งปีกไก่และมันอบ อร่อยสู้ร้านดังได้เลย ส่วนผสม (สำหรับ 3 ที่) ปีกกลางไก่ 12 ชิ้น กระเทียมจีนปอกเปลือกโขลกละเอียด 4 กลีบ ปาปริก้า 1 ช้อนโต๊ะ ออริกาโน 2 ช้อนชา ซอสมะเขือเทศ ¼ ถ้วย วูสเตอร์ซอส 1 ช้อนโต๊ะ เนยเค็มละลาย ¼ ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมมันอบกระเทียม มันฝรั่งหั่นเต๋าใหญ่ 2 หัว กระเทียมจีนปอกเปลือกซอย 3 กลีบ เนยเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า ¼ ถ้วย แผ่นอะลูมิเนียมสำหรับห่ออาหาร วิธีทำ 1. หมักไก่โดยผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันพักไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที ก่อนเรียงปีกไก่ใส่ถาด พักไว้ 2. ทำมันอบกระเทียมโดยฉีกแผ่นอะลูมิเนียมวางบนชาม ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป ห่อให้มิดแล้ววางบนถาดที่เรียงไก่ 3. นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 150 -180 องศาเซลเซียส (ระดับไฟปานกลาง) นาน 15 นาทีหรือจนสุก 4. ยกออกจากเตา ฉีกแผ่นอะลูมิเนียมออก ตั

ซี่โครงหมูบาร์บีคิวสไตล์อเมริกันสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ซึ่งสูตรนี้ใส่น้ำสับปะรดลงไปเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยวอมหวานและช่วยให้เนื้อนุ่ม แล้วย่างในเตาติ๊งด้วยไฟกลางจนสุกถึงด้านในทำให้เนื้อล่อนออกจากกระดูกได้อย่างง่ายดาย เสิร์ฟคู่กับข้าวโพดปิ้งโรยพาร์-มีซานชีสกลิ่นหอม ๆ ยั่วน้ำลายได้ไม่ยาก ส่วนผสม (สำหรับ 1 - 2 ที่) เตรียม 40 นาที ปรุง 1.30 ชั่วโมง ซี่โครงหมูติดกระดูกอ่อน 5 ชิ้น หอมหัวใหญ่สับละเอียด ¼ ถ้วย ซอสมะเขือเทศ ½ ถ้วย น้ำผึ้ง ¼ ถ้วย มัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ ออริกาโน 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1½ ช้อนชา พริกไทย 1 ช้อนชา น้ำสับปะรด ½ ถ้วย ส่วนผสมข้าวโพดปิ้ง ข้าวโพดหวาน 2 ฝัก พาร์มีซานชีส 2 ช้อนชา ปาปริก้าสำหรับโรยเล็กน้อย วิธีทำ 1. หมักซี่โครงหมูกับส่วนผสมทั้งหมด นวดให้ส่วนผสมเครื่อง-ปรุงเข้าเน้อื ซ่โี ครง พักไว้ในต้เู ย็นอย่างน้อย 30 นาที 2. วางซีโครงหมูบนถาดรากซอสหมักทั้งหมดไว้ด้านบนนำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส(ระดับไฟปานกลาง) นาน 1 ชั่วโมง หรือจนสุก นำออกจากเตา 3. ปิ้งข้าวโพดในเตาจนสุก นำออกมาโรยพาร์มีซานชีสและปาปริก้า นำไปปิ้งในเตาต่ออีก 3 นาที ยกเสิร์ฟพร้อมซี่โครงหมู “หากมีเวลาจำกัด ใ

(จำนวน 4 คน) ส่วนผสม... - กุ้งก้ามกราม (ตัวละ 80 กรัม) 8 ตัว - น้ำมันพืช 1 ถ้วย - ใบโหระพำทอดกรอบ 1 ถ้วย - กระชายหั่นเส้นทอดกรอบ ½ ถ้วย - พริกไทยอ่อนเด็ดช่อสั้นทอด ¼ ถ้วย - ถั่วลิสงทอดเอาเปลือกออก ¼ ถ้วย - พริกขี้หนูแห้งทอด 8 เม็ด - น้ำสามรส พริกชี้ฟ้าแห้งแกะเมล็ดออก แช่น้ำจนนุ่ม 4 เม็ด พริกชี้ฟ้าสีแดงแกะเมล็ดออกหั่น 2 เม็ด ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ รากผักชีหั่น 2 ราก กระเทียมไทยแกะเปลือก ¼ ถ้วย กระเทียมดองแกะเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 1 ถ้วย น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ ¼ ถ้วย+1 ช้อนชำ น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย เกลือสมุทร ½ ช้อนชำ วิธีทำ 1. ล้ำงกุ้ง แกะเปลือก เว้นเปลือกส่วนหัวไว้ ตัดหนวดและกรีออก ผ่าหลังไว้หาง จากนั้นตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อนจัด ใส่กุ้งลงทอดพอสุก ตักขึ้นพักไว้ 2. ทำน้ำสามรสโดยโขลกพริกแห้ง พริกชี้ฟ้าสีแดง ข่า รากผักชี กระเทียมไทย และกระเทียมดอง รวมกันให้ละเอียด จากนั้นตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางพอร้อน ใส่เครื่องที่โขลกลงผัดพอหอม ใส่น้ำผัดให้ทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก และเกลือ ผัดให้ข้นเหนียว ชิมรสให้เปรี้ยวหวานและเค็ม ปิดไฟ 3. จัดกุ้งทอดใ

ตะไคร้อยู่คู่กับครัวของไทยเรามาตั้งแต่โบราณแล้ว เราใช้ตะไคร้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารต่างๆ ทั้งแกงเผ็ด พะแนง ยำ ต้มยำ ฯลฯ ล้วนมีตะไคร้เป็นส่วนประกอบเพื่อทำให้อาหารนั้นๆ มีกลิ่นหอมชวนกิน ตะไคร้มีสรรพคุณทางยา เช่น บำรุงธาตุ แก้โรคทางเดินปัสสาวะ ขับลมในลำไส้ทำให้เจริญอาหาร ฯลฯ ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) : เนื้อไก่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 30 กรัม พริกขี้หนู 25 กรัม หอมแดง 50 กรัม กระเทียม 35 กรัม ตะไคร้ซอย 50 กรัม ใบมะกรูดซอย 20 กรัม น้ำมันหอย 20 กรัม น้ำปลา 35 กรัม น้ำตาลทราย 15 กรัม ผักชีสำหรับแต่งหน้าอาหาร 10 กรัม น้ำมันพืชสำหรับผัด 40 กรัม วิธีทำ 1. นำกระเทียมหอมแดงตะไคร้ซอย (20 กรัม) พริกขี้หนู และใบมะกรูด (15 กรัม) ไปโขลกจนละเอียด 2. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ใส่เครื่องแกงที่โขลกในข้อ 1 ลงไปผัดจนหอม จึงใส่เนื้อไก่ลงไปผัดจนกระทั่งเกือบสุก 3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำตาลทราายทราย เร่งไฟแรงขึ้น ผัดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ทั่ว จึงปิดไฟ 4. ตักใส่จาน โรยด้วยใบมะกรูดตะไคร้ซอยที่เหลือและพริกชี้ฟ้า แต่งหน้าด้วยผักชีอีกนิดหน่อยเสิร์ฟทันที ที่มา  https://p

ส่วนผสม : ซีโครงหมู(เนื้อ) สามเกลอ (กระเทียม+รากผักชี+พริกไทยดำ โขลกเข้าด้วยกันให้ละเอียด) กระเทียมสับ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วดำแบบหวานหรือเค็ม ก็ได้ น้ำมัน วิธีทำ : นำซีโครงหมักด้วยสามเกลอ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วดำ ทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า1ชม.หรือทั้งคืนในตู้เย็น ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม ตามด้วยซีโครงที่หมักไว้ลงไปผัดให้หอม ตักใส่หม้อแล้วเติมน้ำลงให้พอท้วมซีโครงปิดฝาหม้อแล้วต้มให้เดือด ชิมรสอีกครั้ง ขาดเหลืออะไรก็ให้ปรุงให้เรียบร้อย จากนั้นก็ปิดฝาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนซีโครงนุ่มและน้ำงวดลง จะทำให้รสชาติเข้าเนื้อมากขึ้น ตักเสริฟพร้อมกับมะเขือเทศแตงกวา ก็อร่อยแล้ว ที่มา https://plus.google.com/113146528524548992503/posts/TMEAyzEAt95

 ถ้ายังแซบไม่พอต้องจัดเมนูต้มซุปเปอร์ขาไก่ ถ้วยนี้ซะหน่อยแล้ว ที่รับรองเลยว่า อร่อยเด็ดถึงใจสุด ๆ กินทีไรเป็นเพลินทุกที แถมสูตรนี้ยังใส่เอ็นข้อไก่ด้วยนะจ๊ะ หรือตามไปดูวิธีทำอย่างละเอียดได้ที่นี่เลย ต้มขาไก่ซุปเปอร์ เปรี้ยวแซบถึงใจ สิ่งที่ต้องเตรียม           เครื่องต้มยำ (ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด)           ขาไก่ 1 กิโลกรัม           เอ็นข้อไก่ 200 กรัม           เห็ดฟาง 8 ดอก           พริกขี้หนูสวนซอย 50 กรัม           ผักชี และผักชีฝรั่ง อย่างละ 2 ต้น           น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ           น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ           น้ำสำหรับต้ม วิธีทำ            ตั้งน้ำให้เดือด ใส่เครื่องต้มยำลงไปต้ม พอน้ำเดือดอีกครั้งใส่ขาไก่ และเอ็นข้อไก่ลงไปต้ม (หมั่นช้อนฟองอากาศทิ้ง) พอน้ำเดือดอีกครั้ง ตักเครื่องต้มยำออก ปิดฝาต้มต่อด้วยไฟกลาง นานประมาณ 20 นาที หรือจนขาไก่เปื่อยตามชอบ จากนั้นใส่เห็ดฟางลงไปต้ม ปิดไฟ            ใส่น้ำปลาลงในชาม บีบมะนาวลงไป จากนั้นตักต้มขาไก่ใส่ชาม ใส่พริกซอยโรยหน้าด้วยผักชี คนผสมให้เข้ากัน แล้วชิมรส พร้อมเสิร์ฟ ที่มา  https://plus.google.com/113146528524548992503/posts/hCLUhZDL2Rr

เมนูนี้ "บานอฟฟี่สตรอว์เบอร์รีคาราเมลซอส" ไม่ยุ่งยากอย่างที่เพื่อนๆคิดเลยค่ะ ส่วนผสม ขนมปังกรอบบดหยาบ 120 กรัม น้ำตาลทราย 50 กรัม เนยสดชนิดเค็มพักไว้จนอ่อนตัว 50 กรัม สตรอว์เบอร์รีสด คาราเมลซอส วิปปิ้งครีมชนิดหวานสำหรับตกแต่ง อัลมอนด์แท่งอบสุกสำหรับตกแต่ง วิธีทำ 1. ผสมขนมปังกรอบบด น้ำตาลทราย และเนยสด เค้ลาให้เข้ากัน 2. นำส่วนผสมที่ได้เกลี่ยบาง ๆ ลงบนถาดอบ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส จนมีสีเหลือง นำออกจากเตาอบพักไว้ให้เย็น บดให้ละเอียดเล็กน้อยใส่ลงในแก้วหรือถ้วยพาย 3. หั่นสตรอว์เบอร์รีเป็นชิ้น วางเรียงลงในถ้วยแก้ว ราดด้วยคาราเมลซอส ตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมและอัลมอนด์แท่ง จัดเสิร์ฟ ส่วนผสมคาราเมลซอส นมข้นหวาน 50 กรัม น้ำตาลทราย 25 กรัม เนยสดชนิดเค็ม 25 กรัม นมสด 25 กรัม วิธีทำ ใส่น้ำตาลทรายลงในหม้อ ตั้งไฟอ่อน ๆ เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลายเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ ใส่เนยสด นมข้นหวาน และนมสด คนจนส่วนผสมข้น ยกลงพักไว้จนเย็นจึงนำไปใช้ ที่มา:Bakery SME

แจกสูตรหมักหมูสเต็กให้นุ่มลิ้นน่าทาน!!จะทำขายหรือทานเองได้ค่ะ แปลกใจกันบ้างไหม ว่าทำไมน้อ ร้านสเต็กถึงหมักเนื้อได้นุ๊ม นุ่ม น่าทานด้วยวิธีการง่าย ๆ ใครก็ทำเองได้ทั้งนั้น ว่าแล้วลองไปดูขั้นตอนการทำได้เลยค่ะ ส่วนผสม1 1.1 เนื้อหมูสันนอก 300 กรัม 1.2 นมสด 2 ช้อนโต๊ะ 1.3 น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ 1.4 สับปะรดสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสม 2 ดังต่อไปนี้ แล้วแต่ชอบเลยค่ะ 2.1 เกลือเล็กน้อย 2.2 พริกไทย 2.3 ใบเบย์ลีฟ 2.4 โรสแมรี่ 2.5 ออริกาโน ขั้นตอนการหมักหมูสเต็ก 1. นำหมูสันนอกมาล้างให้สะอาด และซับน้ำให้แห้ง 3. จากนั้นนมสด น้ำมันงา ส่วนใครชอบส่วนผสมตามข้อ 2 ข้อไหนก็ใส่ตามชอบเลยค่ะ 4. จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปไว้ในตู้เย็น 6 ชั่วโมง 5. เมื่อครบ6 ชั่วโมงแล้ว ให้นำสับปะรดใส่ลงไป 6. แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทั้งไว้ 15 นาที (ถ้าใส่สับปะรดลงไปแล้วไว้แค่ 15 นาทีนะคะ แล้วนำไปย่างเลย ไม่งั้นหมูจะเสียรสชาติและเละค่ะ ถ้ายังไม่ย่างอย่าพึ่งใส่ค่ะ) 7. จากนั้นนำไปย่าง 8. ขอใช้เครื่อง ‪#‎MagicChef‬# หม้อทอดเพื่อสุขภาพไร้น้ำมัน ย่างจนกว่าจะสุก 9. เสร็จแล้วก็สามารถนำมาทานได้เลยหรือ จะทานคู่กับซอสต่าง เช่น ซอสเห็ด

ส่วนประกอบและเครื่องปรุงแกงจืดกะหล่ำปลียัดไส้ กะหล่ำปลี 1 หัว หมูบดละเอียด 1ถ้วย กระเทียมสับ 2ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ ผักชีเด็ดใบ 1 ช้อนโต๊ะ แครอทสับ 1 ช้อนโต๊ะ แครอทหั่นฝอย 1 ช้อยโต๊ะ รากผักชีโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำซุป 3 ถ้วย วิธีทำ ขั้นตอนแรกนำกะหล่ำปลีที่เตรียมไว้มาล้างน้ำให้สะอาด ริบเอาใบที่เหี่ยวเฉารอบนอกออกให้หมด จากนั้นเอามีดเล็กๆค่อยๆเจาะแกนกลางออก เจาะให้พอประมาณอย่าลึกมาก พักเรื่องกะหล่ำปลีแล้วหันมาจัดการกับหมูบดด้วยการนำ กระเทียมสับ น้ำปลา น้ำตาล พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว ต้นหอมซอย (แบ่งต้นหอมไว้สำหรับโรยหน้าด้วย) แครอทสับ รากผักชีที่โขลกละเอียด หมักคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นนำเนื้อหมูหมักที่ได้ ไปยัดไส้ในกะหล่ำปลีที่เจาะแกนกลางเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำไปใส่ลังถึง นึ่งประมาณ10-15นาที เพื่อให้กะหล่ำปลีสุกง่ายเวลาต้มและเป็นการทำให้กะหล่ำปลีกับเนื้อหมูที่ยัดไส้เกาะติดกัน เมื่อนึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วนำมาต้มในน้ำซุปกันต่อ หย่อนกะหล่ำปีลงหม้อ ต้มพอให้กะหล่ำปลีนิ่ม ปิดเตาตักแกงจืดกะหล่ำปลียัดไส้ใส่ถ้วย

ขนมโตเกียวในกะทะ สูตรHome made  ขนมโตเกียวจัดเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน โดยเฉพาะเด็กๆ แต่กว่าจะได้กินต้องไปซื้อนอกบ้านหายากเหมือนกันนะ วันนี้ Mama Expertนำสูตรที่คุณสามารถทำกินเองได้ง่ายๆ ขอแค่มีกะทะ ลองดูนะคะ      ส่วนผสมของแป้ง แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง นมจืด 1/2 ถ้วยตวง เบคกิ้งโซดา (ผงฟู) 1/2 ช้อนชา ไข่ไก่ 2 ฟอง กลิ่นวนิลา หรือที่ชอบ 1/2 ช้อนชา วิธีผสมแป้งขนมโตเกียว 1.นำแป้งสาลี และเบคกิ้งโซดาผสมเข้าด้วยกันแล้วนำไปร่อนเสร็จแล้วพักไว้ก่อน 2.ตีไข่กับน้ำตาลทราบเข้าด้วยกัน ผสมแป้งที่ร่อนไว้ ( ข้อ1 ) ลงไปใน สลับกับนมจืดจนครบตามสูตร 3.ใส่กลิ่นวนิลาเข้าไปแล้วผสมให้เป้นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้วพักไว้ 15 – 20 นาที ส่วนผสมใส้ครีม ไข่แดง 3 ฟอง น้ำตาล 1/2ถ้วยตวง แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ นม  1 + 1/2 ถ้วยตวง วิธีทำใส้ครีม ใส่ ไข่แดง น้ำตาล แป้ง นม ทั้งหมดรวมกัน ในหม้อ ตั้งไฟ อ่อนๆ คนให้เข้ากันเรื่อยจนแป้งเริ่มเกาะตัวกันและเหนียวขึ้น คนไปจนเดือด แล้วคนต่ออีก 1 นาที ปิดไฟเอาออกจากเตาเหยาะกลิ่นวนิลา สักพักครีมจะเริ่มเกาะตัวกันและเหนียวขึ้น ส่วนผสมของไส้ หมูสัปไส้กรอก หมูสับ 1 ขีด รากผักชีโขลก

สูตรการทำวุ้นเป็ดน้อยสามมิติสุดฮิต!!! วุ้นจัดเป็นขนมหวานรสอร่อย ปัจจุบันมีการพัฒนาฝีมือมากขึ้น สวย น่ารัก สีสันสดใสน่ารับประทาน อย่างเช่นวุ้นเป็ดน้อยสามมิติ  หลายคนยึดเป็นอาชีพสร้างรายได้เป็นกอบเป้นกำกันเลยทีเดียว วันนี้นำสูตและขั้นตอนการทำมาฝากละเอียดยิบ คุณสามารถเปิดร้านได้มีเดียว ส่วนผสมวุ้นกะทิ น้ำ 250 ml กะทิกล่อง (250 ml) 1 กล่อง น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง วุ้นผง 1/2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/8 ช้อนชา สีผสมอาหาร วิธีทำวุ้นกะทิ ใส่ผงวุ้นลงในน้ำ คนและพักไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้วุ้นอิ่มน้ำ  นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาล เกลือ คนไปเรื่อยๆ จนน้ำตาลและวุ้นละลาย  หลังจากที่วุ้นเดือดแล้วเคี่ยวต่อประมาณ 5 นาที ใส่น้ำกะทิลงไป ต้ม พอเริ่มเดือดก็ปิดไปได้เลยค่ะ แยกออกมาผสมสี และตักใส่พิมพ์ค่ะ วิธีลงสีและทำเป็ดประกบเป็นตัวสามมิติ ตามคลิปเลยค่ะ  ที่มา  http://www.mamaexpert.com/topic/13014

ก๋วยจั๊บญวนหาทานไม่ได้เลยหากไม่ใช่ภาพอีสานของเราสำหรับชาวภาพอื่นอยากจะทานลองทำดูค่ะ ส่วนผสม 1. กระดูกหมูซุป หรือหมูบด 2. เส้นก็วยจั๊บ ญวน (เส้นแห้ง หรือเส้นสดก็ได้) 3. เลือดไก่ (เป็นก้อนแข็งกว่าเลือดไก่) 4.หมูยอ 5. เกลือ 6. น้ำตาลทราย 7. หอมเจียว ,กระเทียมเจียว 8. ต้นหอม, ผักชี 9. พริกไทยป่น 10. พริกป่น, น้ำมัน 11. ซีอิ้วขาว วิธีทำ 1. เริ่มจากต้มกระดูกหมูซุป ไม่มีก็ใช้หมูบดแทนได้ ตั้งนานให้เดือด ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ตามด้วยรากผักชี และก็ กระดูกหมูไปตามระเบียบ ปล่อยให้น้ำเดือด กระดูกหมู เริ่มสุก ค่อยหรี่ไฟลง และช้อนฟองทีละน้อย 2. สังเกตุ กระดูกหมู เศษเนื้อ ค่อยๆ เปื่อยออก ปล่อยให้หม้อเดือดเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำซุปขุ่น เพิ่มความหวาน น้ำต้มกระดูก 3. เมื่อความหวานของน้ำต้มกระดูกพร้อมแล้ว ก็นำเลือดหมู หั่นชิ้น ลงไปต้ม ใครอยากใส่ไข่ตอกลงไปลวกก็ได้ หรืออยากจเพิ่มหมูสับให้น่าอร่อยยิ่งขึ้น แล้วปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาล ซีอิ้วขาว 4. ยกหม้อลง ตั้งไหม้อใหม่เพื่อต้มเส้นก๋วยจั๊บ ป้องกันเส้นก๋วยจับไม่สด หรือใช้เส้นแห้ง ให้แช่น้ำออกก่อน สัก 5 นาที พอน้ำเดือด ก็ใส่เส้น เส้นที่สุกแล้วจะลอยขึ้นมา ต้องพยา

เครื่องปรุง+ส่วนผสมขนมปังหน้าหมูทอด 1. หมูสับละเอียด 300 กรัม 2. แครอทสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 3. ผักชีสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 4. รากผักชี 1 ต้น 5. พริกไทยเม็ด 5 เม็ด 6. กระเทียม 3 กลีบ 7. ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนชา 8. ไข่ไก่ 1 ฟอง 9. ขนมปังแผ่น 5 แผ่น 10. น้ำมันสำหรับทอด 11. น้ำจิ้ม (อาจาด, น้ำจิ้มบ๊วย, น้ำจิ้มไก่ทอด, อื่นๆ) 12. ผักสด (แตงกวา, มะเขือเทศ, ผักกาดหอม, อื่นๆ) วิธีการทำขนมปังหน้าหมูทอด 1. นำรากผักชี, พริกไทยเม็ด, กระเทียม ไปโขลกให้ละเอียด เสร็จแล้วนำไปหมัก กับเนื้อหมู, แครอท, ใบผักชี และซิอิ๊วขาว คลุกให้เข้ากันทั่ว หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที 2. นำขนมปังไปหั่น โดยแบ่งเป็นสี่แผ่นเล็ก จากนั้นนำหมูที่หมักทิ้งไว้ในขั้นตอน ที่หนึ่ง นำมาทาหน้าขนมปัง ทำจนหมด 3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง ระหว่างที่รอน้ำมันร้อน ตอกไข่ใส่ชาม เตรียมไว้ 4. เมื่อน้ำมันร้อนดีแล้ว (อย่าให้ร้อนจัด) นำขนมปังที่ทาหน้าหมูไว้แล้วลงไปชุบ ไข่ไก่ และนำไปทอด โดยหย่อนเอาหน้าหมูลงไปทอดก่อน เมื่อสุกดีแล้วจึงกลับ หน้า เสร็จแล้วนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน และวางพักไว้บนกระดาษทิชชูซับมันเพื่อ ลดน้ำมัน 5. จัดขนมปังหน้าหมูทอดใส่จาน

ส่วนผสมก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 1. ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ประมาณ 500 กรัม (ครึ่งโล) 2. เนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำ ประมาณ 200-300 กรัม (2-3 ขีด) 3. ปลาหมึกกรอบ หั่นให้พอดีคำ ประมาณ 200 กรัม 4. ตังฉ่าย 1/4 ถ้วย 5. ต้นหอมซอย 3 ต้น (แล้วแต่ชอบ) 6. ไข่ไก่ ประมาณ 3-4 ฟอง 7. น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ 8. ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา 9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 10. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 11. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ (หากติดกระทะสามารถใส่เพิ่มได้เล็กน้อย) 12. พริกไทยป่นเล็กน้อย 13. ซอสพริกและผักกาดหอมสำหรับรองจาน วิธีทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 1. ก่อนอื่นเราต้องตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อนก่อน หลังจากนั้นให้ใส่เนื้อไก่ ปลาหมึกกรอบ และตังฉ่ายลงไปผัดด้วยไฟปานกลางให้หอม จากนั้นใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงผัดเร็วๆ พอเข้ากัน 2. หลังจากนั้นให้ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันจนทั่วครับ 3. เขี่ยเส้นก๋วยเตี๋ยวไว้ที่ข้างๆ กระทะ แล้วตอกไข่ลงไปเขี่ยไข่ไก่ให้พอแตกๆ แล้วรอดูให้ไข่ขาวเป็นสีขาวทั่วแต่ยังไม่สุก แล้วให้กลบเส้นลงบนไข่แล้วรอให้สุก กลับข้าง แล้วผัดให้ดูว่าสุกทั่ว แล้วจึงยกขึ้น 4. ตักใส่จานที่รองผักกาดหอมไว้ โรยหน้าด้วยต้นหอมแล

ส่วนผสม 1. ไข่เป็ด 30 ฟอง 2. เกลือแกง 800 กรัม 3. ปูนขาว 750 กรัม 4. น้ำ 5 ลิตร 5. ใบชา(ดำ) 80 กรัม 6. โซดาแอช หรือโซเดียมคาร์บอเนต 300 กรัม 7. สังกะสีออกไซต์ วิธีทำ 1. นำไข่เป็ดดิบที่สดและใหม่ เลือกให้มีขนาดเท่าๆ กัน อย่าล้างน้ำให้เอาผ้าแ้ห้งหรือแปรงเช็ดหรือปัดเอาสิ่งสกปรกออก 2. ต้มน้ำใบชา และนำเกลือแกง กับ โซดาแอชพร้อมทั่งปูนขาว ลงไปต้มร่วมกันในภาชนะเคลือบให้เดือด คนให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ให้เย็น แล้วแยกตะกอนออกทิ้ง และเติมสังกะสีออกไซด์ 500 มิลลิกรัม/ 1 ส่วนลิตร 3. เรียงไข่ที่เตรียมไว้ลงในถังพลาสติก ใช้ไม้ไผ่สานขัดแตะปิดไว้เหนือไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ลอย 4. เทส่วนผสมที่เตรียมไว้ ลงในถังให้ท่วมไข่ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 - 30 วัน 5. เมื่อครบกำหนด ก็นำไข่เยี่ยวม้าที่ได้ไปล้างน้ำ ปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง แล้วเคลือบเปลือกไข่ด้วยดินขาว ผสมกับแป้งเปียก ในอัตราส่วน 5/1 ข้อแนะนำ 1. ต้องเลือกไข่เป็ดที่ใหม่ สด และไม่มีตำหนิมาทำ เพื่อจะได้ไข่เยี่ยวม้าที่มีคุณภาพดี ไม่เสีย 2. ภาชนะที่ใช้แช่ไข่ อาจใช้ภาชนะเคลือบก็ได้ แต่ต้องสะอาดและปลอดภัย Cr. http://www.kaweeclub.com/article-food/t3940/ ขอบคุณภาพจาก goog

เต้าหู้นมสด เมนูขนมหวานเนื้อเนียน ราดฟรุตสลัดสุดฉ่ำ เต้าหู้นมสด หรือเต้าฮวยนมสด เมนูของหวานทำจากนมสดล้วน ๆ สำหรับคนที่ไม่ดื่มน้ำเต้าหู้ก็ทานได้สบาย รสสัมผัสเนียนนุ่ม หวานหอมมันกลมกล่อม กินง่ายทำง่าย ไม่กี่ขั้นตอน ราดด้วยฟรุตสลัดหลากสี หลากรส กินเย็น ๆ อร่อยชื่นใจ ส่วนผสม 1. ผงเจลาติน 3 ช้อนชา 2. น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย 3. นมสด 3 ถ้วย 4. นมข้นจืด 1 1/2 ถ้วย 5. ผงวุ้น 2 ช้อนชา 6. นมข้นหวาน 1 1/2 ถ้วย 7. กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา 8. ฟรุตสลัด 1 กระป๋อง 9. กีวีหั่นเต๋า 10. แก้วมังกรหั่นเต๋า วิธีทำ 1. ผสมน้ำเปล่ากับผงเจลาตินในหม้อแล้วคนให้ละลาย ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที 2. พอครบ 10 นาทีแล้ว เทนมสดและนมข้นจืดลงไปในน้ำเจลาตินที่แช่ไว้ ค่อย ๆ เทผงวุ้นลงไป นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ และหมั่นคนเป็นระยะ ๆ ต้มจนส่วนผสมเริ่มเดือด 3. ใส่นมข้นหวานและกลิ่นมะลิลงไปคนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้สักครู่ 4. นำส่วนผสมวุ้นไปกรองผ่านตะแกรง ตักส่วนผสมใส่ถ้วยประมาณ 1/2 ถ้วย จากนั้นนำเข้าแช่เย็นจนส่วนผสมเซตตัวดี 5. ก่อนเสิร์ฟตักฟรุตสลัดและผลไม้ใส่ลงไปตามชอบ แต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ เมนูเต้าหู้นมสด เหมาะสำหรับคน

กระเพาะปลา วัตถุดิบชั้นดีที่มีราคาแพงของชาวจีน ซึ่งได้จากถุงลมของปลาในสกุลปลากุเราตากแห้ง แต่สูตรนี้ใช้กระเพาะปลาเจที่ทำจากถั่วเหลืองแทน ซึ่งมีหน้าตาคล้ายคลึงกับกระเพาะปลาแท้ๆ และมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มกำลังดี รับประทานพร้อมกับยอดมะพร้าวอ่อนเนื้อกรอบที่ปรุงลงไปแถมยังมีเก๋ากี้ที่ช่วยบำรุงสายตา ตับ และระบบเลือดในร่างกายอีกด้วย รับรองว่าใครได้ลองเป็นต้องติดใจแน่นอน ส่วนผสม กระเพาะปลาเจ 150 กรัม ยอดมะพร้าวหั่นเป็นเส้น 500 กรัม เห็ดหอมแช่น้ำหั่นชิ้นบาง 1 ถ้วย เห็ดเข็มทอง 1 ถ้วย น้ำสต๊อกผัก 8 ถ้วย ผักชีทั้งต้น 4 ต้น เก๋ากี้ 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรสรสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 6 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ แป้งมัน ¾ ถ้วย น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้ง ¾ ถ้วย ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนสำหรับโรยหน้า วิธีทำ 1. นำน้ำสต๊อก ผักชี และเก๋ากี้ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟกลาง พอเดือดปรุงรสด้วยเกลือและผงปรุงรส จากนั้นเติมกระเพาะปลาและเห็ดหอมลงไป เคี่ยวต่อสักครู่พอกระเพาะปลานิ่ม ปรุงรสเพิ่มดว้ ยซอสปรุงรส ซีอิ๊วดำน้ำตาล และพริกไทย 2.พอส่วนผสมเดือดอีกครั้ง เติมแป้งมันละลา

(สำหรับ 1 คน) ส่วนผสม - มิริน 2 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ๊วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ - สาเก 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทราย 1⁄4 ช้อนชา - ดาชิ 1⁄4 ถ้วย - เนื้อสะโพกไก่เลาะกระดูกและหนังหั่นชิ้นพอคำ 120 กรัม - หอมใหญ่หั่นเสี้ยว 50 กรัม - ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน 2 ฟอง - มิซูน่าหั่นท่อนสั้นปริมาณเล็กน้อย - พริกป่นญี่ปุ่นสำหรับโรย - ข้าวสวยญี่ปุ่น ซุปมิโสะ และผักดอง สำหรับจัดเสิร์ฟ ดาชิ (น้ำสต๊อกปลาญี่ปุ่น) (ปริมาณ 8 ถ้วย) - น้ำ 8 ถ้วย - สาหร่ายคมบุแห้งขนาด 5x2 นิ้ว 2 ชิ้น - ปลาโอขูดแห้ง 50 กรัม ขั้นตอน 1.ทำดาชิโดยใส่น้ำและสาหร่ายคมบุลงในหม้อ แช่ไว้ 1 ชั่วโมง ยกขึ้นตั้ง บนไฟกลาง พอน้ำเริ่มเดือด (มีฟองปุดๆตรงก้นหม้อ) ตักสาหร่ายคมบุออก ใส่ปลาโอขูดแห้ง ลดเป็นไฟอ่อน ต้มนาน 10 นาที ปิดไฟ กรองเอาแต่น้ำ าใส่หม้อ สาหร่ายและปลานำไปต้มดาชิได้อีก แต่ดาชิที่ได้กลิ่นรสจะจางลง ดาชิเก็บใส่ ตู้เย็นช่องแช่แข็งไว้ใช้ต่อได้ เมื่อจะใช้ก็นำมาต้มให้เดือด 2.ผสมมิริน ซีอิ๊วญี่ปุ่น สาเก น้ำตาลทราย และดาชิ ในกระทะ (ใช้กระทะใบเล็กที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใกล้เคียงกับชามดงบุริที่ใช้จัดเสิร์ฟ แต่ถ้าไม่มี ใช้กระทะขนาดใหญ่กว่าน้ีได้) ใส่ไก่และหอมใหญ่

แจกฟรี! สูตรทอดไก่ให้กรอบแบบ KFC ที่ผู้พันไม่เคยบอกให้คุณรู้ โดยสูตรไก่ทอดแบบ KFC นี้ ได้รับการแนะนำโดยเว็บไซต์ chingcancook ได้มาแนะนำขั้นตอนการทอดไก่ให้กรอบแบบ KFC จะมีขั้นตอนในการทำอย่างไรบ้าง ไปชมกันได้เลยค่ะ (ในสูตรไม่ได้บอกปริมาณอัตราส่วนของเครื่องปรุงนะค่ะ เรากะปริมาณด้วยตัวเราเองเลยค่ะ) วัตถุดิบในการทำไก่ทอดแบบ KFC 1. น่องไก่หรือสะโพกไก่ 2. รสดี พริกไทยป่น ผงกระเทียมสำเร็จรูป 3. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 4. แป้งข้าวโพด 5. ผงมันบดสำเร็จรูป ผงปาปริก้า ขั้นตอนการทำไก่ทอดแบบ KFC 1. นำไก่ที่เตรียมไว้ล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาหมักด้วยผงรสดี พริกไทยป่น ผงกระเทียมสำเร็จรูป หมักทิ้งไว้ซัก 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ จากนั้นนำแป้งสาลีอเนกประสงค์มาเทลงในชามผสมอีกใบ ตามด้วยแป้งข้าวโพด ผงรสดี ผงมันบดสำเร็จรูป พริกไทยป่น เกลือ ผงกระเทียมสำเร็จรูป และผงปาปริกา แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน 2. ตอกไข่ใส่ชามอีกใบ เติมนมสดลงไปเล็กน้อยแล้วตีให้เข้ากัน 3. นำไก่ที่หมักแล้ว มาคลุกกับแป้งที่เราผสมเตรียมไว้ จากนั้นก็นำไปชุบกับไข่ที่เตรียมไว้ข้างต้น แล้วลงทอดในกระทะโดยใช้ไฟกลางๆ ไม่ต้องแรงมาก 4. เมื่อไก่สุกจนเหลืองได้ที่ นำ

ส่วนผสมแป้งสีเขียสใบเตย แป้งข้าวเหนียว ¼ ถ้วยตวง แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ... น้ำใบเตย ¼ ถ้วยตวง ส่วนผสมแป้งสีเหลือง แป้งข้าวเหนียว ¼ ถ้วยตวง แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำฟักทองสดปั่นละเอียด ¼ ถ้วยตวง ส่วนผสมแป้งสีส้ม แป้งข้าวเหนียว ¼ ถ้วยตวง แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำแคร์รอตปั้นละเอียด ¼ ถ้วยตวง ส่วนผสมอื่น ๆ ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก 1 ถ้วยตวง มะพร้าวทึนทึกขูดฝอยนึ่ง 1½ ถ้วยตวง เกลือป่น ¼ ช้อนชา น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง งาดำ งาขาวคั่วบุบพอแตก 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ขึงหม้อด้วยผ้าโทเรสีขาวให้แน่น เจาะรู ใส่น้ำให้เกือบเต็ม ปิดฝา ตั้งไฟให้เดือด 2. ผสมแป้งข้าวเหนียวกับแป้งมันสำปะหลังให้เข้ากัน ใส่น้ำใบเตย ละลายแป้งอย่าให้เป็นเม็ด กรองด้วยกระชอน  3. ส่วนผสมสีเหลืองสีส้มหรือสีอื่นก็ทำเช่นเดียวกัน 4. ผสมมะพร้าวกับเกลือป่นนึ่ง 5 นาที ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น 5. ถั่วเขียวแช่น้ำ 1-2 ชั่วโมง นึ่งให้สุกประมาณ 20 นาที 6. ผสมน้ำตาลทรายกับงาในครก ใช้ลูกครกหมุนไปมา เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน 7. เมื่อน้ำเดือดตักแป้งแล้วละเลงให้เป็นรูปวงกลม ใส่ไส้ถั่วที่นึ่งแล้ว ปิดแป้งโดยพับซ้ายหรือพับขวาก็ได้ ตักขึ้นใส่ใ

ส่วนผสมแป้ง แป้งข้าวเจ้าพิเศษ 1 กิโลกรัม น้ำร้อนสำหรับคั้นมะพร้าว 5 ถ้วย น้ำปูนใสเล็กน้อย มะพร้าวทึนทึกขูดขาว 1 กิโลกรัม น้ำขมิ้นสดคั้นกรองเอาแต่น้ำเล็กน้อย เกลือเล็กน้อย ส่วนผสมไส้กุ้ง กุ้งนางสับละเอียด 2 กิโลกรัม รากผักชี พริกไทย และกระเทียมโขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ หัวกะทิ ¾ ถ้วย กากมะพร้าวที่เหลือจากการคั้นในส่วนผสมของแป้ง น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกไทย อย่างละเล็กน้อย น้ำมันพืชสำหรับผัดเล็กน้อย ส่วนผสมอื่นสำหรับทำไส้ ถั่วงอกเด็ดหาง หัวไช้โป๊วสับละเอียด และเต้าหู้เหลืองหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตามชอบ ใบผักชีเล็กน้อย พริกไทยป่นเล็กน้อย น้ำมันเล็กน้อย วิธีทำ 1. คั้นมะพร้าวด้วยน้ำร้อน แล้วแยกหัวกะทิและหางกะทิไว้ 2. นวดแป้งด้วยหัวกะทิจนแป้งเนื้อเนียนดี แล้วเติมหางกะทิทีละน้อยจนหมด พอแป้งละลายเหลวค่อนไปทางใส จึงเติมน้ำขมิ้นให้พอออกสีเหลือง น้ำปูนใสและเกลือ จากนั้นคนส่วนผสมให้ละลายเข้ากันด้วยตะกร้อมือ แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 3. ตั้งกระทะให้ร้อนด้วยไฟกลาง ใส่น้ำมัน นำรากผักชีพริกไทย และกระเทียมโขลกลงไปผัดจนสุกหอม ใส่หัวกะทิลงไปประมาณครึ่งถ้วย ผัดต่อจนส่วนผสมเดือดตามด้วยกุ้งและหัวกะทิที่เหลือ

ส่วนผสม ไข่ไก่ 2 ฟอง ปลาโอแห้ง 1/2 ถ้วย สาหร่ายคอมบุ 2 แผ่น เห็ดหอมสดสไลซ์ 1 ดอก แครอทหั่นขวางแลว้ สลักเปน็ ดอก 4 ชิ้น ต้นหอมหั่นแฉลบ 1/2 ช้อนชา โชยุ 1 ช้อนชา มิริน 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 3 ถ้วย เกลือเล็กน้อย วิธีทำ 1. เทน้ำใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่ปลาโอแห้งและสาหร่ายลงไปหรี่ไฟอ่อนต้มนาน 3 นาที จากนั้นกรองเอาแต่น้ำซุป พักไว้ให้เย็น 2. ตอกไข่ใส่ชามแล้วใช้ส้อมคนไปทางเดียวกันจนเข้ากันดี ปรุงรสด้วยโชยุ มิริน และเกลือ คนจนส่วนผสมเข้ากัน ตวงน้ำซุปใส่ลงไป 1/2 ถ้วย คนให้เข้ากันอีกครั้ง กรองด้วยกระชอนเทใส่ถ้วย นำไปนึ่งโดยใช้ไฟอ่อนนาน 15 นาทีหรือจนไข่สุก จากนั้นวางเห็ดและแครอทลงไปให้สวยงาม นึ่งอีก 5 นาทีจนผักสุก ยกลงจากเตา โรยด้วยต้นหอม เสิร์ฟขณะร้อน เคล็ดลับ - ไม่ควรตีไข่ให้ฟูจนเป็นฟองอากาศ เพราะทำให้เนื้อไข่ตุ๋นไม่เนียนเรียบ - ถ้าไม่มีมิรินให้ใช้น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะแทนได้ - โชยุจะช่วยให้ไข่ตุ๋น มีกลิ่นหอม แต่ถ้าใส่มากไปจะทำใหสี้คล้ำไม่น่ากิน - การกรองและนึ่งไฟอ่อนจะทำให้เนื้อไข่ตุ๋นเนียน ไม่เป็นรูพรุน ที่มาสูตรและภาพ : นิตยสาร Health&Cuisine มิถุนายน, Issue 125

1. น้ำต้มสุก 1.5 ถ้วย (1 ถ้วย + ครึ่งถ้วย) 2. พริกหอม 1 ชช. ........ (เรียกอีกชื่อว่า ซ่วงเจี่ย) 3. พริกไทยป่น 1 ชช. 4. ซีอิ๊วขาว , น้ำมันหอย , ซอสถั่วเหลือง อย่างละ 2 ชต. 5. น้ำตาลทราย 1-2 ชช. 6. กระเทียม 10 กลีบ (ปอกเปลือก) 7. ขิงแก่ 1 ชต. (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ) 8. เหล้าจีน 1 ชต. 9. น้ำมันงา 1 ชต. 10. เกลือป่น 1/2ชต. :: วิธีทำน้ำกุ้งอบวุ้นเส้น :: อันดับแรกเลยก็โขลกขิง พริกหอม และกระเทียมรวมกันค่ะ ผสมเครื่องปรุงที่เหลือทั้งหมดในหม้อใบย่อมๆ คนให้เข้ากันดี แล้วนำไปตั้งไฟให้เดือด ชิมรสดูตามชอบ ....... ออกเค็มนำ แทบจะไม่มีรสหวานเลย และจะหอมเครื่อง ได้กลิ่นเผ็ดของขิง ได้กลิ่นกระเทียม น้ำมันงาค่ะ ซึ่งถ้าใครอยากเพิ่มรสไหน หรือกลิ่นอะไรอีก ก็เพิ่มลดได้ตามชอบเลยนะคะ ...... พอได้รสตามชอบแล้วก็ปิดไฟค่ะ เป็นอันว่าเราได้นำสำหรับปรุงรสกุ้งอบวุ้นเส้นแล้วนะคะ ซึ่งน้ำอันนี้ ถ้าเก็บไว้ข้างนอก อากาศธรรมดาๆ ได้ประมาณ 2 วัน แต่ถ้าเก็บในตู้เย็น จะอยู่ได้เป็นเดือนค่ะ :: ส่วนผสมกุ้งอบวุ้นเส้น :: 1. วุ้นเส้นแบบแห้ง 80 กรัม 2. น้ำปรุงรส 3/4 ถ้วย 3. กุ้งสด 5-6 ตัว (แต่พิมมีแค่ 4 ตัวค่ะ ^^") 4. เบคอ

* กุ้ง 8-10 ตัว (ล้างและปอกเปลือก) * น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ * น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ * ใบมะกรูดซอยละเอียด 2 ใบ    (แบ่งไว้นิดหน่อยสำหรับโรยหน้า)   * กะทิ 400 กรัม * พริกชี้ฟ้าแดงหั่นตามยาว 1 เม็ด * ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร) * น้ำมันพืช สูตรอาหารไทย : กุ้งสด ฉู่ฉี่กุ้ง  วิธีทำทีละขั้นตอน 1. ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งไฟ เติมกะทิและน้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัด จนเครื่องแกงกับกะทิเข้ากัน 2. ใส่กุ้งลงไปผัด จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล 3. ผัดจนเนื้อกุ้งสุกดี แล้วจึงเติมใบมะุกรูดลงไปผัดต่ออีก 1 นาที จึงปิดไฟ 4. ตักใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยใบมะกรูดซอย, พริกชี้ฟ้าและผักชี เสริฟทันทีกับข้าวสวยร้อนๆ (สำหรับ 2 ท่าน) ที่มา   EzyThaiCooking.com

เครื่องปรุง + ส่วนผสม * เนื้อปู 250 กรัม * ไข่ไก่ 2 ฟอง (ตอกใส่ถ้วยและคนให้เข้ากัน) * กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ * ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา * ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ * ต้นหอม 2 ต้น (หั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 1 นิ้ว)   * หอมแดง 2 ช้อนโต๊ะ (หั่นเป็นชิ้นบางๆ) * ขึ้นฉ่าย 100 กรัม (หั่นเป็นชิ้น) * พริกชี้ฟ้า 3 เม็ด (หั่นเป็นชิ้นตามยาว) * น้ำตาล 1 ช้อนชา * น้ำซุป 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำเปล่า) วิธีทำทีละขั้นตอน 1. ใส่น้ำมัน ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่กระเทียมและหอมใหญ่ลงไป ผัดจนกระทั่งกลิ่นหอม 2. เติมน้ำซุป (หรือน้ำเปล่า), ซิอิ๊ว, น้ำปลา และไข่ไก่ ผัดสักพัก (ประมาณ 20 วินาที) จึงใส่เนื้อปูตามลงไปในกระทะ   3. ผัดเนื้อปูจนใกล้สุก (เนื้อปูสุกง่าย ใช้เวลาผัดไม่นาน) หลังจากนั้นใส่เครื่องปรุงและส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปในกระทะ ผัดต่ออีก 30 วินาที จึงปิดไฟ 4. ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ (สำหรับ 2 ท่าน) ที่มา   EzyThaiCooking.com

ส่วนผสม ปลาดุกย่าง 2 ตัว น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 20 กรัม น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 500 มล. ใบมะกรูดซอย 10 ใบ ใบมะกรูดเด็ดใบ 5-6 ใบ พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด ไข่เค็ม 1 ฟอง วิธีทำ 1. นำปลาดุกฟูมาแกะเนื้อ แล้ว สับให้ละเอียด วางผึ่งบนถาดให้แห้ง 2. ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันพืชลง อุ่นน้ำมันให้ร้อนจัดก่อน ใส่เนื้อปลาดุกลงทอด เมื่อเหลืองดีจึงค่อยๆตะล่อมขึ้นสะเด็ดน้ำมันพักไว้ จากนั้นใส่ใบมะกรูดทั้งใบลงทอดให้กรอบตักขึ้นพักไว้ 3. ตั้งกะทะใหม่ ใส่น้ำมันลงเล้กน้อย ผัดพริกแกงให้พอหอม ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และ น้ำเล็กน้อย เคี่ยวให้เข้ากันดี จึงนำเนื้อปลาดุกฟูที่เตรียมไว้ลงคลุกเคล้า ใส่ใบมะกรูดซอยลง ตามด้วยใบมะกรูดทอดกรอบ ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นเส้น ทานคู่กับไข่เค็ม ที่มาสูตรและภาพ : มาดามตวง

ส่วนผสม เนื้อกรรเชียงปูพาสเจอร์ไรซ์ ตรา ซีมันช์ 1 กระป๋อง ผักกาดหอม เด็ดเป็นใบ 2 ต้น สระแหน่ เด็ดเป็นใบ 1 ถ้วย ผักชี เด็ดเป็นช่อ 1 ถ้วย ตะไคร้ซอย 3 ต้น ขิงแก่หั่นเต๋าเล็ก ¼ ถ้วยตวง เส้นหมี่ขาวลวกให้สุกและจัดเป็นคำเล็กๆ 20 คำ หอมแดงเจียว ½ ถ้วยตวง พริกขี้หนูซอย (ตามชอบ) น้ำจิ้มเมี่ยงปู พริกขี้หนู 3-5 เม็ด กระเทียม 3 กลีบ รากผักชี 1 ราก น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ½ ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่วป่น 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ทำน้ำจิ้มโดย ตำพริกขี้หนู กระเทียม รากผักชีให้ละเอียด ใส่หม้อพร้อมกับน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ นำตั้งไฟพอเดือดยกลงใส่น้ำมะนาวและถั่วลิสงคั่วป่นลงไป คนให้เข้ากันพักไว้ 2. จัดผักกาดหอม ใส่เครื่องเมี่ยงปูทั้งหมดลงจัดเป็นคำๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม ใช้ทานเป็นอาหารว่างหากชอบเผ็ด เติมพริกขี้หนูสดลงเวลารับประทาน ที่มาสูตรและภาพ : มาดามตวง

ส่วนผสม อกไก่เลาะกระดูกและหนังออก 1/2 กิโลกรัม มะพร้าวขูดขาว 1/2 กิโลกรัม ตะไคร้ 2 ต้น... ใบมะกรูด 4-5 ใบ ข่าอ่อนหั่นเป็นแว่น 10 แว่น หัวปลี 1/2 หัว พริกขี้หนูสวน 1 ช้อนโต๊ะ ผักชี 1 ช่อ รากผักชีทุบ 2 ราก มะนาว 5-6 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 4-5 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ล้างอกไก่ หั่นชิ้นใหญ่ ล้างตะไคร้ ใบมะกรูด ข่าอ่อน ลอกเปลือกตะไคร้ที่แก่ออกหั่นซอยบางๆ 2. ข่าอ่อนปอกผิวออกหั่นเป็นแว่นบางๆ ใบมะกรูดฉีกเอาก้านกลางออก เด็ดขั้วพริกขี้หนูออกล้างทุบพอแตก ผักชีล้างแล้วเด็ดเป็นใบ 3. เผาหัวปลีด้วยไฟแรง ลอกเอากาบที่แข็งและไหม้ออกให้เหลือแต่กาบใบที่อ่อน นำมาต้มให้สุกหั่นเป็นชิ้นเท่าๆ เนื้อไก่  4. คั้นกะทิให้ได้หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง หางกะทิ 2 ถ้วยตวง ใส่หางกะทิในหม้อยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่ตะไคร้ ข่าอ่อน ใบมะกรูด รากผักชีทุบ 5. คอยคนตลอดเวลาเพื่อไม่ให้กะทิจับตัวเป็นลูก พอเดือดใส่ไก่เคี่ยวต่อพอไก่สุกใส่หัวปลี  6. พอเดือดอีกครั้งปรุงรสด้วย น้ำปลา ราดด้วยหัวกะทิปิดไฟปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและพริกขี้หนูบุบ ชิมรส ตักเสิร์ฟใส่ถ้วย โรยด้วยผักชี ที่มาสูตรและภาพจาก เพจแม่บ้าน

ส่วนผสมตัวแป้ง 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 400 กรัม 2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม 3. ผงฟู 20 กรัม 4. ยีสต์แห้ง 20 กรัม 5. เนยขาว 20 กรัม 6. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 20 กรัม 7. น้ำเปล่า 200 กรัม ส่วนผสมไส้ถั่วดำ 1. ถั่วดำเม็ดเล็กคั่วให้หอมแช่น้ำ 1 คืน 2 ถ้วยตวง 2. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง 3. เนยจืดสด 50 กรัม วิธีทำซาลาเปาไส้ถั่วดำ Bean Bun วิธีทำแป้งซาลาเปา 1. นำน้ำอุ่นมาใส่ลงในยีสต์ให้ท่วมเล็กน้อยรอจนยีสต์ตื่น 2. นำแป้งสาลี น้ำตาลทรายขาว ผงฟู ผสมให้เข้ากัน 3. ใส่เนยขาว ยีสต์ ตามด้วยโยเกิร์ตผสมให้เข้ากัน และค่อยๆใส่น้ำลงไปนวดจนเป็นโดว์ และเนียนเข้ากันดี ใช้พลาสติกคลุมไว้ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 35-40 องศา จนแป้งขึ้นฟู ประมาณ 1-2 ชม 4. นำแป้งนวลมาโรยพื้นที่จะทำการปั้นแป้ง แล้วแบ่งแป้งออกมาปั้นเป็นก้อน ขนาดก้อนละ 20-25 กรัม วิธีทำไส้ถั่วดำ 1. นำถั่วดำ ต้มจนนิ่ม กรองน้ำออก 2. นำถั่วดำไปบด และกรองผ่านตะแกรง 3. ผสมเนยจืด น้ำตาลทราย พักให้เย็น 4. นำแป้งมาแผ่ออกใส่ไส้ตรงกลางแล้วห่อคุมให้มิด ใส่กระดาษรองซาลาเปาโดยการใช้น้ำแปะตรงก้นซาลาเปาเล็กน้อย แล้ววางลงกลางกระดาษ วิธีนี้จะช่วยให้เมื่อซาลาเป

ส่วนผสม ( สำหรับ 2-3 คนรับประทาน ) 1. ถั่วพู 8-12 ฝักหรือประมาณ 1 กำมือ 2. กุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งชีแฮ 5 ตัว 3. ปลาหมึกกล้วย 3 ตัว 4. หมูสับลวกสุก 50 กรัม 5. พริกเผา 2 ช้อนชา 6. พริกขี้หนูสวน 7-10 เม็ด 7. กระเทียมไทยแกะเปลือก 4 กลีบ 8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 9. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 10. น้ำเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ 11. ไข่ไก่ต้มสุกฝานเป็นแว่น 1 ฟอง 12. พริกแห้งทอด 3 เม็ด 13. หอมแดงเจียว 1 ช้อนโต๊ะ 14. น้ำเปล่าสำหรับลวกกุ้ง ปลาหมึก ถั่วพู 2 ถ้วยตวง 15. ผักกาดหอมหรือผักกาดแก้วสำหรับรองจาน วิธีทำ 1. ล้างกุ้งให้สะอาดแกะเปลือกออกเด็ดหัวไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ใส่ถ้วยพักไว้ 2. ล้างปลาหมึกให้สะอาดผ่าตามแนวยาวแล้วแผ่ออกบั้งเป็นตาราง แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ ใส่ถ้วยพักไว้ 3. ล้างถั่วพลูให้สะอาดตัดหัวตัดท้ายทิ้งแล้วหั่นเฉลียง หนาประมาณ ½ ซม. ใส่ถ้วยพักไว้ 4. ตั้งหม้อใส่น้ำลงไป 2 ถ้วยตวงด้วยไฟแรงปานกลางพอร้อน ใส่กุ้งลงไปลวกพอสุกตักขึ้นใส่จานพักไว้ จากนั้นนำปลาหมึกลงไปลวกพอสุกตักใส่จานเดียวกับกุ้งพักไว้ จากนั้นใส่ถั่วพูลงไปลวกพอสุกอย่านานมาก ระหว่างที่รอถั่วพูสุกให้เตรียมน้ำเย็นจัดใส่ชามไว้กะให้พอท่วมถั่วพูหากมีน้ำแข

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนอาหารว่างยอดนิยมของสาวๆยุคนี้ เพราะเป็นเมนูที่ทานได้ไม่อ้วน ครบเครื่องทั้งผักและเนื้อหมูรวมไปถึงความจัดจ้านของน้ำจิ้มซีฟู้ดที่หากได้ทานเป็นต้องติดใจ 1. เส้นใหญ่ 200 กรัม (ชนิดแผ่นใหญ่ ) 2. หมูสับ 100 กรัม 3. เเครอท 50 กรัม (หั่นเต๋า) 4. เห็ดหอม 4 ดอก (หั่นตามยาว) 5. ผักกาดหอม 6. ผักชี 7.ใบโหระพา 8. กระเทียมสับ 1 ชต. 9. น้ำตาลทราย 10.น้ำปลา 11. ซีอิ๊วขาว 12. น้ำมันหอย 13.พริกไทยป่น 14. น้ำมันพืช 2 ชต. วิธีทำ 1. นำเส้นใหญ่ไปนึ่งในน้ำเดือดจัดนาน 10 นาที เสร็จแล้วพักไว้ก่อน 2. ผัดกระเทียมกับน้ำมันพืชให้หอม จากนั้นตามด้วยแครอท ,เห็ดหอม ผัดให้แครอทนิ่มลงซักหน่อย จึงค่อยเติมหมูสับลงไปผัดให้เข้ากัน 3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ,น้ำมันหอย,ซีอิ๊วขาว ,น้ำปลา ,พริกไทยป่น เป็นอันเสร็จในส่วนของการผัดใส้ 4. วางเส้นใหญ่ที่นึ่งแล้วตรงกลางเขียง ใช้มีดผ่าเส้นใหญ่ออกครึ่งนึง ตักหมูสับลงไปตรงกลางแผ่นเส้นใหญ่ วางผักทั้งหมดตามลงไป ห่อให้แน่น จากนั้นเสริฟ์คู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นอันเสร็จ ที่มา  https://plus.google.com/101330165158802365711/posts/8Em9wdCD3BT

เครื่องปรุงและส่วนผสม ------------------------- หมูได้ทุกส่วน หากชอบมันหน่อยอร่อยไม่เหนียวแข็งจนเกินไปกินง่าย เน้นส่วนคอ และราวนม  ๑ กิโลกรัม พริกไทยเม็ด  ๑  ช้อนชา ลูกผักชี   ๑  ช้อนโต๊ะ กระเทียมไทย ๑ หัว น้ำปลา  ๑  ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส   ๑  ช้อนชา ผงชูรสตามชอบ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) รากผักชี ๓-๔ ราก แป้งชุบทอดยี่ห้อใดก็ได้ หากไม่มีใช้แป้งเอนกประสงค์  ๑  ช้อนแกง วิธีทำ ๑.หั่นหมูชิ้นพอดีไม่บางและหนามากจนเกินไป ขนาดพอดีคำก็ได้ ใส่ในกะละมังไว้ ตามด้วยผงปรุงรส ชูรส น้ำปลา ๒.โขลกรากผักชี ลูกผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด หากลูกผักชีกับพริกไทย สามารถเข้าเครื่องปั่นบด ให้ละเอียดได้ยิ่งดี ๓.นำเครื่องเทศที่เราโขลกมาผสมกับหมูใสกะละมัง พอดีว่าอาจโขลกไม่ละเอียดเท่าไหร่ ๔.ล้างมือให้สะอาด ขยำให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ ๑ ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นหรือข้ามคืนก็ได้ โดยแช่ไว้ในตู้เย็น ก่อนนำมาทอด ให้โรยด้วยแป้งชุบทอด หรือแป้งเอนกประสงค์ ขยำให้เข้ากัน แล้วลงทอด ๕.ตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมันประมาณ ๑ ลิตร รอให้น้ำมันร้อน ใส่หมูที่หมัก ๑ กิโลกรัมลงไป คนให้หมูไม่เกาะกันเป็นก้อน ๖.หมั่นคนเรื่อยๆอย่าให้ติดก้นกระทะ ผ่านไป

ถั่วกรอบแก้ว ของรับประทานเล่นยามเหงาปาก ส่วนประกอบก็ทำไม่ยาก สามารถดัดแปลงเป็นถั่วอัลมอนต์ หรือถั่วชนิดอื่นๆตามใจชอบ สูตรนี้ใช้โอวัลตินเพิ่มความหอมอร่อย โรยด้วยงาเสริมคุณค่าทางอาหาร ทำให้ลูกๆ รับประทาน รับรองจะติดใจ ส่วนผสม 1. ถั่วลิสงเม็ดใหญ่ (300 กรัม) 2. น้ำตาลทราย (200 กรัม) 3. น้ำเปล่า (2 ถ้วยตวง) 4. เกลือ (1 ช้อนชา) 5. โอวัลติน (1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ) 6. งาขาว ตามชอบ วิธีทำ 1. นำน้ำ น้ำตาลทราย ถั่วลิสง โอวัลติน ใส่ในกระทะ ใช้ไฟปานกลางถึงแรงเล็กน้อยเคี่ยวจนน้ำใกล้งวด (ประมาณ 15 นาที) ให้คอยคนกันน้ำตาลติดกระทะ 2. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำแห้งหมด น้ำตาลจะตกทราย ให้ลดไฟเบา แล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำตาลเริ่มเยิ้มเล็กน้อย 3. เมื่อน้ำตาลเริ่มเยิ้มพอประมาณ ให้ใส่เกลือ ลงไป 4. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลเยิ้มจนเคลือบถั่วเป็นเงาแวววาว ใช้ตะหลิวคนตลอด แล้วจึงใส่งาคลุกให้ทั่ว และปิดไฟ 5. ยกลงและเทลงในภาชนะกระจายถั่วให้แยกจากกัน รอจนเย็น กรอบ 6.ใส่ถุง หรือขวดโหล ปิดให้สนิท พร้อมรับประทาน เคล็ดลับ สีของถั่วจะสวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการให้ไฟ ถ้าแรงเกินไปสีจะออกมาคล้ำ สามารถเปลี่ยนเป็น ไมโล กาแฟ ก็ได้

ส่วนผสม สาคูเม็ดเล็ก ครึ่งถุง น้ำร้อน 1 ถ้วย หมูบด 100 กรัม ถั่วลิสงคั่วบด 100 กรัม หอมหัวใหญ่ 1 หัว (อันนี้ใช้แทนหัวไชโป๊ว) กระเทียม 1 หัว รากผักชี (ไม่มีให้ใช้ผักชีซอยทั้งต้น) น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดง น้ำปลา ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสแม็กกี้ พริกไทยป่น วิธีทำ -นวดสาคูด้วยน้ำร้อน แล้วพักไว้ -นำกระเทียบมาสับให้ละเอียดแล้วเจียวจนมีสีเหลืองนวลและมีกลิ่นหอม พักไว้ -เริ่มวิธีทำไส้ โดย ผัดหอม กระเทียม และรากผักชีโขลกละเอียด พอสุก ใส่หมูบดลงไป ใส่เครื่องปรุงทุกอย่าง -หมูสุกใส่ผักชีตามลงไป (สำหรับใครที่ใส่รากผักชีแล้วไม่ต้องใส่ผักชีค่ะ) -สุดท้ายใส่ถั่วลิสงคั่วป่น ผัดต่อจนแห้งดี -ขั้นตอนต่อมาเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน คือการห่อไส้สาคู ถ้าห่อไม่ดีคือบางไปจะทำให้ไส้แตก ถ้าหนาไปก็จะไม่อร่อย เทคนิคคือ วางสาคูลงบนอุ้งมือแล้วตามด้วยไส้แล้วค่อยๆจับจีบ แล้วปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ ลองฝึกทำกันดูค่ะ -ต่อไปเป็นขั้นตอนการนึ่ง วางผ้าขาวบางบนลังถึง แล้ววางสาคูตามลงไป เว้นระยะสาคูสักเล็กน้อย เพราะเวลานึ่งสาคูจะใหญ่ขึ้น ใช้เวลานึ่งประมาณ 8-10 นาที -เสร็จแล้วจัดใส่จาน โรยด้วยกระเทียมเจียว ทานคู่กับผั

ส่วนผสม มะระหวานหั่นชิ้นพอดีคำ 1 ผล เห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่ม 7 ดอก... พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมโทน 10 หัว เกลือป่น 1/2 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ ซี่โครงหมูอ่อน 150 กรัม น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง วิธีทำ 1. ล้างซี่โครงหมูอ่อนให้สะอาด 2. เทน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟ ใส่ซี่โครงหมูอ่อน มะระหวาน เห็ดหอม กระเทียมโทน รากผักชี เกลือป่น พริกไทยดำ และซีอิ๊วขาว พอเดือดลดไฟลงเคี่ยวต่อจนซี่โครงหมูเปื่อยและเหลือน้ำขลุกขลิก ชิมรสตามชอบ ที่มาสูตรและภาพจาก เพจแม่บ้าน

ส่วนผสม - กะปิเจ 2 ช้อนโต๊ะ - กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ - เห็ดเค็มป่น 1/4 ถ้วยตวง... - เนื้อส้มซ่าซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำส้มซ่า 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ - พริกไทยอ่อนเด็ดเป็นเม็ด 3 ช้อนโต๊ะ - พริกขี้หนูสวน 10-20 เม็ด - น้ำซุปผัก 1/4 ถ้วยตวง - ใบตอง, ไข่เค็ม, ผักสด และผักต้มตามใจชอบ วิธีทำ 1. ใบตองล้างและเช็ดให้สะอาด ฉีกขนาดกว้าง 6 นิ้ว ใส่กะปิเจกดให้แบเป็นสี่เหลี่ยม พับใบตองเข้าหากันทั้งสี่ด้าน นำไปย่างหรือจี่ในกระทะเหล็ก 2. กระเทียมปอกเปลือกหั่นหยาบ พริกขี้หนูเด็ดขั้วก้านออก ล้างน้ำผึ่งให้แห้ง 3. เห็ดเค็มป่น (แทนเนื้อกุ้งแห้งหรือเนื้อปลากรอบ) คั่วให้กรอบ 4. ผสมน้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มซ่า เนื้อส้มซ่า น้ำซุปผัก คนให้น้ำตาลปี๊บละลาย 5. โขลกกะปิเจ กระเทียม เห็ดเค็มป่นให้ละเอียด นำน้ำปรุงรสที่เตรียมไว้ใส่คลุกเบา ๆ ให้เข้ากัน ชิมรสให้มีทั้งสามรส เปรี้ยว เค็ม หวาน และหอมกลิ่นส้มซ่า แล้วใส่พริกไทยอ่อนคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง โรยหน้าด้วยพริกขี้หนู รับประทานคู่กับไข่เค็ม ผักสด และผักต้มตามชอบ ที่มาสูตรและภาพจาก เพจแม่บ้าน

ส่วนผสม ปลาดุกย่าง 2 ตัว น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 20 กรัม น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 500 มล. ใบมะกรูดซอย 10 ใบ ใบมะกรูดเด็ดใบ 5-6 ใบ พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด ไข่เค็ม 1 ฟอง วิธีทำ 1. นำปลาดุกฟูมาแกะเนื้อ แล้ว สับให้ละเอียด วางผึ่งบนถาดให้แห้ง 2. ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันพืชลง อุ่นน้ำมันให้ร้อนจัดก่อน ใส่เนื้อปลาดุกลงทอด เมื่อเหลืองดีจึงค่อยๆตะล่อมขึ้นสะเด็ดน้ำมันพักไว้ จากนั้นใส่ใบมะกรูดทั้งใบลงทอดให้กรอบตักขึ้นพักไว้ 3. ตั้งกะทะใหม่ ใส่น้ำมันลงเล้กน้อย ผัดพริกแกงให้พอหอม ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และ น้ำเล็กน้อย เคี่ยวให้เข้ากันดี จึงนำเนื้อปลาดุกฟูที่เตรียมไว้ลงคลุกเคล้า ใส่ใบมะกรูดซอยลง ตามด้วยใบมะกรูดทอดกรอบ ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นเส้น ทานคู่กับไข่เค็ม ที่มาสูตรและภาพ : มาดามตวง

ส่วนผสม ไก่ 1 ตัวขนาดประมาณ 1 กิโลกรัม/ ตะไคร้ 3 ต้น กระเทียมไทย 20 กลีบ รากผักชี 7 ราก พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ ใบเตย 2 ใบ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว 1-1/2 ช้อนโต๊ะ หอมแดง 4 หัว นมสด 1/4 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา น้ำจิ้มไก่ย่างวิเชียรบุรี สูตรที่ 1 น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียกต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่ง วิธีปรุงน้ำจิ้ม สูตร 1 นำน้ำมะนาว น้ำตาลปิ๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา มาผสมจนเข้ากันดีแล้วชิมรสให้ได้รส เปรี้ยว หวาน เค็ม จากนั้นใส่ข้าวคั่ว พริกป่น คนให้เข้ากันแล้วโรยด้วยต้นหอมซอยผักชีฝรั่ง น้ำจิ้มไก่ย่างวิเชียรบุรี สูตรที่ 2 กระเทียม 5 กลีบ พริกชี้ฟ้าแดง 3 เม็ด น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยต้วง กระเทียมดอง 2 หัว เกลือ 1-2 ช้อนชา วิธีปรุง นำเครื่องทั้งหมดมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปตั้งไฟให้น้ำตาลละลายเป็นใช้ได้ เมื่อได้จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์กันแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการลงมือทำครับ เริ่มต้นเลยให้เอาเนื้อไก่ที่คัดสรรมาอย่างดีแล้ว ออกมาล้างทำความสะอาดให้หมดจด ผ่าไก่ตลอดตัว แล้วผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ หลังจากนั้นนำรากผั

วิธีทำข้าวขาหมูพะโล้ให้ได้รสชาดที่กลมกล่อมนั้น หลายๆคนคงมีวิธีทำและสูตรเครื่องปรุงของตัวเองอยู่แล้ว วันนี้เราขอแนะนำอีกสูตรหนึ่งที่คุณสามารถนำไปประยุกต์กับขาหมูพะโล้ของตัวเอง เพื่อให้ได้รสชาดที่อร่อยมากยิ่งขึ้น เครื่องปรุง ข้าวขาหมูพะโล้ 1.น้ำมันผสมผ่านกรรมวิธี ตรา Emorald 2 ช้อนโต๊ะ 2.น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม 3.รากผักชีทุบพอแตก 30 กรัม 4.กระเทียมหัวโต 2 หัว 5.กระเทียมดอง 100 กรัม 6.พริกไทยเม็ดตำ 1 ช้อนโต๊ะ 7.ซอสหอยนางรมสูตรเข้มข้นตราเด็กสมบูรณ์ 150 กรัม 8.ซีอิ้วดำหวาน ตราเด็กสมบูรณ์ 2 ช้อนโต๊ะ 9.ขาหมูย่างจนมีกลิ่นหอมสับเป็นชิ้นโตทอดกรอบ 1500 กรัม วิธีทำ ข้าวขาหมูพะโล้ 1. ผัดน้ำตาลปี๊บกับน้ำมันผสมผ่านกรรมวิธีตรา Emorald จนมีกลิ่นหอม 2. เติมน้ำ ใส่รากผักชี กระเทียม กระเทียมดอง ปรุงรสด้วย ซอสปรุงรสตราเด็กสมบูรณ์ ซอสหอยนางรมสูตรเข้มข้น ตราเด็กสมบูรณ์ ซีอิ้วดำหวาน ตราเด็กสมบูรณ์ ใส่ขาหมู ปิดฝาตั้งไฟอ่อน จนขาหมูนุ่ม 3. ตักขาหมูวางลงข้าวหอมมะลิหุงสุก นำมารับประทานคู่กับไข่เป็ดต้มยางมะตูมและน้ำจิ้ม ที่มา  https://plus.google.com/111133648436751462106/posts/8ZdgiPmMvV9

ส่วนผสมผัดหมี่โคราช 1.เส้นหมี่โคราช 1 กำ ( กำขนาดกลางเพราะมีหลายขนาด) 2.เนื้อหมู่หั่นชิ้นบาง (เป็นหมูแดง และหมูสามชั้น รวมกัน) ประมาณ 1 ขีด 3.ถั่วงอก 1 ถ้วย 4.ใบกุ้ยช่ายหั่นท่อน ประมาณ 2 ต้น 5.ไข่ไก่ 1 ฟอง 6.หอมแดงสับให้ละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ 7.กระเทียมสับละเอียด ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 8.เต้าเจี้ยว 1-2 ช้อนโต๊ะ 9.น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ 10.น้ำตาลปึกหรือน้ำตาลปี๊ป ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ 11.น้ำปลา 2.5 ช้อนโต๊ะ 12.ซีอิ้วดำ ครึ่งช้อนชา 13.พริกป่น ครึ่งช้อนชา 14.น้ำเปล่า 1-2 ถ้วย (อาจจะใส่ไม่หมด) 15.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำผัดหมี่โคราช เริ่มด้วยการตั้งกระทะให้ร้อนด้วยไฟปานกลาง หลังจากนั้นใส่น้ำมัน เมื่อน้ำมันร้อนดีแล้วให้ใส่หอมแดงและกระเทียมลงไปผัดให้พอหอม ใส่น้ำตาลปึกลงไปเคี่ยวให้ละลายและมีสีเข้มขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นให้ใส่เต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก น้ำปลา พริกป่น และซีอิ๊วดำลงคนให้เข้ากันดี ใส่หมูลงผัดให้สุก แล้วเติมน้ำลงไปรอให้เดือดจึงลองชิมรสดูให้เข้มข้น ใส่เส้นหมี่ลงทีละนิดลงจนหมด และคลุกเคล้าให้เข้ากันกระทั่งน้ำปรุงซึมเข้าเส้นจนหมด ใช้ตะหลิวเกลี่ยเส้นหมี่ไว้ข้างกระทะ หลังจากนั้นให้ตอกไข่ลงไปใน

ส่วนผสม 1. แป้งมัน 2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3. น้ำตาลทราย 4. หัวกะทิ 5. เกลือป่น 6. มันเทศ 1 หัว 7. ไข่ไก่ 2 ฟอง 8. ผงฟู วิธีทำ – นำมันเทศมาปลอกเปลือก และล้างในน้ำให้สะอาด แล้วนำไปนึ่งให้สุก – พอได้มันเทศนึ่งสุกแล้วให้นำมาบดให้ละเอียด แล้วผสมแป้งมันลงไปแค่ครึ่งหนึ่งของมันเทศ จากนั้นก็นำแป้งสาลีใส่ลงไป 1/3 ส่วนของแป้งมัน – นำไข่ที่เตรียมไว้ และเลือกเอาเฉพาะไข่แดงแล้วใส่ลงไปรวมกันกับมันเทศบดและแป้งที่ผสมไว้แล้ว – ใส่น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปเล็กน้อย – นวดแป้งและส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน และให้ใส่หัวกะทิลงไปตอนนวดแป้งทีละน้อย นวดจนให้สามารถจับปั้นได้ – ใส่ผงฟูลงไป 1 ช้อนชา พักแป้งที่นวดกับมันเทศไว้ครึ่งชั่วโมง และนำมาปั้นเป็นเม็ดกลมขนาดเท่าไข่นกกระทา – ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอให้น้ำมันเดือดได้ที่ แล้วใส่ไข่นกกระทาหรือไข่เต่าที่ปั้นไว้ลงไปทอด – ใช้ตะแกรงกดขนมระหว่างทอด เพื่อให้ฟูขึ้น ทอดให้เหลือง กรอบ จากนั้นตักขึ้นจากน้ำมัน รอให้สะเด็ดน้ำมัน ก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทาน หมายเหตุ : บางท่านอาจจะไม่ต้องใช้ไข่ไก่ในการทำขนมไข่เต่านี้ก็ได้ และถ้าใครไม่ชอบมันเทศก็สามารถเปลี่ยนมาเป็น เผือก ฟักทอง หร

ส่วนผสม เตรียมเป็ด 1 ตัว ขิง 2 แผ่น กระเทียม 2 กลีบ ต้นหอม 1 ต้น รากผักชี 1 สีผสมอาหารสีแดง ซีอิ้วดำ น้ำส้มสายชู ผงพะโล้ เกลือ น้ำตาล +ชูรสนิดๆ ดอกจันทร์2ดอก เชือกเอาไว้เย็บ (แต่ห้ามใช้เชือกพลาสติก ) เข็มไว้สำหรับเย็บทรงจะโค้งๆ ครึ่งวงเดือน วิธีทำ เป็ดสดล้างให้สะอาด 1 ตัว ถอนขนให้เกลี้ยง ล้วงไส้ข้างในท้องเป็ดทิ้งแล้วให้สะอาด เอาผงพะโล้ไปคั่วในหม้อใบเล็กๆใส่หั่นต้นหอม ขิง กระเทียม ลงไป เกลือ+น้ำตาล+ชูรส แล้วเอามาใส่ในท้องเป็ดเย็บให้แน่นปั๊มลม ผูกเชือกปิดตรงคอ แล้ว ทาสี ที่ผสม มี-สี1ช้อนชา+ซีอิ้วดำ+น้ำส้มสายชู+น้ำร้อนนิดหน่อย ทาตามผิวลงไป ที่เราลวกน้ำร้อนนแล้วแล้ว ผึ่งลมไว้ คืนนึง แล้วถึงมาเข้าเตาอบ ทาสีแล้วแขวนทิ้งไว้คืนนึงแล้วถึงจะเอามาย่างเปิดเตา 220ย่างหลัง ก่อน 15ถึง20นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของเป็ดคะ และมาย่างตรงช่วงท้อง อีก 25ถึง30นาที ย่างเสร็จแล้ว เอาแขวนไว้แล้วดึงด้ายที่เย็บออกมา เอาถ้วยรองน้ำที่ไหลออกมาจากท้อง เป็ด ตักเครื่องเทศทิ้งไป เอามาชิมดู ถ้าขาดเค็มก็เติมเกลือ แล้วสับเป็ด ออกมาเป็นชิ้นๆ แล้วเอาซอสที่รองได้ราดหน้าเป็ดลงไปให้ซอสซึมลงไปในเนื้อเป็ด จะทำให้เนื้อเป็ดไม่เเห้ง และ

สิ่งที่ต้องเตรียม ปลาหมึกสด 500 กรัม มะเขือเปราะ 4-5 ลูก ถั่วฝักยาว 2 ฝัก น้ำพริกแกงเผ็ด 100 กรัม โหระพาเด็ดใบ 1 กำ พริกแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ ใบมะกรูดซอย 3-4 ใบ ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา วิธีทำปลาหมึกผัดพริกแกง เราก็เริ่มจากนำมาหมึกมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน เสร็จแล้วหั่นปลาหมึกเป็นท่อนๆ มะเขือเปราะก็นำไปล้างน้ำผ่าครึ่งแช่น้ำธรรมดาไว้ก่อน ส่วนถั่วฝักยาวล้างน้ำแล้วหั่นเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ  1  นิ้ว จากนั้นเราก็เอากระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อนใส่ปลาหมึกลงไปรวน รวนซักครู่ไม่ต้องให้ปลาหมึกสุก เอาแค่พอน้ำออกจากตัวปลาหมึกก็พอ เสร็จแล้วตักเอาเฉพาะแต่ตัวเนื้อปลาหมึกขึ้นใส่จานพักไว้ นำกระทะใบใหม่ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป พอร้อนใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดให้หอม ใส่มะเขือเปราะ และถั่วผักยาวลงไปผัด เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยแค่พอขลุกขลิก ผัดไปซักครู่ก็ใส่เนื้อปลาหมึกที่เรารวนไว้ลงไป ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันชิมรสตามชอบ ใส่ใบมะกรูดฉีกและพริกแดงลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักปลาหมึ