resepthilnd

• ส่วนผสม - มะขาม 1 กิโลกรัม - น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง หรือ ½ กิโลกรัม - น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง • วิธีทำ - เคี่ยวน้ำตาลทรายกับน้ำจนน้ำตาลทรายละลายข้นเหนียว ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น * วิธีแช่อิ่มจากมะขามสด (ใช้มะขามแก่จัด) 1. ต้มน้ำให้เดือด ใส่มะขามลงไปต้มสักครู่ ตักขึ้นแช่น้ำเย็น ใช้มีดบางปอกเปลือกและแกะเมล็ดทิ้ง แช่น้ำปูนใสทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วนำไปแช่น้ำเกลือเค็มปานกลาง 1 ชั่วโมง เทน้ำทิ้ง ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ 2. เรียงมะขามใส่ขวดโหล หรือถุงพลาสติก ใส่น้ำเชื่อมแช่ทิ้งข้ามคืน หรือเก็บเข้าแช่ตู้เย็น 3. วันรุ่งขึ้น นำแต่น้ำเชื่อมที่แช่มะขามไปต้มให้เดือด โดยใส่น้ำตาลทรายเพิ่มลงไปประมาณ ¼ ถ้วยตวง เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น จึงนำไปแช่มะขาม ทิ้งไว้ข้ามคืน (ทำวิธีเช่นนี้สัก 2 ครั้ง หรือจนกว่ามะขามจะมีรสชาติถูกใจ) 4. นำมะขามแช่อิ่มไปตากแดด 1 - 2 วัน เก็บใส่ภาชนะแช่ตู้เย็นไว้รับประทาน (อาจคลุกพริกเกลือเพิ่มรสให้เข้มข้นก็ได้) วิธีแช่อิ่มจากมะขามดอง (ซื้อจากตลาด) 1. แกะเมล็ดมะขามทิ้ง 2. แช่มะขามในน้ำสะอาด (ให้สีและวัตถุเจือปนอาหารเจือจาง) 3. แช่น้ำปูนใส 15 นาที 4. ทำตามกรรมวิธีดังกล่าวข้างต้น

การที่จะทำซุปหางวัวชามนี้ให้อร่อยนั้นต้องเริ่มจากการเลือกหางวัวที่ติดมันและเนื้อนุ่ม ซึ่งจะทำให้รสชาติแทรกซึมเข้าไปได้ง่าย ปรุงน้ำซุปให้เข้มข้น และใส่เครื่องเทศกลิ่นหอม เพื่อให้ได้รสชาติครบถ้วนกลมกล่อม ส่วนผสมมีดังนี้ หางวัว 1 กิโลกรัม เนยอินเดีย 150 กรัม ลูกกระวาน 4 เม็ด กานพลู 3 ดอก อบเชย 3 ชิ้น หอมใหญ่สับ 150 กรัม กระเทียมสับ 100 กรัม ขิงแก่หั่นแว่น 8-10 แว่น หอมเจียว 1 ถ้วย น้ำซุป 10 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ลูกผักชีป่น ½ ช้อนโต๊ะ ยี่หร่าป่น ½ ช้อนชา ผงขมิ้น ½ ช้อนชา มันฝรั่งหั่นแว่นหนา 2 หัว มะเขือเทศสีดา 3 ลูก หอมใหญ่หั่นชิ้นใหญ่ 3 ลูก น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูแดง 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมตัดท่อน ½ ถ้วย ขึ้นฉ่ายตัดท่อน ½ ถ้วย รากผักชี 5 ราก วิธีทำเริ่มต้นจากล้างหางวัวให้สะอาดแล้วสับเป็นชิ้นตามข้อ ใส่ลงในหม้อเติมน้ำให้ท่วม เปิดไฟกลาง ต้มจนน้ำเดือดแล้วปิดไฟ เทน้ำทิ้ง จากนั้นก็ให้เติมน้ำอีกครั้ง เปิดไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนสุกนุ่ม ตั้งหม้ออีกใบใช้ไฟกลาง ใส่เนยอินเดีย ลูกกระวาน กานพลู อบเชย หอมใหญ่ กระเทียม ขิง แล้วผัดให้หอม จากนั้นใส่หางวัวที่เคี่ยวเปื่อยนุ่มแล้วลงไป ใส่หอ

ส่วนผสมมีดังนี้ สันคอหมู 2 กิโลกรัม ซอสมะเขือเทศ 2 ½ ถ้วย ซีอิ้วขาว 1 ¼ ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย น้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วย พริกไทยป่น 2 ช้อนโต๊ะ เนยสด 100 กรัม หอมใหญ่สับ 4 ถ้วย มะเขือเทศราชินี (ตามชอบ) สับปะรดศรีราชา (ตามชอบ) ไม้เสียบลูกชิ้น (สำหรับเสียบบาร์บีคิว) วิธีทำเริ่มจากนำซอสมะเขือเทศ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู และพริกไทยป่นผสมรวมกันไว้ก่อน จากนั้นนำเนยใส่หม้อ แล้วนำไปตั้งไฟจนเนยละลาย ใส่หอมใหญ่สับลงไปผัดให้เหลืองหอม นำซอสที่ผสมไว้แล้วใส่ลงไปเคี่ยวประมาณ 5-10 นาที แล้วยกลงจากเตา ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำไปปั่นจนละเอียดจะได้ซอสหมักบาร์บีคิว โดยแบ่งซอสเก็บไว้ทาตอนย่างบาร์บีคิวเล็กน้อย สับปะรดศรีราชาปอกเปลือกออก แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ ส่วนมะเขือเทศราชินีล้างน้ำให้สะอาดแล้วทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ ในส่วนของสันคอหมู ล้างให้สะอาด ทิ้งไว้จนสะเด็ดน้ำ แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นยาวพอประมาณ แต่ไม่ต้องหนามากเพราะจะสุกยาก เสร็จแล้วนำซอสที่แบ่งไว้แล้วมาคลุกกับเนื้อหมูให้ทั่ว หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือถ้าหมักค้างคืนก็จะยิ่งเข้าเนื้อ เมื่อได้ที่แล้วนำมาเสียบในไม้เสียบลูกชิ้น โดยเสียบสับปะรดลงไปก่อน ตา

ข้าวเหนียวมูนหน้าปลาแห้ง ส่วนผสมและสัดส่วน ข้าวเหนียวมูน 1. ข้าวเหนียว (ใช้ข้าวเหนียวใหม่) 5 – 6 ถ้วย 2. หัวกะทิ 3 ถ้วย 3. น้ำตาลทราย 2 ถ้วย 4. เกลือป่น 2 ช้อนชา 5. สารส้มป่น ¼ ถ้วย หน้าปลาแห้ง 1. เนื้อปลาตากแห้ง 100 กรัม 2. หอมแดงซอย 60 กรัม 3. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา 4. น้ำตาลทราย 150 กรัม วิธีทำข้าวเหนียวมูน 1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด ขัดด้วยสารส้มให้ทั่ว เทน้ำสารส้มทิ้งไว้ แช่ข้าวเหนียวไว้ 1 คืน 2. นึ่งข้าวเหนียวจนสุก โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที 3.ผสมน้ำตาลทราย เกลือป่น ลงในหัวกะทิ ตั้งไฟคนให้ละลาย รอให้เดือดยกลง 4.ใส่ข้าวเหนียวลงไปมูน ทิ้งไว้ให้ข้าวเหนียวดูดน้ำกะทิ หน้าปลาแห้ง 1. ปลาแห้งเอาไปทอดหรืออบ จากนั้นแกะเอาแต่เนื้อ แล้วเอาไปโขลกให้เนื้อปลาฟู 2. เจียวหอมแดงจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน น้ำมันที่เหลืออย่าทิ้ง นำเนื้อปลาที่โขลกไว้ลงไปผัดใส่เกลือลงไป ชิมรสอย่าให้เค็มมาก นำขึ้นมาคลุกกับน้ำตาลทรายและหอมแดงเจียวกินกับข้าวเหนียวมูน Cr. สูตรอาหาร http://th.openrice.com/th/recipe/ข้าวเหนียวมูนหน้าปลาแห้ง/721 Cr. ภาพอาหาร Internet

สวัสดีครับ ใครใคร่อยากจะหาธุรกิจทำมาหากินในรูปแบบใหม่ๆ ก็เชิญอ่านทางนี้เลยนะครับ วันนี้เราอยากจะมาแนะนำธุรกิจพารวยอีกอย่างหนึ่งที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือพื้นที่เพียงเล็กน้อยก็สามารถเปิดแผงขายได้แล้ว โดยธุรกิจวันนี้ที่อยากจะแชร์ เป็นของขบเคี้ยวหวานมันส์ โรตีกรอบนี่เองครับ ที่สามารถทำขายได้ทุกเพศ ทุกวัย ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมอร่อยๆ ทอดกรอบ เคี้ยวมันส์ เคี้ยวเพลินกันแล้ว แถมยังมีราดไซรัปหวานๆด้วย ก็สามารถดึงดูดผู้ซื้อ และเป็นที่ติดอกติดใจแก่ผู้รับประทานได้อย่างไม่ยากเย็นนัก วิธีทำก็ง่ายอย่างมากเลยครับ ส่วนผสมสามารถหาได้ทั่วไปครับ มาดูกันเลยครับ ว่าโรตีกรอบทำกันอย่างไร #สูตรวิธีการทำโรตีกรอบ สูตรที่ 1 ส่วนผสม – แป้งสาลี 1 กิโลกรัม – ไข่ไก่ 2 ฟอง – เนยมาการีน 100 กรัม – นมสด 5 ช้อนโต๊ะ – น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ – เกลือ 1 ช้อนชา – ต้นหอมซอยละเอียด 4 ต้น – น้ำเปล่า 1 ถ้วย วิธีการทำ 1. เริ่มต้นจากเอาแป้งสาลีมาร่อนก่อน 2. ให้เอาส่วนผสมทั้งหมด ไข่ไก่ เนยเนยมาการีน นมสด น้ำตาลทราย น้ำเปล่า เกลือ นำมาผสมให้เข้ากัน 3. ค่อยๆ นำส่วนผสมโรยบนแป้งท

เครื่องปรุง + ส่วนผสม * ถั่วเขียว 450 กรัม * น้ำตาลทราย 200 กรัม (สำหรับผสมถั่ว) * น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำน้ำวุ้น) * น้ำกะทิ 400 กรัม * วุ้นผง 3 ช้อนโต๊ะ * น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำวุ้น) * สีผสมอาหาร (อย่างน้อยแม่สี 3 สี : สีแดง, สีเหลืองและน้ำเงิน), จานสีและพู่กัน * ไม้จิ้มฟัน (สำหรับเสียบถั่วที่ปั้นแล้วเพื่อแต่งสีและจิ้มลงในน้ำวุ้น) * โฟม (สำหรับเสียบถั่วปั้นระหว่างทำ ถ้าวางบนพื้นจะเสียทรง) วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน 1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) 2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี 3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้) 4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงตามใจชอบ (ผัก, ผลไม้หรือสัตว

ผัดมาม่าเป็นอาหารง่ายๆที่ทำรับประทานกันได้ตามบ้านเรือน ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องปรุงมากมาย ทำได้รวดเร็ว เวลาไม่รู้ว่าจะทานอะไรดีลองนึกถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดู จิงๆแล้วบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นไม่จำเป็นต้องนำไปต้มอย่างเดียวเท่านั้น วันนี้กระผมจะนำเสนอการนำเส้นบะหมี่มาผัดเพื่อให้ได้อีกหนึ่งวิธีในการรับประทานครับ โดย khunsha182 วัตถุดิบ 1.น้ำมันพืช 2.กระเทียม 3.น้ำมันหอย 4.เครื่องปรุงรสในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป(รสต้มยำเท่านั้น) 5.ไข่ไก่ 6.ถั่วผักยาว 7.แครอส 8.ข้าวโพดอ่อน 9.หมูบด 10.เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลวกแล้ว วิธีทำ 1.ตั้งกระทะรอให้น้ำมันร้อนแล้วจึงใส้กระเทียมที่สับหยาบแล้วลงไป 2.พอกระเทียมหอมแล้วให้นำหมูบดลงไปผัด 3.พอหมูบดใกล้จะสุกให้นำผักทั้งหมดลงไปผัดให้สุกพร้อมกับหมูบด 4.จากนั้นให้นำเส้นบะหมี่กึ้งสำเร็จรูปลงไปพร้อมกับเครื่องปรุงต้มยำแล้วก็น้ำมันหอยใส่ลงไป 5.ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันให้หมด 6.พักทุกอย่างทั้งหมดไว้ด้านไดด้านหนึ่งของกระทะแล้วน้ำไข่ไก่ต้อกลงไป 7.กวนไข่ซักนิดแล้วนำเส้นบะหมี่โปะลงไปบนไข่ 8.ทิ้งไว้ซักแป๋บแล้วตักเสริฟโดยให้ไข่ไก่นั้นอยู่ด้านบนแล้วอย่าทำให้แต่ออกจากกัน ข้อแนะนำ เวล

ส่วนผสมมีดังนี้ ปลาหมึกกล้วยตัวใหญ่ ประมาณ 1-1 1/2 กิโลกรัม น้ำปลาอย่างดี 5 ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนชา น้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ เริ่มจากนำปลาหมึกมาล้างให้สะอาด ลอกหนังออก แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้น ผสมน้ำปลาและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี นำปลาหมึกลงไปหมักกับน้ำปลาและน้ำตาลในกล่อง หรือกะละมังใบใหญ่หน่อย จะได้ไม่ต้องซ้อนตัวปลาหมึก ทำให้ปลาหมึกเค็มเท่ากันทั่วทั้งตัว หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง หรือจะหมักทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ จากนั้นนำมาตากแดดจนปลาหมึกหมาด (ถ้าแดดแรงก็ตากประมาณ 2-3 ชั่วโมง) พอได้ที่แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพอร้อนแล้วใส่ปลาหมึกลงทอดพอเหลือง แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ยกขึ้นเสิร์ฟได้เลย ขอบคุณที่มา : http://www.manager.co.th ขอบคุณรูปสวยๆจาก : www.google.co.th

ส่วนผสมมีดังนี้ หน่อไม้สด 2 หน่อ (ขนาดกลางๆ) สะโพกไก่ 1/2 กิโลกรัม เห็ดหอมแห้ง 5 ดอก เกลือ 1/2 ช้อนชา ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา ผักชีสำหรับโรยหน้า น้ำเปล่า วิธีทำ เริ่มจากนำเห็ดหอมแห้งมาแช่น้ำจนนิ่ม จากนั้นเอาขึ้นจากน้ำพักไว้ก่อน (ถ้าเห็ดหอมดอกใหญ่ให้หั่นครึ่ง) หน่อไม้สดปอกเปลือกนอกออก หั่นเป็นชิ้นบางๆ ขนาดพอคำ แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด ทิ้งไว้สักครู่แล้วปิดไฟ ยกลงจากเตา เทน้ำที่ต้มทิ้งไปเพื่อไม่ให้แกงจืดมีรสขม นำน้ำใส่หม้อแล้วยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่สะโพกไก่ ต้มจนสุก หมั่นช้อนฟองออก จากนั้นใส่หน่อไม้ เห็ดหอม ปรุงรสใส่เกลือและซีอิ้วขาว เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ โดยใช้ไฟอ่อน ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นปิดไฟ โรยพริกไทยป่นและผักชี ตักใส่ถ้วยแล้วยกเสิร์ฟได้เลย ขอบคุณที่มา : http://www.manager.co.th ขอบคุณรูปสวยๆจาก : www.google.co.th

ส่วนผสม เนื้อสันนอกหมูติดกระดูก (พอร์คชอป) 180 กรัม ผลไม้รวม (แอปเปิ้ล, สับปะรด, แคนตาลูป) 20 กรัม พริกแกงพะแนง 10 กรัม กะทิ 10 กรัม น้ำตาลปี๊บ 10 กรัม น้ำปลา 10 กรัม มันฝรั่ง 30 กรัม ผักรวม 30 กรัม เนย 30 กรัม ไวน์แดง 20 กรัม น้ำมันมะกอก 15 กรัม พริกไทย 5 กรัม เกลือ 5 กรัม มัสตาร์ด 5 กรัม วิธีทำ หมักพอร์คชอปด้วยเกลือ พริกไทย น้ำมันมะกอก มัสตาร์ด และไวน์แดง ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หั่นผลไม้ต่างๆ ผัดกับเนยจนหอม แล้วพักไว้ นำกระทะตั้งไฟ ใส่เนยลงไปทิ้งไว้ให้ละลาย แล้วนำพริกแกงพะแนงลงไปผัดจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา เคี่ยวจนให้ได้น้ำพอขลุกขลิก จากนั้นนำพอร์คชอปที่หมักไว้ไปย่างบนกระทะ โดยใส่น้ำมันมะกอกตั้งไฟให้ร้อน จากนั้นนำพอร์คชอปลงย่างให้สุกเหลืองทั้งสองด้าน เติมเนยลงไปเล็กน้อยเพิ่มความหอม แล้วยกลงจากเตา นำมันฝรั่งลงไปทอดในน้ำมัน ส่วนผักรวมต่างๆ นำไปผัดกับเนยจนสุกหอม สุดท้าย นำพอร์คชอปที่ย่างสุกแล้วมาใส่จาน วางเคียงด้วยผักรวมผัดเนย และมันฝรั่งทอด ส่วนผลไม้รวมก็วางไว้ด้านข้าง แล้วราดด้วยซอสพะแนง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ขอบคุณที่มา : http://www.manager.co.th

เมนูอาหารของสมาชิกกระทู้พันทิปชื่อคุณ "maekwansri" ที่ได้เผยแพร่สูตรเด็ดการทำ "ต้มยำปลานักเลง(ปลาเก๋า)น้ำข้น" มาให้ทุกคนได้ทดลองทำกัน ช่วงนี้กินอาหารทะเล ประเภทกุ้ง ปลาหมึก และหอย บ่อย แต่ไม่ค่อยได้กินปลาเลย ต้องเพิ่มรอยหยักให้สมองบ้างดีกว่า เลยจัดเมนู ต้มยำปลาเก๋า รสแซ๊บแซ่บ กินกัน2 คนผัวเมีย รู้สึกตัวเบาไปเยอะเลย 5555 ส่วนผสม 1.เนื้อปลาเก๋า หั่นเป็นชิ้น 2.ตะไคร้บุบ/ข่าบุบ/ใบมะกรูด/พริกขี้หนูบุบ/ 3.เห็ดฟาง/พริกแห้งทอด /ผักชีฝรั่งหั่นท่อน 6.น้ำมะนาว/น้ำปลา /น้ำตาล/น้ำพริกเผา/มันกุ้ง/นมสด วิธีทำ 1.ต้มน้ำให้พอเดือดใส่ ตะไคร้/ข่า/ใบมะกรูดลงไปต้มให้หอม 2.ใส่น้ำพริกเผา มันกุ้ง ลงไป ต้มให้เดือด ปรุงรสด้วย น้ำมะนาว/น้ำปลา /น้ำตาล ให้รสจัด ตามชอบ ปล่อยให้เดือด 3.ใส่เห็ดฟาง,เนื้อปลาลงไปห้ามคน รอเดือดอีกครั้งใส่นมสดและพริกขี้หนู ลงไปคนให้เข้ากัน 4.ตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยพริกแห้งทอด พริกขี้หนูบุบ/ผักชีฝรั่งหั่นท่อน...แซ่บได้เลย มันแซ่บมากกกกกก ขอบคุณ ที่มา สมาชิกกระทู้พันทิปชื่อคุณ "maekwansri"

อีกหนึ่งเมนูแสนง่ายที่นิยมนำไปทานกับข้าวต้ม หรือว่าจะทานกับข้าวสวยก็อร่อยไม่แพ้กัน หมูสับที่ผสมเข้ากับปลาเค็มและเครื่องปรุงต่างๆ นำไปทอดจนสุกเหลืองหอม บีบมะนาว โรยพริกขี้หนูซอยกับหอมแดงเล็กน้อย ก็พร้อมอร่อยแล้วครับ ใครที่อยากเปลี่ยนรสชาติจากหมูสับปลาเค็มนึ่งลองมาทำแบบทอดดูครับ อร่อยไปอีกรูปแบบหนึ่งครับ สูตรอาหารหมูสับปลาเค็มทอด เวลาที่ใช้ในการทำ 60 นาที ส่วนผสมสำหรับ 4-5 ท่าน วัตถุดิบหมูสับปลาเค็มทอด 1. หมูสับ 200 กรัม 2. ปลาอินทรีย์เค็ม 30 กรัม 3. ต้นหอม 2 ต้น 4. รากผักชี 1 ราก 5. กระเทียม 3 กลีบ 6. น้ำมันปาล์ม 50 มล. 7. ไข่ไก่ 1 ฟอง 8. แป้งทอดกรอบ 3 ชต. 9. น้ำมันหอย 2 ชต. 10. น้ำตาลทราย 1 ชช. 11. พริกไทยป่น 1/2 ชต. เครื่องเคียง 1. พริกขี้หนูซอย 1 ชต. 2. มะนาว 1 ซีก 3. หอมแดงซอย 2 ชต. วิธีทำหมูสับปลาเค็มทอด 1. ซอยต้นหอมเตรียมไว้ ตามด้วยสับรากผักชี กระเทียม จนละเอียด จากนั้นแกะก้างปลาเค็มออก และหั่นปลาเค็มเป็นชิ้นเล็กๆ 2. นำหมูสับ ปลาเค็ม ต้นหอม รากผักชีสับ กระเทียมสับ ไข่ไก่ แป้งทอดกรอบ น้ำมันหอย น้ำตาลทราย นวดเข้าด้วยกันจนเหนียวข้น 3. ตั้งนำมันให้ร้อน นำส่วนผสมที่หมักจนเหนียวแล้วปั้น

ไก่อบพริกไทยดำ Roasted Chicken with Black Pepper นานมาแล้วผมได้ทำซอสที่ใช้กับอาหารจีนไว้ ชื่อว่า ซอสพริกไทยดำ หลายครั้งที่นำซอสตัวนี้มาผัดอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ปลาผัดพริกไทยดำ ซี่โครงหมูอบสับปะรดพริกไทยดำและอื่นๆ จริงๆ แล้วในร้านอาหารที่ผมทำอยู่นั้น ซอสตัวนี้ที่เราทำขึ้นมาสามารถทำอาหารได้หลายชนิด หลายแบบ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนู ที่จะนำเอาซอสพริกไทยดำ มาหมักไก่เพื่อนำไปทำอาหารประเภทอบครับ!!! สูตรไก่อบพริกไทยดำ Roasted Chicken with Black Pepper สำหรับไก่ 1 ตัว เวลาในการทำ 50 นาที วัตถุดิบไก่อบพริกไทยดำ Roasted Chicken with Black Pepper 1. ไก่น้ำหนัก 1 กิโลกรัม 1 ตัว 2. ซอสผัดพริกไทยดำ 1/2 ถ้วย วิธีทำไก่อบพริกไทยดำ Roasted Chicken with Black Pepper 1. นำไก่มาล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง 2. นำซอสผัดพริกไทยดำ มาขยำและนวดให้ทั่วตัวไก่ ทั้งด้านนอก และด้านใน พักไว้ 2 ชั่วโมง 3. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150-170 เซลเซียส ด้านละ 20 นาที สูตรซอสพริกไทยดำ จะใช้สำหรับกี่ที่แล้วแต่ปริมาณในการใช้ในแต่ละสูตร และปริมาณของเนื้อสัตว์ ใช้เวลาในการทำ 30 นาที ส่วนผสมซอสพริกไทยดำ 1. พริกไทยดำเม็ด 100 กรัม 2. กระเทียมสั

เมนูที่ขาดไม่ได้เลยเวลาเข้าร้านข้าวมันไก่ ข้าวมันที่นำไปผัดและหุงด้วยน้ำมันและน้ำซุปจากไก่ รสชาติหอมมัน ทานกับไก่ทอดกรอบ พร้อมน้ำซุป สูตรอาหารข้าวมันไก่ทอด ระยะเวลา 1 ชม. สำหรับ 2-4 คน เครื่องปรุงข้าวมันไก่ทอด ข้าวมัน 1.ข้าวสาร 2 ถ้วย 2.เกลือ 1 ช้อนชา 3.มันไก่ 2 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 5.กระเทียม(บุบ) 2 กลีบ 6.ขิง(บุบ) 1 อัน 7.น้ำเปล่าหรือน้ำต้มไก่(ใช้หุงข้าว) 3-4 ถ้วย ไก่ทอด 8.เนื้อไก่ 4 ชิ้น 9.ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 10.น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ 11.แป้งสาลี 1 ถ้วย 12.ผงฟู 2 ช้อนชา 13.เกลือป่น 1/4 ช้อนชา 14.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 15.พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา 16.น้ำ 1/2 ถ้วย วิธีทำข้าวมันไก่ทอด 1. อ่างผสมใส่ไก่ ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซอสปรุงรส คลุกเคล้าหมักไก่ไว้ 10 – 15 นาที 2. กะทะใส่มันไก่ผัดจนน้ำมันออก ทุบกระเทียม ขิง ผัดพอหอม ใส่ข้าวลงไปผัด เกลือ ผัดสักพัก ใส่น้ำซุปไก่ 1-2 ทัพพี พอหอมและสุกเล็กน้อย เทใส่หม้อหุงข้าว เติมน้ำซุปไก่ข้าว 1 ข้อนิ้ว (องคุลี) ใช้หม้อไฟฟ้า หรือหุงแบบไม่เช็ดน้ำในหม้อธรรมดา 3. อ่างผสมใส่แป้งสาลี ผงฟู เกลือ น้ำตาล พริกไทย เคล้าให้เข้ากัน ใส่น้ำคนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน

ขนมถ้วยฟู Thai Rice Flour Muffin ขนมถ้วยฟูหนึ่งในขนมไทยโบราณและเป็นขนมที่จัดอยู่ในขนมมงคล ขนมถ้วยฟูตำรับนี้เชฟได้ปรับปรุงสูตรให้ส่วนผสมมีความลงตัวมากขึ้น สูตรแป้งข้าวหมากอาจจะมีเนื้อที่แน่นนิดหน่อย เนื่องจากแต่ละสูตรส่วนผสมที่ใช้คุณสมบัติจะต่างกัน แต่หอมกลิ่นชะเอมเครื่องเทศในลูกแป้งข้าวหมาก เนื้อขนมฟูแตกสวยงาม หวานกำลังดี สูตรขนมถ้วยฟู Thai Rice Flour Muffin สำหรับ 40-50 ชิ้น เวลาในการทำ 3 ชั่วโมง 30 นาที (พักแป้งเชื้อ 24 ชั่วโมง) วัตถุดิบขนมถ้วยฟู Thai Rice Flour Muffin ส่วนผสมแป้งเชื้อ 1. แป้งข้าวหมาก 1 ลูก 2. น้ำข้าวหมาก 30 กรัม 3. น้ำเปล่า 50 กรัม 4. แป้งข้าวเจ้าอย่างดีร่อนแล้ว 100 กรัม ส่วนผสมตัวขนม 1. กะทิสด 220 กรัม 2. น้ำตาลทราย 60 กรัม 3. แป้งข้าวเจ้าอย่างดีร่อนแล้ว 120 กรัม 4. แป้งเชื้อ(ที่หมักไว้) 200 กรัม วิธีทำขนมถ้วยฟู Thai Rice Flour Muffin วิธีทำแป้งเชื้อ 1. บดแป้งข้าวหมากให้ละเอียด ถ้ามีเศษเล็กๆน้อยๆปนอยู่ คือเศษพวกเครื่องเทศ 2. ผสมแป้งข้าวหมาก น้ำข้าวหมาก และน้ำเปล่าให้เข้ากัน พักไว้ 3. นำส่วนผสมข้อ 2 เทลงในแป้งคนให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งเชื้อขึ้น

ไก่แช่เหล้า อาหารจีนที่คุ้นลิ้นบนโต๊ะจีน ออเดริฟรสชาติละมุน สัมผัสได้ถึงความเย็นเนื้อไก่อันโอชะ จะไว้ทานเป็นของว่างหรือกับข้าว ก็อิ่มอร่อยไม่น้อยเลยคะ สูตรอาหารไก่แช่เหล้า สำหรับ 2-3 ที่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง วัตถุดิบไก่แช่เหล้า 1.อกไก่ และ สะโพกไก่ 2 ชิ้น 2.เหล้าจีน 2 ช้อนชา 3.ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา 4.น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา 5.พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา 6.น้ำพริกเผาเสฉวน 1 ช้อนชา ส่วนผสมทำน้ำจิ้มเต้าเจียว 1.รากผักชี 2 ช้อนชา 2.เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ 3.ขิงปอก 1 ช้อนโต๊ะ 4.กระทียม 1 หัว 5.พริกชี้ฟ้า 3 เม็ด ส่วนผสมน้ำจิ้มพริกเผาเสฉวน 1.กุ้งป่น 2.หอมแดง 3.กะเทียมซอย 4.เกลือ 5.พริกแห้ง 6.พริกชี้ฟ้า วิธีทำไก่แช่เหล้า 1.นำไก่ไปนึ่งในลังถึง ใช้ไฟแรง 20-30 นาที จนไก่สุก ลองกรีดเนื้อไก่ดูว่าไม่แดง แล้วจึงตักออก 2.นำไก่มาพักให้เย็นตัว ก่อนนำไปแช่ในน้ำเย็นๆสับ เป็นชิ้นพอคำแล้วนำไปแช่เตรียมไว้ในตู้เย็น 10 นาที 3.รินน้ำที่ได้จาก การนึ่งไก่มาเตรียมใส่ภาชนะเตรียมไว้ 4.ตั้งกระทะไฟแรง เทน้ำซุปที่รินเตรียมไว้ลงไป รอจนเดือด 5.ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น และเหล้าจีน ชิมรสออกเค็มนิดหน่อย ตักใส่ถ้วยเตรี

น้ำจิ้มซีฟู้ดพริกแดง Seafood Sauce น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดต้องมีรสชาติเปรี้ยวนำ เค็มตาม และหวานกลมกล่อม สูตรนี้เพิ่มความพิเศษของรสชาติให้อร่อยมากขึ้นด้วยสับปะรด รสหวานอมเปรี้ยว ทำให้น้ำจิ้มสูตรนี้อร่อยไม่ต้องพึ่งผงชูรสเลย ส่วนความเผ็ดนั้นอยู่ที่ระดับกลางๆ สามารถรับประทานกับอาหารทะเลได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา ทั้งเมนูนึ่ง ลวก เผาหรือย่าง ก็อร่อยไม่แพ้กัน สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกแดง Seafood Sauce สำหรับ 10 ที่ เวลา 5 นาที วัตถุดิบน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกแดง Seafood Sauce 1. พริกขี้หนูแดง 75 กรัม 2. สับปะรดหั่นชิ้นเล็ก 300 กรัม 3. กระเทียม 50 กรัม 4. เกลือป่น 20 กรัม 5. น้ำตาลทราย 75 กรัม 6. น้ำปลา 75 กรัม 7. น้ำส้มสายชู 100 กรัม 8. น้ำมะนาว 50 กรัม วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกแดง Seafood Sauce 1. นำส่วนผสมทุกอย่างลงเครื่องปั่น ใช้ความเร็วสูงในการปั่นให้ส่วนผสมละเอียด เมื่อละเอียดดีแล้ว ชิมรสชาติ และจัดรับประทานคู่กับอาหารทะเลตามชอบ ข้อแนะนำ 1. หากต้องการให้สีน้ำจิ้มมีสีแดงมากขึ้น ให้ใส่พริกชี้ฟ้าแดง (เอาเม็ดและไส้ออก) 2. น้ำจิ้มซีฟู้ด สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน ทีมา http://www.foodt

มาม่าผัดเบคอน เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ที่มีเบคอนที่ทอดจนกรอบหอมอบอวลไปทั่ว มาผัดคลุกเค้ากับเส้นมาม่าที่เหนี่ยวนุ่มได้ที่ ที่ให้รสชาติกลมกล่อมเข้ากันได้อย่างลงตัว สามารถตัดความมันเลี่ยนของเบคอนด้วยมะนาว วัตถุดิบ 1. เบคอน 2. เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3. ซอสปรุงรส 4. น้ำตาลทราย 5. ไข่ไก่ 6. ข้าวโพดอ่อน 7. คะน้า 8. แครอทหั่นเต๋า 9. น้ำมันพืช วิธีทำ 1. ผัดไข่ไก่กับเบคอนรวมกันให้สุก ตามด้วยแครอท ข้าวโพดอ่อน คะน้า และใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลวกแล้วลงไปผัดต่อจนสุก 2. ปรุงรสด้วยน้ำตาลเล็กน้อย และซอสปรุงรส ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน 3. ตักเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยผักชีและแครอทหั่นฝอย เป็นอันเสร็จ. ข้อแนะนำ ที่มา  http://www.foodtravel.tv/

ตะโก้ ถือได้ว่าเป็นขนมไทยแท้ๆ ในขนมไทยอีกหลายประเภท จัดเป็นขนมประเภทกวน ที่มาจาก แป้ง น้ำตาล กะทิ เป็นต้น และมีการเสริมส่วนผสมอื่นเข้าไป การทำขนมชนิดนี้ คือการใช้แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งท้าวยายม่อมกวนเข้ากับน้ำตาล ใส่แห้วหรือข้าวโพดเป็นต้น หยอดหน้าด้วยกะทิ สูตรตะโก้สาคูใส่แห้ว ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนผสมตะโก้สาคูใส่แห้ว 1. สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย 2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย 3. แห้วต้มสุกฝานบางๆ 1/2 ถ้วย 4. น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย 5. แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย 6. กะทิสด 1 ถ้วย หมายเหตุ สามารถเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆเสริมได้เช่น แปะก๊วย เม็ดบัว พุทราเชื่อม เป็นต้น วิธีทำตะโก้สาคูใส่แห้ว 1. ล้างเม็ดสาคูผึ่งไว้บนตะแกรง 2. ตั้งกระทะทองใส่น้ำลอยดอกมะลิ ใช้ไฟปานกลาง พอน้ำเริ่มร้อนใส่เม็ดสาดูลงไป พอเม็ดสาคูเริ่มใสหมด ใส่น้ำตาลทราย กวนพอเข้ากันจึงใส่แห้วแล้วปิดไฟยกลง 3. นำส่วนผสมของสาคูตักใส่ภาชนะหรือพิมพ์ทิ้งไว้ให้เย็น วิธีทำกะทิราดหน้าขนม ตั้งหม้อ ใส่กะทิ ใช้ไฟปานกลาง พอเริ่มเดือดอย่าให้แตกมัน ใส่แป้งข้าวเจ้าคนโดยใช้แส้หรือตะกร้อมือ พอเริ่มข้น ปิดไฟ ยกลงเป็นอันเสร็จ นำมาราดหน้าตะโก้สาคู หมายเหตุ สูตรตะโก้สาคูใส่แห้วนี้

สปาเก็ตตี้ไข่และเบคอน หนึ่งในเมนูพาสต้าดั้งเดิม ที่ใช้เพียงไข่และเบคอนเท่านั้น โดยไม่มีส่วนของครีมเลย สปาเก็ตตี้ร้อนๆ ที่หอมไปด้วยกลิ่นเบคอนและไข่รวมทั้งพาเมซานชีสที่ใส่ลงไปผสมในตอนท้าย ทำให้ได้รสชาติแบบอิตาเลี่ยนง่ายๆ ทั้งเร็วและง่ายในการปรุง วัตถุดิบ 1. น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ 2. เบคอน 100 กรัม 3. กระเทียม 1-2 กลีบ 4. สปาเก็ตตี้ 200 กรัม 5. ไข่ 1-2 ฟอง 6. พาเมซานชีส 50 กรัม 7. เกลือ 8. พริกไทยดำ วิธีทำ 1. เทน้ำมันมะกอกลงไปในกะทะ น้ำกระเทียมที่ทุบแล้วใส่ลงไป ใส่เบคอนตามลงไป 2. ผัดจนเบคอนกรอบ แล้วค่อยเอากระเทียมออก อุ่นเอาไว้ด้วยไฟเบา ให้ไขมันยังคงความร้อนอยู่ 3. ระหว่างผัดเบคอน เตรียมต้มเส้นตามเวลาที่ต้องการ 4. เตรียมชามผสม ใส่ไข่ พาเมาซานชีส ปรุงรสเกลือและพริกไทย เตรียมไว้ 5. เมื่อเส้นพาสต้าสุก ใส่ลงไปในชามผสมที่มีส่วนผสมเตรียมไว้รออยู่ ใส่น้ำมันและเบคอนที่ยังร้อนๆ จากกะทะลงไปในชามผสมด้วยเช่นกัน 6. คลุกส่วนผสมและเส้นพาสต้าให้เข้ากัน โดยความร้อนจากเบคอนและน้ำมันจะทำให้ไข่สุก ปรุงรสอีกครั้งด้วยเกลือและพริกไทย จนได้รสตามต้องการ *ส่วนใครชอบรสเข้มข้น ก็สามารถเพิ่มชีสลงไปได้อีก* 7. ตักเสริฟ

โดนัทเค้ก Basic Cake Doughnuts โดนัทเค้กเนื้อเนียนนุ่มที่อัดแน่นไปด้วยรสชาตินมสดและไข่ไก่ในสัดส่วนที่ลงตัว แม้จะนำไปแช่เย็นแล้วอุ่นทานในวันต่อมา ก็ยังคงรสชาติความอร่อย เมื่อทานคู่กับเครื่องดื่มชา กาแฟ หรือนมสดอุ่นๆ ก็เข้ากันได้อย่างลงตัว สูตรโดนัทเค้ก Basic Cake Doughnuts สำหรับ 15 ชิ้น (ขึ้นอยู่กับขนาดพิมพ์) เวลา 30 นาที (พักส่วนผสม 30 นาที) วัตถุดิบโดนัทเค้ก Basic Cake Doughnuts 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 110 กรัม 2. แป้งขนมปัง 40 กรัม 3. ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำตาลทรายไม่ขัดสี 110 กรัม 5. เนยสด(เนยเค็ม) 25 กรัม 6. ไข่ไก่(ขนาดกลาง) 1 ฟอง 7. ไข่แดง 1 ฟอง 8. นมสด 50 กรัม วิธีทำโดนัทเค้ก Basic Cake Doughnuts 1. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งขนมปัง ผงฟู ลงในชามผสมใบที่1 จากนั้นใช้หวีเค้กหรือพายเขี่ยส่วนผสมให้เป็นหลุมตรงกลาง 2. ผสมน้ำตาลทรายไม่ขัดสี ไข่ไก่ นมสดอุ่นและเนยสดที่ละลายแล้ว ลงในชามผสมอีกใบ คนส่วนผสมให้เข้ากัน 3. ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในชามผสมใบที่ 1 4. ใช้พายตะล่อมส่วนผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว 5. ใช้พลาสติกถนอมอาหารมาห่อและนำเข้าตู้เย็นพักไว้ประมาณ 15-30 นาที 6. นำแป้งที่พักไว้แล้ว ใส่ถุ

ปลาทอดขมิ้น เป็นเมนูของคนที่ชอบทานปลาทอดกรอบๆ หอมกลิ่นกระเทียมและขมิ้น ใครที่ชอบทานขมิ้นต้องไม่พลาดเมนูเลยครับ สูตรปลาทอดขมิ้น สำหรับ 1-2 ที่ เวลา 20 นาที วัตถุดิบปลาทอดขมิ้น 1. ปลาทะเล 1 ตัว 2. ขมิ้น 1 แง่ง 3. กระเทียมไทย 1/2 ถ้วยตวง 4. เกลือ 2 ช้อนชา วิธีทำปลาทอดขมิ้น 1. โขลกกระเทียม เกลือ ขมิ้น จนเข้ากันดี นำไปลูบบนตัวปลา แล้วแยกออกมาเจียวในน้ำมันจนกรอบหอม พักสะเด็ดน้ำมันแยกไว้ 2. นำปลาไปทอดในน้ำมันเดิมจนกรอบสุกเหลืองดี นำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน ตักใส่จาน โรยด้วยเครื่องที่ทอดไว้ ทานกันผักต่างๆ ที่มา http://www.foodtravel.tv

บัวลอยน้ำขิง Glutinous Rice Balls in Sweet Ginger Soup บัวลอยน้ำขิงเป็นของหวานเพื่อสุขภาพเพราะเป็นของหวานที่ไม่มีกะทิ รับประทานแบบร้อนช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ได้ประโยชน์จากน้ำขิงที่ช่วยแก้หวัดและท้องอืด และได้แคลเซียมจากงาดำ มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบจากบัวลอย รสชาติอร่อย เป็นเมนูที่ชื่นชอบของผู้ที่รักสุขภาพและผู้สูงอายุ สูตรบัวลอยน้ำขิง Glutinous Rice Balls in Sweet Ginger Soup สำหรับ 6 ที่ เวลา 50 นาที วัตถุดิบบัวลอยน้ำขิง Glutinous Rice Balls in Sweet Ginger Soup ส่วนผสมตัวบัวลอย 1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง 2. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำอุ่น ส่วนผสมไส้งาดำ 1. งาดำคั่วบด 150 กรัม 2. น้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลปี๊บ 200 กรัม 3. น้ำเปล่า เล็กน้อย ส่วนผสมน้ำขิง 1. น้ำเปล่า 1.5 ลิตร 2. ขิงแก่หั่นแว่น 100 กรัม 3. น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม 4. เกลือป่น 1 ช้อนชา วิธีทำบัวลอยน้ำขิง Glutinous Rice Balls in Sweet Ginger Soup 1. ทำไส้งาดำโดยการ คั่วงาดำให้หอมและบดละเอียด นำใส่ในกระทะทอง เติมน้ำตาลลงไป ผัดให้น้ำตาลละลาย เข้ากันดี อาจเติมน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้สามารถปั้นเป็นก้อนได้ พักให้อุ่นพอจนมือจับได้ ปั้นเป

เมนูง่ายๆ ทานเล่นหรือจริงจังก็ได้ ในวันที่ยุ่ง ๆเมนูนี้ก็ช่วยลดเวลาในการทำและเตรียมวัตถุดิบอาหารลงได้ ลูกชิ้นทอดรวมตามที่ใจต้องการ (ทอดมาจากร้านเลยก็ได้) จะแปลกจะหลากหลายแค่ไหนก็สามารถทั้งนั้น จะทอดหรือจะย่าง เอาจริงๆ ถ้าไม่ซีเรียสก็ทำเมนูนี้ได้หมด และซอสเองก็หาได้จากน้ำจิ้มลูกชิ้นแบบไทยๆ ที่แถมมาให้อยู่แล้ว เราก็เอามาปรุงเพิ่มอีกนิดหน่อยก็ใกล้เคียงน้ำสามรสแล้ว ตามด้วยใบโหระพาที่เหลือในตู้เย็น ก็ทำให้ดูสมบูรณ์ขึ้นไปอีก และถั่วลิสงเพื่อเพิ่มรสสัมผัสและความมันอีกนิด สูตรอาหารลูกชิ้นสามรส สำหรับ 1-2 ที่ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที วัตถุดิบลูกชิ้นสามรส 1. ลูกชิ้น ไส้กรอก หรือ ของทอดอื่นๆ รวม สำหรับ 1-2 ท่าน 2. น้ำจิ้มลูกชิ้น 1/2 ถ้วยตวง (หรือน้ำจิ้มไก่) 3. ใบโหระพา 10-15 ใบ 4. น้ำปลา 1 ช้อนชา 5. ถั่วลิสงปั่น 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำลูกชิ้นสามรส 1. ทอดลูกชิ้นทั้งหมด (ถ้ามีส่วนผสมที่เป็นชุปแป้งทอดหรือห่อเกี้ยวทอดผสมด้วยก็จะอร่อยไปอีกแบบเช่นกุ้งทอดเกี้ยวห่อไข่นกกระทาทอด) ตักขึ้นพักเสด็จน้ำมันไว้ 2. ตั้งกระทะผัดน้ำจิ้มไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนน้ำจิ้มเริ่มงวด เติมน้ำปลา เทลูกชิ้นที่ทอดพักไว้ลงไปคลุกให้เข้ากันดี

ไก่ย่างซอสพริก Dynamite Chicken Tender เมนูรสชาติจี๊ดที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ และสมุนไพร เลือกสรรเอาไก่ส่วนที่อุดมไปด้วยโปรตีนสะอาด เรียกได้ว่าอร่อยลิ้นแถมยังได้สุขภาพที่เกือบคลีน แถมยังทำได้ง่ายทานได้ตลอดทั้งวันไม่จำกัดมื้อครับ สูตรไก่ย่างซอสพริก Dynamite Chicken Tender สำหรับ 1 ที่ เวลา 15 นาที วัตถุดิบไก่ย่างซอสพริก Dynamite Chicken Tender 1. สันในไก่ 4 ชิ้น 2. ซอสพริก 1 ถ้วยตวง 3. ผักชี 1 ช่อ 4. พริกขี้หนูสวน 3-4 เม็ด 5. มะนาว 1 ซีก 6. เนย 1 ช้อนชา 7. เกลือ เล็กน้อย 8. พริกไทย เล็กน้อย วิธีทำไก่ย่างซอสพริก Dynamite Chicken Tender 1. ตั้งกระทะให้ร้อนจัด หั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย จากนั้นย่างให้ขึ้นสีด้วยน้ำมันมะกอก แล้วนำไก่ขึ้นพักไว้ 2. บนกระทะใบเดิม ลงซอสพริกมาเคี่ยวทำซอส พร้อมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ตบท้ายด้วยเนย พอละลายเข้ากันดี ราดลงบนไก่เคล้าให้เข้ากัน แล้วจัดลงจาน โรยหน้าด้วยพริกขี้หนูสวน มะนาว และผักชี ที่มา http://www.foodtravel.tv

แกงเนื้อ แกงเนื้อรสจัดจ้านร้อนแรงสไตล์อาหารใต้ มีทั้งเนื้อวัวนุ่มๆ ที่เข้ากันได้ดีกับพริกแกงใต้ บวกกับน้ำกะทิหอมๆ ทำได้ง่ายมากๆค่ะสำหรับเมนูนี้ วัตถุดิบ สำหรับ 3-4 ที่ 1. เนื้อวัวสันใน 300 ก. 2. พริกแกงเผ็ดใต้ 2 ชต. 3. มะเขือพวง 100 ก. 4. ใบมะกรูด 5 ใบ 5. กะทิ 500 มล. 6. น้ำปลา 3 ชต. 7. น้ำตาลปี๊ป 1 ชต. 8. น้ำมันพืช 2 ชต. วิธีทำ 1. หั่นเนื้อวัวให้เป็นชิ้นบางๆเตรียมไว้ก่อน (หั่นเนื้อตามลายขวาง) 2. ผัดน้ำพริกเผ็ดและน้ำมันพืชให้พอหอม เติมกะทิลงไปครึ่งนึง ผัดให้เข้ากัน ตั้งไฟแรงให้กะทิแตกมัน 3. เติมเนื้อวัวลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปิ๊ป น้ำปลา จากนั้นเติมกะทิส่วนที่เหลือลงไป ฉีกใบมะกรูดตามลงไป ตามด้วยมะเขือม่วง รอให้กะทิเดือดอีกครั้งนึง เป็นอันเสร็จ ที่มา http://www.foodtravel.tv

ข้าวต้มแห้ง - ข้าวแห้ง ข้าวแห้งหรือข้าวต้มแห้งเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดจากอำเภอดำเนินสะดวกจังหวัดราชบุรี เป็นการนำข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยเนื้อไก่และเลือดที่เคี่ยวจนได้ที่ วางเคียงด้วยกุ้งทอดกรอบ โรยหน้าด้วยตั้งฉ่าย กระเทียมเจียว และผักชี อาจรับประทานกับน้ำส้มพริกดองเพื่อเสริมรสชาติ สูตรข้าวต้มแห้ง - ข้าวแห้ง สำหรับที่ 2-3 ที่ เวลา 40 นาที วัตถุดิบข้าวต้มแห้ง - ข้าวแห้ง 1. เนื้อไก่(สะโพก) 3 ขีด 2. เลือดไก่ 1 ก้อน 3. กุ้งตัวเล็ก 1 ขีด 4. แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง 5. รากผักชีกระเทียมพริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ 6. ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ 7. ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 9. น้ำซุป 1/2 ถ้วยตวง 10. ตั้งฉ่าย สำหรับตกแต่ง 11. กระเทียมเจียว เล็กน้อย 12. ผักชี สำหรับตกแต่ง 13. น้ำมันพืช สำหรับทอดกุ้ง 14. ข้าวสวย วิธีทำข้าวต้มแห้ง - ข้าวแห้ง 1. หั่นเนื้อไก่และเลือดไก่ เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่รากผักชีกระเทียมพริกไทยผัดพอหอม ใส่เนื้อไก่ ผัดให้เข้ากัน 2. ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วดำ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย ใส่เลือดไก่ ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำซุป หรี่ไฟอ่อน เคี่ยวต่อประมาณ 40 นาที 3. ระหว่างเ

เป็นขนมที่มีวิตามินมากมายจากลูกเดือย ซึ่งทานได้เข้าคู่กันอย่างมากกับเผือกนึ่งสุก รสเค็ม หวานกำลังดี สูตรขนมลูกเดือยเปียกเผือก เวลาในการทำ 30 นาที ส่วนผสมสำหรับ 4-5 ที่ วัตถุดิบลูกเดือยเปียกเผือก 1. เผือกหั่นเต๋านึ่งสุก 150 ก. 2. ลูกเดือย 150 ก. (แช่น้ำ 1 คืน) 3. น้ำตาลทราย 150 ก. 4. น้ำเปล่า 1 ลิตร 5. แป้งมัน 1 ชต. 6. แป้งท้าวยายม่อม 1 ชต. 7. กะทิหยอดหน้าขนม 1 ถ้วย 8. น้ำเปล่า 50 มล. (เอาไว้ละลายกับแป้ง) วิธีทำลูกเดือยเปียกเผือก 1. ต้มน้ำให้เดือด เติมลูกเดือยลงต้มให้สุกนิ่ม ประมาณ 15 นาที 2. เติมน้ำตาลทรายลงไป คนให้น้ำตาลละลายจนหมด 3. นำแป้งทั้งสองชนิดไปละลายกับน้ำเปล่า จากนั้นค่อยๆเทลงในกระทะและเติมเผือกนึ่งสุกลงไปเป็นลำดับสุดท้าย 4. ตักขนมใส่ชาม ราดหน้าด้วยกะทิ เป็นอันเสร็จ ที่มา http://www.foodtravel.tv

ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมูสับ อาหารเส้นที่ทำง่ายๆใครๆก็ทำได้ เส้นใหญ่ที่เหนียวนุ่มราดด้วยน้ำราดหน้าที่มีหมูสับเป็นเครื่องหลักและผักต่างๆที่ใส่ลงไป ปรุงรสชาตินิดหน่อย ก็ได้รสชาติที่อร่อยไม่ต้องไปหาซื้อมาจากไหน ทำทานกันได้ที่บ้าน วัตถุดิบ 1. ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 200 กรัม 2. หมูสับ 50 กรัม 3. พริกหวานสามสี ? ถ้วย (หั่นเต๋า ขนาด 1 นิ้ว) 4. ข้าวโพดอ่อนหั่นเฉียง ? ถ้วย 5. แป้งข้าวโพด 2 ชต. 6. น้ำตาลทราย 1 ชช. 7. น้ำมันหอย 2 ชช. 8. ซีอิ๊วขาว 2 ชช. 9. น้ำปลา 2 ชช. 10. พริกไทยป่น 1/2 ชช. 11. ผงกระหรี่ 1 ชช. 12. น้ำมันพืช 2 ชต. 13. กระเทียมสับ 14. หอมใหญ่ ? ถ้วย (หั่นเต๋า ขนาด 1 นิ้ว) 15. มะเขือเทศ ? ถ้วย (หั่นเต๋า ขนาด 1 นิ้ว) 16. เห็ดฟาง 3 ลูก (ผ่าครึ่ง) 17. เห็ดหอมแช่น้ำ 2 ดอก (หั่นชิ้นบางตามยาว วิธีทำ 1.เทน้ำมันลงในกะทะ นำเส้นใหญ่ลงผัดให้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทองเล็กน้อย พักไว้ก่อน 2.เติมน้ำมันลงในกะทะตามด้วยกระเทียม , เห็ดหอม , หมูสับ , ผัดจนสุก เติมน้ำซุปไก่ลงไป ถ ทัพพี ตั้งไฟให้เดือด 3.ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย , น้ำมันหอย , ซีอิ๊วขาว , น้ำปลา , พริกไทยป่น , ผงกระหรี่ 4.ตามด้วยผักต่างๆ หอมใหญ่, มะเขือเทศ

ต้มยำปลาช่อนทอด Spicy Fried Snake Head Fish Soup ใครที่มีปลาทอดค้างคืนเหลือลองเอามาทำเมนูต้มๆ ดูครับ เพราะถ้าเอาไปทอดหรืออุ่นไมโครเวฟซ้ำก็คงจะแห้งแข็งทานได้ไม่อร่อย เสียของอีก เอามาทำเป็นต้มยำดูจะง่ายและเข้ากันดีนะครับ ที่เหลือจะเปลี่ยนเป็นแกงส้มแปะซะหรืออะไรก็ตามสะดวกเลยครับ สูตรต้มยำปลาช่อนทอด Spicy Fried Snake Head Fish Soup สำหรับ 1-2 ท่าน เวลา 15 นาที วัตถุดิบต้มยำปลาช่อนทอด Spicy Fried Snake Head Fish Soup 1. เนื้อปลาช่อนทอด 1 ถ้วยตวง 2. ข่าบุบ 1 แง่ง 3. ตะไคร้บุบ 1-2 ต้น 4. ใบมะกรูด 4-5 ใบ 5. เห็ดหรือผักอื่นๆ 1/2 ถ้วยตวง 6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมะขาม หรือ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 8. น้ำ 2 ถ้วยตวง 9. พริก ตามใจชอบ วิธีทำต้มยำปลาช่อนทอด Spicy Fried Snake Head Fish Soup 1. ต้มน้ำจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ลงไปต้มจนหอม ตามด้วยเนื้อปลาและเห็ดหรือผักที่ต้องการ รอจนเดือดอีกครั้ง 2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขาม พริกป่น ชิมรสชาติอีกครั้ง ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปคนพอเข้ากัน ตักขึ้นได้เลย (หากจะใช้น้ำมะนาวให้ใส่ตอนปิดไฟแล้ว) ที่มา  http://www.foodtravel.tv/

วัตถุดิบ 1. ขาหมูเผา 2 ชิ้น (สับชิ้นหนา 2 นิ้ว) 2. เห็ดนางฟ้า 3. ตะไคร้ 2 ต้น 4. ข่า 1 หัว 5. รากผักชี 2-3 ต้น 6. ใบมะกรูด 4-5 ใบ 7. พริกขี้หนูสับหยาบ 1 ชต. 8. น้ำปลา 2 ชต. 9. น้ำมะนาว 3 ชต 10. น้ำตาลทราย 1/2 ชต. 11. เกลือ 1 ชช. วิธีทำ 1.นำขาหมูไปตุ๋นกับน้ำเปล่านาน 1 ชั่วโมง (ใช้ไฟอ่อน) 2.ทุบรากผักชี และหั่นข่าเป็นเเว่นๆ รวมถึงหั่นตะไคร้ 3.เมื่อขาหมูนิ่มดีแล้วเติมผักต่างๆลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ , น้ำตาลทราย , น้ำปลา ต้มให้เดือดอีกครั้ง 4.เติมเห็ดนางฟ้าลงไปคนเล็กน้อย ปิดแก็สและค่อยเติมน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ ที่มา http://www.foodtravel.tv/

หลายท่านที่ชอบทานไก่ทอดของร้าน Fast Food ชื่อดัง คงต้องลองทำในเมนูนี้ดูค่ะ รสชาติและหน้าตาใกล้เคียงกันมาก แทบจะดูไม่ออกทีเดียว เราก็สามารถทำทานเองได้ค่ะ สูตรอาหารไก่ทอดกรอบ แบบฟาสต์ฟู้ด (ลุงเคนฯ) เวลาในการทำ 90 นาที ส่วนผสมสำหรับ 3-4 ที่ วัตถุดิบไก่ทอดกรอบ แบบฟาสต์ฟู้ด (ลุงเคนฯ) ส่วนผสมแป้ง 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 ก. 2. พริกปาปิก้า 1 1/2 ชช. 3. พริกไทยป่น 1/2 ชช. 4. ผงซุปไก่ 1 ชช. 5. เกลือป่น 1/2 ชช. ส่วนหมักไก่ 1. สะโพกไก่ น่อง ปีกเต็ม อย่างละ 2 ชิ้น 2. พริกปาปิก้า 1 1/2 ชช. 3. ผงซุปไก่ 1 ชช. 4. พริกไทยป่น 1/2 ชช. 5. เกลือป่น 1/2 ชช. วิธีทำไก่ทอดกรอบ แบบฟาสต์ฟู้ด (ลุงเคนฯ) 1. นำส่วนผสมของไก่และเครื่องหมักไก่ทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ 1 ชม. 2. นำส่วนผสมของแป้งและเครื่องปรุงทั้งหมดคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน 3. ตั้งน้ำมันให้ร้อน ตีไข่ให้แตกและนำไก่ลงชุบแป้ง-ชุบไข่-ชุบแป้ง นำลงทอดให้เหลืองกรอบ (เมื่อนำไก่ลงทอดให้ลดไฟลงเหลือไฟกลาง) ก่อนตักไก่ขึ้นให้เร่งไฟแรงเพื่อไล่น้ำมันในชิ้นไก่ พักไก่ให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟคู่ซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศ เป็นอันเสร็จ พร้อมรับประทาน ข้อแนะนำ ถ้า

เมนูนี้รสชาติใกล้เคียงหมี่กะทิ แต่ปรับให้รสชาติให้ทันสมัย และมีเครื่องหมวดโปรตีนหลากหลาย อุดมสมบูรณ์ ทั้ง หมู ไข่ กุ้ง ปลาหมึก เสนอความรักในรูปแบบที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมสีชมพูแห่งความรัก ทำให้อาหารเส้นจานนี้ ประทับใจไปอีกนาน สูตรอาหารเส้นหมี่สีชมพู (หมี่กะทิสีชมพู) สำหรับ 3-4 ที่ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ส่วนผสมเส้นหมี่สีชมพู (หมี่กะทิสีชมพู) 1. เส้นหมี่แช่สะเด็ดน้ำ 150 กรัม 2. น้ำมันพืช(สำหรับเส้นหมี่) 1/2 ช้อนชา 3. กะทิกล่อง(สำหรับเส้นหมี่) 1/4 ถ้วย 4. เกลือ(สำหรับเส้นหมี่) 1 หยิบมือ 5. ซ้อสเย็นตาโฟ(สำหรับเส้นหมี่) 1 ช้อนโต๊ะ 6. กะทิกล่อง 1/2 ถ้วย 7. หมูบด 50 กรัม 8. กุ้ง 3 ตัว 9. ปลาหมึกกรอบ 4 ชิ้น 10. น้ำตาลบี้ป 1 ช้อนโต๊ะ 11. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา 12. ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนชา 13. กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา 14. หอมแดงซอยละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ 15. รากผักชี 1 รากสับละเอียด 16. พริกขี้หนูสับละเอียด 1 ช้อนชา 17. ไข่นกกระทาต้ม 18. ไข่เจียวซอย 19. ต้นหอมซอย 20. ผักชี 21. มะนาว วิธีทำเส้นหมี่สีชมพู (หมี่กะทิสีชมพู) 1. เตรียมส่วนของเส้นหมี่ โดยนำน้ำมันลงกระทะ ตั้งไฟกลาง ตามด้วยซ้อสเย็นตาโฟ กะทิ เกลือ คนให

อาหารว่างของไทย ที่ไดรับอิทธิพลจากต่างชาติ เพราะตัวแป้งที่นำไปทอดจะคล้ายกับแป้งพายชั้น ปัจจุบันมีการพัฒนาไส้ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นทั้งไส้เค็มและหวาน แต่ที่ไส้ที่นิยมและเป็นที่รู้จักคือไส้ที่เป็นผงกะหรี่ผัดไก่กับมันฝรั่ง สูตรอาหาร กะหรี่พัฟ (ไส้ไก่) ระยะเวลาปรุง 50 นาที ทำตัวเล็ก 20 ตัว ทำตัวใหญ่ 8-10 ตัว เครื่องปรุง แป้งชั้นใน 1. แป้งสาลี (ร่อน) 1 ถ้วย 2. น้ำมัน 4 ช้อนโต๊ะ แป้งชั้นนอก 3. แป้งสาลี (ร่อน) 2 ถ้วย 4. เกลือ 1 ช้อนชา 5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำเย็น 1/2 ถ้วย เครื่องปรุงไส้ 8. เนื้อไก่ (หั่นลูกเต๋าเล็ก) 1 ถ้วย 9. มันเทศ (หั่นลูกเต๋าเล็ก) 1/2 ถ้วย 10. หัวหอมใหญ่ (หั่นสี่เหลี่ยมเล็ก) 1/2 ถ้วย 11. ผงกะหรี่ 2 ช้อนโต๊ะ 12. พริกไทย 1 ช้อนชา 13. เกลือ 1 ช้อนชา 14. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ 15. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. แป้งชั้นใน – กะละมัง + แป้งสาลีร่อนแล้ว + น้ำมัน (หยอดทีละนิด) นวดจนส่วนผสมเข้ากันและปั้นเป็นก้อนได้ โดยปั้นแป้งเป็นเส้นยาวๆ แบ่งครึ่ง แบ่งไปเรื่อยๆ จนได้ก้อนแป้งขนาดเท่ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม คลึงผ้าพักไว้ 30 นาที 2. แป้งชั้นนอก – ผสมน้ำ