resepthilnd

อากาศหนาวๆ ชวนมาทำเมนูซุปร้อนๆ กัน วัตถุดิบและเครื่องปรุง : - ปีกบนและปีกกลางไก่ 500 กรัม - มันฝรั่ง 1 หัวใหญ่ - แครอท 1 หัว - หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว - มะเขือเทศ 1 ผล - ขึ้นฉ่ายหั่น ปริมาณตามชอบ - ซอสมะเขือเทศ 2 ชต. - ซีอิ๊วขาว 1 ชต. - น้ำตาลทราย 1 ชช. - พริกไทยดำเม็ด 1/2 ชช. - เกลือป่น - น้ำเปล่า 4 1/2 ถต. - ซุปไก่ก้อน ( แบบไม่ใส่ผงชูรส ) 2 ก้อน - น้ำมันพืชสำหรับทอดไก่ 2-3 ชต วิธีทำ : - ล้างทำความสะอาดไก่ให้แห้ง ใส่เกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าให้ เข้ากัน...พักไว้ 10 นาที - ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ไฟกลาง พอร้อนใส่ไก่ลงทอดให้ผิว ด้านนอกสุกเหลือง....พักสะเด็ดน้ำมัน - ตั้งหม้อ ใส่น้ำ ใส่พริกไทยดำเม็ด ต้มจนเดือด - ใส่ซุปไก่ก้อน ไก่ทอด มันฝรั่ง แครอท หอมหัวใหญ่ ต้มจนเดือด - ใส่ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วขาว ลดไฟลงอ่อน เคี่ยวต่อจนไก่และ ผักสุกนิ่ม - ชิมรสชาติ ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาลทรายและเกลือป่นตามชอบ - ใส่มะเขือเทศ...พอมะเขือเทศสุก ใส่ขึ้นฉ่าย คนพอทั่ว ปิดไฟ .....พร้อมเสิร์ฟ !... แชร์จากเฟส : Salita Rakviriya / ทำอาหารกินเอง

ส่วนผสมของหมูแดง - หมูสันใน 1 เส้น ( 500 กรัม) - ผักชี 2 ต้น - กระเทียมใหญ่ 7 กลีบ - ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทราย 1 ถ้วย - น้ำปลา 1/2 ถ้วย - พริกไทยป่น 1 ช้อนชา - สีผสมอาหารสีแดง 1 ช้อนชา วิธีทำหมูแดง 1. ทุบรากผักชี ทุบกระเทียมทั้งเปลือก 2. นำหมูสันในมาจิ้ม เพื่อให้ส่วนผสมซึมเข้าไปในเนื้อหมู สาเหตุที่ใช้เนื้อหมูสันใน เวลาย่างจะนุ่ม 3. นำน้ำตาลทราย น้ำปลา พริกไทยป่น ผงพะโล้ ใส่ลงไปในชามผสม ตามด้วยสีผสมอาหารสีแดง 4. คลุกส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่ผักชีและกระเทืยม ใส่หมูสันใน คลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นก็นำฟิล์มถนอมอาหารแรปไว้และนำไปเข้าตู้เย็น ค้างไว้ 1 คืน หากไม่มีเวลาให้แช่ไว้แค่ 2 ชั่วโมงก็ใช้ได้แล้ว .... 200 องศา เข้าเตาอบ 40 นาที หรือ ใช้เตาถ่านย่างก็ได้ ส่วนผสมน้ำราดหมูแดง - น้ำต้มกระดูกหมู - ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทรายแดง 4 ช้อนโต๊ะ - น้ำที่เหลือจากหมักหมูแดง - งาขาวคั่ว 1/2 ถ้วย - แป้งมันละลายน้ำ 1/4 ถ้วย วิธีทำน้ำราดหมูแดง 1. นำงาขาวและถั่วลิสงปั่นในโถปั่นให้ละเอียด 2. ตั้งน้ำซุปให้เดือด เติมน้ำหมักหมูแดงลงไปต้มให้เดือด 10 นาที ตักเครื่องหมักหมูแดงทิ้งไป เติมซีอิ๊วดำ แล

ยำวุ้นเส้นสูตรโบราณ เมนูโปรดประจำบ้าน หอมทั้งกระเทียมเจียว หอมกลิ่นน้ำมะนาว ******************************** วัตถุดิบ 1.วุ้นเส้น แช่น้ำแล้วตัดความยาว 2.หมูบด 3.กุ้งแห้ง 4.ถั่วลิสง 5.กระเทียมไทยโขลก 6.หอมแดงซอยแว่น 7.พริกขี้หนู 8.มะเขือเทศ ผ่าสี่ส่วน 9.ต้นหอม- ผักชีซอย 10.น้ำปลา 11. มะนาว 12. น้ำกระเทียมดอง 13. พริกป่น 14. น้ำตาลทราย 15. น้ำมันหมูเจียว ******************************* วิธีทำ 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันหมูพอร้อนนำกระเทียมลงเจียวจนเหลืองกรอบพักไว้ นำวุ้นเส้นลวกน้ำเดือดจนเส้นเริ่มนิ่ม ราดน้ำเย็นทันที สรงขึ้นให้สะเด็ดน้ำ แล้วคลุกกระเทียมเจียวให้ทั่ว 2. ทอดกุ้งแห้ง และถั่วลิสงทอด ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน นำหมูบดรวนพอสุก ตักหมูบดและน้ำหมูที่ออกมาใส่ถ้วยรอไว้ 3. ปรุงน้ำยำโดยผสมน้ำปลา บีบมะนาวสด น้ำตาลทราย น้ำกระเทียมดอง พริกป่น ใส่พริกซอย หอมแดงซอย มะเขือเทศหั่น ชิมให้รสเข้มข้นไว้เพราะวุ้นเส้นจะดูด น้ำยำทำให้รสอ่อนลงอีก นำมาราดคลุกเคล้ากับวุ้นเส้นที่เตรียมไว้ ใส่หมูสับ กุ้งแห้งทอด โรยถั่วลิสงทอด ต้นหอม/ผักชีซอย เคล้าเบาๆอีกที. ตักใส่จานเสิร์ฟค่ะ สูตรและภาพ เรียบเรียงโดย อัญชนา คำบู่

สำหรับใครที่ชอบทานเป็ดย่างแต่ไม่อยากเสียเงินเยอะหรือคิดว่าวิธีการทำค่อนข้างยุ่งยาก อุปกรณ์ที่ใช้หลายอย่าง ใช้เวลานานในการทำ สิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปค่ะ วันนี้เรามีสูตรในการทำเป็ดย่างรสชาติเหมือนMKแบบง่ายๆใช้เวลาทำไม่นานมาฝากกันนะคะ เครื่องปรุงหมักเป็ด เนื้อหน้าอกเป็ด 2 ชิ้น ขิงหั่นบาง 7-8 ชิ้น รากผักชี 2ต้น ต้นหอมหั่น 2ต้น กระเทียมฝานบาง 5กลีบ ผงซุป 1/2 ช้อนชา เกลือ 1/4 ช้อนชา ผงพะโล้ 1ช้อนโต๊ะ น้ำปล่าว 1/2 ถ้วย เครื่องปรุงขึ้นสีเป็ด สีผสมอาหารสีแดง น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโตะ เครื่องปรุงซอสราดเป็ด ผงซุป 1 ช้อนชา น้ำมันหอย 2 ช้อนชา น้ำตาล 3ช้อนชา เต้าเจี๊ยว 2ช้อนชา น้ำเปล่า 1 ถ้วย วิธีทำ 1. ล้างเป็ดให้สะอาดแล้วพักไว้ 2. เตรียมซอสหมักเป็ดโดยนำหม้อหรือกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย นำเครื่องปรุงทุกอย่างลงไปผัดพอเครื่งปรุงมีกลิ่นหอมแล้วจึงเติมน้ำลงไปคนให้เข้ากันพอน้ำเดือดแล้วปิดแก๊ส 3. นำซอสหมักเป็ดที่ได้ใส่ภาชนะแล้วนำเป็ดที่เตรียมไว้ลงไปหมัดโดยกดเนื้อเป็ดเบาๆเพื่อให้ซอสซึมเข้าเนื้อเป็ด ระวังอย่าให้หนังเป็ดเละน้ำเครื่องเทศเพราะเราจะต้องทาสีบริเวณหนังเป็ด หมักทิ้งไว้ 20 นาที 4. เมื่อครบ 20 นาท

เครื่องปรุงทอดมันหมูเด้ง - เนื้อหมูบดละเอียด 400 กรัม (ละเอียดมากที่สุด ) - แป้งข้าวโพด 2 ช้อนกินข้าว - พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนกินข้าวพูนๆ...เพิ่มลดได้ - ผงฝู 1 ช้อนชา - เกลือ 1/2 ช้อนชา - นํ้ามันพืช 1 ช้อนกินข้าว - นํ้าเย็นประมาณ 4 ช้อนกินข้าว (ถ้าไม่ใส่เนื้อหมูทอดแล้วแข็ง ) - ใบมะกรูด 7-8 ใบ - ใบกระเพรา 7-8 ใบ - นํ้ามันพืชสำหรับทอด วิธีทำทอดมั หมูเด้ง เนื้อหมูแช่เย็นจัดๆนำมาหั่นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอืยดสุดๆเลยนะคะ ถ้าไม่ละเอียดทอดมันก็จะไม่เด้ง ใส่นํ้า ใส่นํ้ามันพืช และเกลือ ปั่นต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเนื้อหมูจะละเอียด ให้ดูความละเอียดของเนื้อหมูที่บดได้ เมื่อละเอียดดีแล้ว ก็ใส่พริกแกงเผ็ด แล้วปั่นให้พริกแกงเข้ากันกับเนื้อหมู ใส่ผงฟู แล้วปั่นต่อ ให้ผงฟูเข้ากันกับเนื้อหมู ปั่นให้ผงฟูเข้ากันกับเนื้อหมูทั่วๆ แล้วก็ใส่แป้งข้าวโพด ปั่นต่อ ให้ส่วนผสมเข้ากันให้ทั่ว ก็หยุดเครื่องได้ แล้วตักออกใส่ชามใบผสม ใส่ใบมะกรูดซอย และใบกระเพราซอย คลุกเคล้าให้ใบมะกรูดและใบกระเพรากระจายทั่วๆเนื้อหมู นำมาทอดไฟกลางๆ ทอดไม่ต้องนาน เพราะเนื้อทอดมันหมูจะสุกง่ายมากๆ คือต้องสังเกตุดูด้วยนะคะ เพราะตอนทอดนี้ก็สำคั

เมนูสุดแซ่บ!! วิธีทำ"ปลาหมึกย่าง-น้ำจิ้มรสเด็ด" อร่อยชวนน้ำลายไหล แบบฉบับทำกินเองง่ายๆที่บ้าน "ปลาหมึกย่าง" เมนูแซ่บๆที่หาทานได้ง่ายๆทั้งตลาดนัดหรือไม่ว่าที่ไหนๆก็มักจะร้านยอดฮิต!! ขายดิบขายดีตล๊อดตลอด เพราะทั้งคุณผู้หญิงและผู้ชายต่างชื่นชอบ วันนี้เรามีสูตรปลาหมึกย่างพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดมาฝากไว้ เผื่อคนที่อยากทำทานเองในครอบครัว หรือว่าปาร์ตี้เล็กๆ บอกเลยว่าประหยัดกว่าซื้อกินเป็นไหนๆ ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรยากมากมาย เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าต้องเตรียมและทำอะไรบ้าง?? ขั้นตอนการเตรียมปลาหมึกก่อนนำไปย่าง 1.ปลาหมึกสดๆ ล้างทำความสะอาด โดยวิธีการล้างไม่ให้ปลาหมึกเค็มโดยจะใช้ความเค็มตัดความเค็ม 2.โดยใช้เกลือต่อ 1 กำมือ ต่อปลาหมึก 1กิโลกรัม ใส่น้ำในอ่างให้ท่วมตัวปลาหมึก ล้างปลาหมึก 2-3ครั้ง บั้งตัวปลาหมึกเป็นแนวขวางตามรูปภาพ 3.และเคล็ดลับที่ทำให้ปลาหมึกกรอบอร่อย ให้นำปูนขาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 ลิตร นำปลาหมึกไปแช่ 10 – 15 นาที แล้วล้างน้ำสะอาด ขั้นตอนในการทำให้ปลาหมึกย่างเหลืองสวยน่ารับประทาน 1.น้ำต้มสุกรอให้เย็น 1 ถ้วย ใส่ซีอิ๋วดำ 1 ช้อนโต๊ะ และเพื่อให้สีปลาหมึกเหลืองสวยน่ากิน ให้ใส่ผ

ขนมจีน เป็นอาหารเส้นที่แปลรูปมาจากข้าวเจ้า ในเมืองไทยนิยมทานกันทุกภาค มีน้ำแกงแตกต่างกันไปตามแต่ละภาคมากมาย รสชาติอร่อยไปกันคนละแบบ ส่วนน้ำยาปูจะนิยมกันทางภาคใต้ โดยเฉพาะภูเก็ต ค่อนข้างหาทานได้ยากกว่าขนมจีนทั่วไป แต่ต่างจากน้ำยาปลา เพียงแค่เราใส่ปูนึ่งสุกยีแทนปลาเท่านั้นเอง สูตรอาหารขนมจีนน้ำยาปู สำหรับ 2-3 ที่ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที วัตถุดิบขนมจีนน้ำยาปู 1. เส้นขนมจีน 3-4 จับ หรือกะประมาณ 2-3 คนกิน 2. เนื้อนึ่งปูแกะยี 1 1/2 ถ้วยตวง 3. กะทิกลางหรือหาง 3 ถ้วยตวง 4. น้ำปลา 3-3 1/2 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำตาลปี๊ป 2 ช้อนโต๊ะ 6. พริกแห้งใหญ่ 5-7 เม็ด 7. ขมิ้นสดสับ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ 8. กะปิ 1 ช้อนชา 9. พริกไทย 1/2 ช้อนชา 10. ข่าแก่สับ 1 ช้อนโต๊ะ 11. ตะไคร้ซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ 12. ผิวมะกรูด 1/2 ช้อนชา 13. กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ 14. ใบมะกรูด 3-4 ใบ วิธีทำขนมจีนน้ำยาปู 1. ตำพริกแกงจากข้อ 6-13 จนละเอียด พักไว้ 2. ตั้งกะทิให้เดือด ใส่พริกแกงที่ตำไว้คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊ป รอเดือดอีกเล็กน้อย ใส่เนื้อปู ชิมรสชาติ ให้เค็มกลมกล่อม เนื้อปูจะช่วยให้ออกหวานอีกนิด ก่อนปิดไฟฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป ตักราดบนเส

หมูสามชั้นทอดน้ำปลา Fried Streaky Pork with Fish Sauce หมูสามชั้นทอดใครๆ ต่างก็ต้องตกหลุมรัก ยิ่งทานกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวร้อนๆ ด้วยแล้วยอมอ้วนกันเลยทีเดียว แต่ในครั้งนี้เราจะไม่ใส่น้ำมันลงไปทอดแต่จะใช้วิธีการรีดน้ำมันจากส่วนของมันหมูออกมาเอง จึงทำให้ได้หมูสามชั้นที่กรอบ อร่อยนั่นเอง สูตรหมูสามชั้นทอดน้ำปลา Fried Streaky Pork with Fish Sauce สำหรับ 2-4 ที่ เวลา 15-20 นาที วัตถุดิบหมูสามชั้นทอดน้ำปลา Fried Streaky Pork with Fish Sauce 1. หมูสามชั้น 2 เส้น 2. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำหมูสามชั้นทอดน้ำปลา Fried Streaky Pork with Fish Sauce 1. ตั้งกระทะเทปลอนให้ร้อน โดยไม่ต้องใส่น้ำมัน (หากกระทะธรรมดาให้ใส่น้ำมันเล็กน้อยเพื่อหมูจะได้ไม่ติดกระทะ) 2. ใส่หมูสามชั้นลงไปแล้วเปิดไฟแรงเพื่อรีดน้ำมันจากหมู จากนั้นค่อยเบาไฟลงเรื่อยๆจนถึงไฟกลาง ทอดไปเรื่อยๆราว 20 นาที จึงเทน้ำมันที่ออกมาจากหมูออกไป 3. เมื่อเอาน้ำมันออกแล้วให้ใส่น้ำปลาลงไปคั่วกับเนื้อหมูเป็นอันเสร็จจะนำไปทำกับข้าวต่อหรือทานเป็นกับข้าวเลยก็ได้ ที่มาสูตร : Foodtravel.tv

(ขนมไทยโบราณ) Thai Traditional Dessert จัดเป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่ง แต่เดิมขนมครกของชาวบ้าน คือหน้ากะทิธรรมดา แต่เมื่อก้าวเข้าสูวังหลวง จึงเกิดขนมครกชาววังขึ้น คือมีหน้าที่แตกต่างไปจากเดิม โรยด้วยผักหั่นชิ้นเล็กๆ เป็นหน้าหวาน และหน้าคาวคือ การโรยด้วยหน้ากุ้ง แบบเดียวกันกับหน้าข้าวเหนียวมูน ขนมครกที่ดี ด้านนอกแป้งต้องกรอบ ร่อนออกจากพิมพ์ เนื้อในชุ่มฉ่ำด้วยกะทิกำลังดี วัตถุดิบ ได้จำนวนขนมครก ขึ้นอยู่กับขนาดของพิมพ์ที่ใช้ เวลา 60 นาที 1. แป้งข้าวเจ้า 2 1/2 ถ้วย 2. ข้าวสุกหอมมะลิ 1/2 ถ้วย 3. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย 4. เกลือ 2 ช้อนชา 5. น้ำปูนใส 1/2 ถ้วย 6. หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วย 7. หางกะทิ 1 1/2 ถ้วย 8. เนื้อมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วย ส่วนผสมหน้าขนมครก (ขนมไทยโบราณ) 1. หัวกะทิ 1 ถ้วย 2. หางกะทิ 1/2 ถ้วย 3. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย 4. เกลือ 2 ช้อนชา 5. ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วยตวง 60 นาที วิธีทำ 1. ส่วนผสมส่วนที่ 1 ปั่นรวมกันทุกอย่างรวมกัน พักไว้ 20 นาที 2. ส่วนผสม ส่วนที่ 2 รวมกันแล้วคนให้ละลาย 3. นำเตาขนมครก ตั้งไฟ ควรใช้ความร้อนพอปานกลาง กระทะร้อนได้ที่แล้ว จากนั้นควรใช้ลูกประคบชุบน้ำมันพืชให้ทั่วทุกเบ้า จากนั้นต

ส่วนผสมกุ้งพันอ้อยย่างไฟ - กุ้งสดแกะเปลือก 1 กิโลกรัม - มันหมู 100 กรัม - ไข่ขาว 1 ฟอง - งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ - หอมใหญ่ 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ - พริกไทยป่น 1 ช้อนชา - ต้นหอม ¼ ถ้วย - กระเทียม ¼ ถ้วย - น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ - อ้อยหั่นท่อนยาว 5 ซม. 50 กรัม - น้ำมันพืช ¼ ถ้วย - เกลือป่นเล็กน้อย วิธีทำกุ้งพันอ้อยย่างไฟ 1. สับเนื้อกุ้ง มันหมู หอมใหญ่ ต้นหอม และกระเทียมเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด นวดให้เข้ากันจนส่วนผสมเข้ากันให้เหนียวพอปั้นได้ 2. ปั้นให้เป็นก้อนกลมขนาดประมาณ 1 นิ้ว แล้วนำไปหุ้มตรงปลายท่อนอ้อย นำไปนึ่งประมาณ 3 นาที จากนั้นนำมาย่างไฟต่อจนกระทั่งเป็นสีเหลืองทอง 3. จัดเสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ลวก Cr. สูตรอาหารและภาพอาหาร http://www.gourmetandcuisine.com

ส่วนผสมยำถั่วพูน้ำพริกเผากับไข่ต้ม (สำหรับ 2-3 คนรับประทาน) - ถั่วพู 8-12 ฝักหรือประมาณ 1 กำมือ - กุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งชีแฮ 5 ตัว - ปลาหมึกกล้วย 3 ตัว - หมูสับลวกสุก 50 กรัม - พริกเผา 2 ช้อนชา - พริกขี้หนูสวน 7-10 เม็ด - กระเทียมไทยแกะเปลือก 4 กลีบ - น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ - ไข่ไก่ต้มสุกฝานเป็นแว่น 1 ฟอง - พริกแห้งทอด 3 เม็ด - หอมแดงเจียว 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำเปล่าสำหรับลวกกุ้ง ปลาหมึก ถั่วพู 2 ถ้วยตวง - ผักกาดหอมหรือผักกาดแก้วสำหรับรองจาน วิธีทำยำถั่วพูน้ำพริกเผากับไข่ต้ม 1. ล้างกุ้งให้สะอาดแกะเปลือกออกเด็ดหัวไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ใส่ถ้วยพักไว้ 2. ล้างปลาหมึกให้สะอาดผ่าตามแนวยาวแล้วแผ่ออกบั้งเป็นตาราง แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ ใส่ถ้วยพักไว้ 3. ล้างถั่วพลูให้สะอาดตัดหัวตัดท้ายทิ้งแล้วหั่นเฉลียง หนาประมาณ ½ ซม. ใส่ถ้วยพักไว้ 4. ตั้งหม้อใส่น้ำลงไป 2 ถ้วยตวงด้วยไฟแรงปานกลางพอร้อน ใส่กุ้งลงไปลวกพอสุกตักขึ้นใส่จานพักไว้ จากนั้นนำปลาหมึกลงไปลวกพอสุกตักใส่จานเดียวกับกุ้งพักไว้ จากนั้นใส่ถั่วพูลงไปลวกพอสุกอย่านานมาก ระหว่างที่รอถั่วพูสุกให้เตรียมน้ำเย็นจัดใส่ชาม

สูตรการหมักปีกไก่ย่างขายไม้ละ 5,บาท10 บาท ทำเงินหลักแสนเคยโพสไปรอบหนึ่งหลายคนบอกว่าทำไมไม่ใส่นมสด นั่นเพิ่ม นี่เพิ่ม บอกเลยว่านี่มันสูตรปีกไก่ ไก่ย่างน่ะถ้าใส่เครื่องเทศเยอะเกิน มันไม่ได้ช่วยให้อร่อยขึ้นนะ มันจะเลี่ยนไปค่ะ เหม็นด้วยสูตรนี้เป็นสูตรมาตรฐานอร่อยจริง ส่วนผสมของไก่ย่าง – ปีกไก่สด 3 กิโลกรัม – กระเทียม 20 กลีบ – รากผักชีหั่น 2 ช้อนโต๊ะ – พริกไทย 10 เม็ด – เกลือป่น 2 ช้อนชา – ซีอิ๊วหวาน 1 ช้อนโต๊ะ – น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ – น้ำตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ -ผงขมิ้น (เล็กน้อย เพิ่มสีสัน) ** ส่วนผสมทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลง บริมาณได้ตามชอบ แต่ขอให้หวานนำ วิธีทำ นำไก่สดเป็นชิ้นๆ ได้แก่ น่อง ขา ปีก สะโพก ตับ กึ๋น มาคลุกเคล้ากับพริกไทย กระเทียม รากผักชี ที่โขลกละเอียดแล้ว ใส่เกลือป่น ซีอิ้วหวาน น้ำตาลปิ๊บ และน้ำตาลทราย ผงขมิ้น คลุกให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาเสียบไม้ ปีก น่อง ขาสะโพก เสียบชิ้นละไม้ สำหรับตับและกึ๋นเสียบไม้ละ 3-4 ชิ้น จากนั้นนำมาย่างเตาถ่านไฟปานกลาง ถ้าไฟแรงเกิน โรยด้วยขี้เถ้า ย่างให้สุกเกรียมทั้ง 2 ด้าน แต่อย่าให้ไหม้ ขอบคุณที่มาสูตรจาก http://www.kingsmes.c

“ชูโรส”ลักษณะคล้ายปาท่องโก๋ แต่มีความเป็นฝรั่ง ชิ้นยาวๆ ทานคู่กับซินเนม่อน หรือช็อกโกแลต จริงๆแล้วขนมที่มีมาไม่แน่ชัด ระหว่างโปรตุเกสหรือสเปน แต่สรุปได้เหมือนกันคือเป็นขนมทานเล่นที่ทำได้ง่ายและอร่อยมากค่ะ ส่วนผสมหลักชูโรส Churros (ปาท่องโก๋สเปน) เนยเค็ม 100 กรัม น้ำ 100 กรัม นมจืด 50 กรัม แป้งอเนกประสงค์ 150 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง ไอซิ่ง 100 กรัม ผงซินนาม่อน ตามชอบ น้ำมัน อุปกรณ์สำหรับทำชูโรส Churros (ปาท่องโก๋สเปน) ถุงบีบ หัวบีบรูปแฉก กระทะ ที่คีบ ชามผสม หม้อ พายไม้ วิธีทำชูโรส Churros (ปาท่องโก๋สเปน) นำเนยเค็ม น้ำ และนมจืดตั้งไฟกลาง คนไปเรื่อยๆจนละลายเข้ากัน (ไม่ต้องตั้งไฟจนเดือดนะคะ แค่ละลายก็พอค่ะ) นำขึ้นจากเตา ใส่แป้งอเนกประสงค์จนหมด คนจนส่วนผสมเข้ากันดี นำขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง ใช้ไฟอ่อน คนเร็วไปเรื่อยๆจนแป้งสุกได้ที่ (แป้งจะจับตัวรวมกันเป็นก้อนเดียว และไม่ติดหม้อ) นำขึ้นจากเตา ย้ายจากหม้อใส่ชามผสม พักให้เย็นนิดหน่อย ตีไข่ไก่และค่อยๆใส่ไข่ลงไปผสมกับแป้งทีละน้อย จนเหนียวได้ที่ (ไม่เหลวไปและไม่แข็งไป) ตักใส่ถุงบีบ ใช้หัวบีบดาวรูปแฉก ตั้งกระทะด้วย “ไฟอ่อน” เมื่อน้ำมันเริ่มร้อน บีบชูโรสลงในกร

เครื่องปรุงและส่วนผสม ------------------------- หมูได้ทุกส่วน หากชอบมันหน่อยอร่อยไม่เหนียวแข็งจนเกินไปกินง่าย เน้นส่วนคอ และราวนม  ๑ กิโลกรัม พริกไทยเม็ด  ๑  ช้อนชา ลูกผักชี   ๑  ช้อนโต๊ะ กระเทียมไทย ๑ หัว น้ำปลา  ๑  ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส   ๑  ช้อนชา ผงชูรสตามชอบ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) รากผักชี ๓-๔ ราก แป้งชุบทอดยี่ห้อใดก็ได้ หากไม่มีใช้แป้งเอนกประสงค์  ๑  ช้อนแกง วิธีทำ ๑.หั่นหมูชิ้นพอดีไม่บางและหนามากจนเกินไป ขนาดพอดีคำก็ได้ ใส่ในกะละมังไว้ ตามด้วยผงปรุงรส ชูรส น้ำปลา ๒.โขลกรากผักชี ลูกผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด หากลูกผักชีกับพริกไทย สามารถเข้าเครื่องปั่นบด ให้ละเอียดได้ยิ่งดี ๓.นำเครื่องเทศที่เราโขลกมาผสมกับหมูใสกะละมัง พอดีว่าอาจโขลกไม่ละเอียดเท่าไหร่ ๔.ล้างมือให้สะอาด ขยำให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ ๑ ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นหรือข้ามคืนก็ได้ โดยแช่ไว้ในตู้เย็น ก่อนนำมาทอด ให้โรยด้วยแป้งชุบทอด หรือแป้งเอนกประสงค์ ขยำให้เข้ากัน แล้วลงทอด ๕.ตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมันประมาณ ๑ ลิตร รอให้น้ำมันร้อน ใส่หมูที่หมัก ๑ กิโลกรัมลงไป คนให้หมูไม่เกาะกันเป็นก้อน ๖.หมั่นคนเรื่อยๆอย่าให้ติดก้นกระทะ ผ่านไปป

สิ่งที่ต้องเตรียมและวิธีทำ 1. น้ำใบเตยเกือบๆ 1 ถ้วยตวง (นำใบเตยไปปั่นกับน้ำเปล่านิดหน่อยพอละเอียดแล้วเทใบเตยใส่ถ้วย ใส่น้ำเปล่าเพิ่มลงไป ใช้มือหรือช้อนกินข้าวกดๆให้น้ำใบเตยออกมาแล้วกรองก็จะได้น้ำใบเตยหอมๆค่ะ) 2. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง + อีกเศษ 1 ส่วน 3 ถ้วยตวง... 3. นำน้ำใบเตยเทใส่แป้งและนวดให้ส่วนผสมเข้ากัน 4. นำน้ำเปล่าใส่หม้อยกตั้งไฟใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนรอให้น้ำร้อนเดือดนิดๆไม่ต้องเดือดมาก 5. ปั้นแป้งที่เตรียมไว้เป็นลูกกลมๆเล็กๆใส่ลงไปในหม้อน้ำ ถ้าบัวลอยสุกจะลอยขึ้นมารอสักพักแล้วตักบัวลอยแช่น้ำเปล่าหรือน้ำเย็นทันที 6. นำน้ำกะทิ 350 มิลิลิตร เทใส่หม้อให้เหลือหัวกะทิไว้นิดหน่อย ใส่น้ำตาลปี๊บ200 กรัม ถ้าใครชอบหวานมากเพิ่มน้ำตาลได้ค่ะ ใส่เกลือป่นลงไปนิดหน่อย 7. พอน้ำตาลละลายและหม้อเดือดนิดๆก็นำบัวลอยที่แช่น้ำเปล่าไว้ลงไป รอให้หม้อเดือดนิดๆอีกที ถ้าต้องการใส่ไข่ด้วยก็ให้ใส่ลงไป ราดหน้าขมด้วยน้ำกะทิที่แบ่งไว้และชิมรสตามต้องการ เสิร์ฟ ข้อความระวัง 1.ในขณะที่ทำน้ำกะทิพยายามอย่าให้น้ำกะทิเดือดพลั้นเพราะจะทำให้กะทินั้นแตกมันขนมบัวลอยจะไม่สวย ให้ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนแค่น้ำกะทิร้อนและเดือดนิด

มาแร้วค้าฟ!ตามคำขอ สูตรทอดไก่ให้กรอบแบบ KFC ที่ผู้พันไม่เคยบอกให้คุณรู้ โดยสูตรไก่ทอดแบบ KFC นี้ ได้รับการแนะนำโดยเว็บไซต์ chingcancook ได้มาแนะนำขั้นตอนการทอดไก่ให้กรอบแบบ KFC จะมีขั้นตอนในการทำอย่างไรบ้าง ไปชมกันได้เลยค่ะ (ในสูตรไม่ได้บอกปริมาณอัตราส่วนของเครื่องปรุงนะค่ะ เรากะปริมาณด้วยตัวเราเองเลยค่ะ) วัตถุดิบในการทำไก่ทอดแบบ KFC 1. น่องไก่หรือสะโพกไก่ 2. รสดี พริกไทยป่น ผงกระเทียมสำเร็จรูป 3. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 4. แป้งข้าวโพด 5. ผงมันบดสำเร็จรูป ผงปาปริก้า ขั้นตอนการทำไก่ทอดแบบ KFC 1. นำไก่ที่เตรียมไว้ล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาหมักด้วยผงรสดี พริกไทยป่น ผงกระเทียมสำเร็จรูป หมักทิ้งไว้ซัก 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ จากนั้นนำแป้งสาลีอเนกประสงค์มาเทลงในชามผสมอีกใบ ตามด้วยแป้งข้าวโพด ผงรสดี ผงมันบดสำเร็จรูป พริกไทยป่น เกลือ ผงกระเทียมสำเร็จรูป และผงปาปริกา แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน 2. ตอกไข่ใส่ชามอีกใบ เติมนมสดลงไปเล็กน้อยแล้วตีให้เข้ากัน 3. นำไก่ที่หมักแล้ว มาคลุกกับแป้งที่เราผสมเตรียมไว้ จากนั้นก็นำไปชุบกับไข่ที่เตรียมไว้ข้างต้น แล้วลงทอดในกระทะโดยใช้ไฟกลางๆ ไม่ต้องแรงมาก 4. เมื่อไก่สุกจนเหลือ

“ ข้าวซอย “ เชียงรายถือเป็นอาหารจากตำนานแห่งวิถีความเป็นอยู่ของคนจีนมุสลิมที่เดินทางเข้ามาค้าขายและอพยพเข้ามาในภาคเหนือของประเทศไทยโดยเริ่มจากจังหวัดชายแดนใกล้ประเทศจีนก็คือ เชียงราย “ ข้าวซอย “ ทำมาจากแป้งเป็นแผ่นก่อนแล้วก็เอามาซอยเป็นเส้นๆ เลยเรียกว่าเส้นซอยหรือ “ ข้าวซอย “ นั่นเอง การทำน้ำ “ ข้าวซอย “ สูตรดั้งเดิมโบราณของชาวจีนมุสลิมไม่ได้ใส่กะทิบางคนเรียกว่า “ ข้าวซอยน้ำใส “ แต่เมื่อคนไทยนำมาทำได้มีการประยุกต์โดยใส่กะทิไปด้วยเพื่อให้รสชาติเข้มข้นเป็นที่ถูกปากจนเป็นที่ติดอกติดใจและถ่ายทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย นอกจากคนไทยแล้วชาวต่างชาติก็ชื่นชอบ " ข้าวซอย " เพราะทานได้ง่าย รสชาติไม่เผ็ดมากนัก แต่สำหรับคนไทยเราแล้วยังสามารถเติมพริกคั่ว ทมะนาวานกับหอมแดงและผักกาดดอง เพิ่มรสชาติที่เข้มข้นและรสชาติจัดจ้านมากขึ้น เครื่องปรุง เนื้อไก่ 400 กรัม เส้นบะหมี่ 1 ห่อ ผักกาดดอง 1 ห่อ น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ขิง ¼ ถ้วย หัวหอมแดง ¼ ถ้วย ผักชี 1 ต้น กะทิ 1 กระป๋อง น้ำเปล่า 3 ถ้วย น้ำมันสำหรับทอด ½ ถ้วย น้ำมันสำหรั

เมนูนี้เครื่องปรุงไทยๆไม่ยุ่งยากคะ รสครบจัดจ้านเหมาะเป็นกับแกล้มงานสังสรรค์ปีใหม่นี้คะ 🍴🍽เตรียมของคะ 🍢ใช้หมูสันนอกหั่นเป็นชิ้น(หมูสันนอกจะชิ้นสวยกว่าส่วนอื่นเมื่อลวกแล้ว) 🍡นำหมูหมัก รากผักชี กระเทียม แป้งมัน เกลือเล็กน้อย เกลือ1/2ช้อนชา. น้ำตาลปี๊ป2ช้อนชา(ต่อหมู1โลคะ) ททิ้งไว้3ชั่วโมงหรือ1คืนก็ได้คะ. 🍳นำหมูลวกให้สุกพักไว้คะ 😁ทำน้ำจิ้มสามรสไว้คลุกทึ่หมูและนำบางส่วนราดที่หมูแต่งหน้าด้วยมะนาวฝานเป็นแว่นคะ 🙆🙆วิธีทำน้ำจิ้มสามรส 1.ใช้กระเทียมไทยกลีบเล็ก พริกขี้หนูสวน รากผักชี มะนาว น้ำปลา น้ำตาล 2.โขลกรากผักชี และกระเทียมให้แหลก ตามด้วยพริกขี้หนู น้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลายใส่มะนาว น้ำปลา.( อาจเติมน้ำต้มสุกเล็กน้อยถ้าน้ำน้อยไปคะ):ชิมรสให้จัดคะ เพราะเวลาคลุกกับหมูรสจะได้ไม่จืดคะ 🍴แค่นี้ได้หมูมะนาวสูตรง่ายๆแซ่บๆคะ By Chompoo Suwanarangsri ขอบคุณที่มา : Chompoo Suwanarangsri‎‎‎‎ ทาง facebook.

ส่วนผสมไม่ยุ่งยาก แค่เบสิก 4 อย่าง แป้ง กะทิ น้ำตาล เกลือ แป้งข้าวจ้าว 150 กรัม แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม แป้งมัน 50 กรัม น้ำเปล่า 150 กรัม หัวกะทิ 350 กรัม เกลือ 1/2 ชช ใบเตย 2 ใบ หัวกะทิ 350 กรัม น้ำตาลปี๊บอย่างดี 100 กรัม วิธีทำ.... นำแป้ง 3 ชนิด รวมกัน ทะยอยใส่น้ำแล้วนวด อย่าใส่น้ำทีเดียวนะคะ น้ำนี้บุ๋มกะมาไม่ได้เป็นปริมาณที่แน่นอน นวดพอร่อนจากขอบ พอปั้นได้พักไว้ ตั้งน้ำให้เดือด นำแป้งโรยบนถาด ปั้นแป้งเป็นแบบแบน หรือ กลมแบบบัวลอย หรือ ยาวๆปลายแหลม ใส่ลงถาด แล้วเขย่าถาดกันแป้งติดกัน ส่วนตัวชอบตัวใหญ่หน่อยเพราะพอไปต้มกับกะทิจะได้ไม่เละหรือนิ่มเกินไป นำแป้งที่ปั้นแล้วลงต้มในน้ำเดือด ลอยตัวแล้วตักใส่น้ำเย็น ตั้งกะทิเป็น 2 หม้อ หม้อแรก ใส่กะทิลงไป ใส่เกลือ ใส่ใบเตย (ชิมด้วยนะคะชอบเค็มขนาดนี้หรือเปล่า ) อีกหม้อ ใส่กะทิ และใส่น้ำตาลปี๊บ พอเดือด ใส่ตัวแป้งที่สุกแล้ว อย่างละครึ่งๆ ลงไป เคี่ยวจนเดือดสุกแป้งนิ่มขึ้น และกะทิเริ่มเหนียว ใส่ชามแบ่งข้างฝั่งละสี จบแล้วคะ ชะเอิ่งเอิงเอย ที่มาสูตรและภาพ : เพจ Love to eat & cook by Kulthida Chase 

ใกล้ตรุษจีนแว้วคร้าฟ/เผื่อมีใครสนใจทำขาย.. ‪#‎ขนมเข่งมะพร้าวอ่อน‬ ไม่ต้องรอให้ถึงตรุษจีนก็ทำขนมเข่งมะพร้าวอ่อนหม่ำเองได้เหมือนกัน ขนมเข่งสีขาวมีเนื้อมะพร้าวขูด รสชาติหวานหอม กินตอนอุ่น ๆ หรือเอาไปทอดกินก็อร่อย.. ส่วนผสม ขนมเข่งมะพร้าวอ่อน แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม น้ำ 1 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม มะพร้าวขูด 300 กรัม เนื้อมะพร้าวอ่อน 1-2 ลูก กระทงใบตอง (สำหรับใส่ขนม) น้ำมันพืช (สำหรับทากระทง) วิธีทำขนมเข่งมะพร้าวอ่อน 1. ทากระทงด้วยน้ำมันพืชให้ทั่ว เตรียมไว้ 2. นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำจนแป้งนุ่ม จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงนวดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว 3. ใส่มะพร้าวขูดและมะพร้าวอ่อนลงไป คนผสมให้เข้ากัน ตักใส่กระทง ประมาณ 3/4 ของกระทง 4. วางขนมเรียงลงในชุดนึ่ง จากนั้นนำไปนึ่งด้วยไฟแรงที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 1/2 ชั่วโมง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ใช้กรรไกรตัดเจียนกระทงที่เกินออกให้พอดีกับขนม พร้อมเสิร์ฟ ที่มาสูตรและภาพ : กระปุกคุกกิ้ง

เห็นสูตรจากในหนังสือ คล้ายๆ หมูหวานแต่ก็ไม่ใช่ รสชาติเป็นอย่างไรต้องลองทำกันดูค่ะ ^-^ "หมูคั่วซีอิ๊ว" เนื้อหมูสามชั้นหั่นชิ้น(ขนาด 1x1 ซม.) 1 กิโลกรัม กระเทียมแกะเปลือก 2 ชต. พริกไทยขาวเม็ด 1/2 ชต. ซอสปรุงรส 2 ชต. ซีอิ๊วขาว 2 ชต. เกลือ 1 ชช. น้ำตาลปี๊ป 3 ชต. ซีอิ๊วดำหวาน 2 ชต. น้ำเปล่า 2 ถต. น้ำมันพืช 2 ชต. *************************************** 1.โขลกกระเทียมและพริกไทยให้ละเอียด จากนั้นหมักกับเนื้อหมู ใส่ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส(1 ชต.) เกลือ เคล้าให้เข้ากันดี พักไว้ 30 นาที 2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันร้อนใส่เนื้อหมูที่หมักไว้ลงไป ผัดให้เข้ากันและเนื้อหมูสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำหวาน น้ำตาลปี๊ปและซอสปรุงรสที่เหลือ ผัดให้เข้ากัน 3.เติมน้ำเปล่าลงไป เคี่ยวไฟกลางค่อนอ่อนไปเรื่อยๆ จนเนื้อหมูสุกนิ่มและมีน้ำขลุกขลิก (หมั่นคนเป็นระยะ ๆ) ชิมรสให้ออกเค็มหวาน ปิดไฟ เสิร์ฟค่ะ ขอบคุณที่มา : Salita Rakviriya ทาง facebook.

อีกหนึ่งเมนูขนมไทยชื่อดัง ที่หลายคนรู้จักดี แต่เด็กรุ่นใหม่บางคนอาจจะไม่รู้จักขนมชนิดนี้แล้ว ขนมขี้หนูมีชื่อเรียกหลายชื่อ บางคนเรียก ขนมละอองฟ้า หรือ ขนมทราย จัดได้ว่าเป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่ขั้นตอนการทำไม่ได้ยุ่งยากมาก และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของตัวขนม ความหอม ฟูนุ่มของเนื้อแป้ง จึงเป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่ง ที่คนชอบขนมไทยน่าลองทำดูครับ สูตรขนมขี้หนู (ขนมทราย ขนมละอองฟ้า) ระยะเวลา 1 ชม 30 นาที เครื่องปรุงขนมขี้หนู 1. แป้งข้าวเจ้า 4 ถ้วย 2. น้ำลอยดอกมะลิ 6 1/2  ถ้วย 3. น้ำตาลทรายขาว 5 ถ้วย 4. มะพร้าวทึนทึก (ขูดฝอยโรยด้วยเกลือนึ่งสัก 3-5 นาที) 1 ซีก 5. เกลือป่น วิธีทำขนมขี้หนู 1. หม้อใส่น้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ ตั้งไฟพอให้เดือด และน้ำตาลละลาย ยกลงไว้ให้เย็น นำไปหยอดใส่แป้งทีละน้อย จนแป้งอิ่มน้ำ ดูแป้งจะชื้นๆ 2. นำแป้งที่อิ่มน้ำ ใส่ที่ร่อนแป้งแบบละเอียด ใช้ปลายนิ้วช่วยรวนตัวแป้งให้ผ่านตกลงไป ใส่รังถึงที่ปูด้วยผ้าขาวบางไว้ นำไปนึ่งที่ในลังถึงที่ตั้งไฟแรงให้น้ำเดือด 40 – 45 นาที (คอยดูอย่าให้น้ำในลังถึงแห้ง) 3. ใช้ทัพพีตักแป้งที่นึ่งสุกใส่ถาด ตักน้ำเชื่อมใส่ (ถ้าจะผสมสีให้หยดสีใส่ในน้ำเชื่อมไ

ไก่ย่างบางตาล  Bang Tarn Grilled Chicken รถไฟดูจะเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุดในยุคหนึ่ง ตามท่ารถไฟมักจะมีผู้คนพลุกพล่าน มีการหาบเล่ขายของกันให้วุ่น ถ้าให้คุ้นหูหน่อยก็มักจะเป็นคนขาย “ลูกอม ยาดม ยาลม ยาหม่อง” แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือของกิน เพราะรถไฟต้องใช้เวลาในการเดินทางนาน หนึ่งในเมนูที่นิยมขายกันก็ไม่พ้นไก่ย่าง โดยในสมัยนั้น สถานีรถไฟคลองบางตาล เป็นจุดพักก่อนลงไปสายใต้ หลายคนจึงได้ฝากท้องกับไก่ย่างของที่นี้มาช้านาน สูตรไก่ย่างบางตาล Bang Tarn Grilled Chicken สำหรับ 2-3 ท่าน เวลา : 1 ชั่วโมง 10 นาที หมักอย่างน้อย 30 นาที วัตถุดิบไก่ย่างบางตาล Bang Tarn Grilled Chicken 1. ไก่เนื้อ 1/2 ตัว 2. ผงขมิ้น 1/2 ช้อนโต๊ะ 3. กระเทียมไทยไทยตำ 1/2 ถ้วย 4. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำ 1/4 ถ้วย( ไม่ใส่ก็ได้ ) 8. น้ำมันหอมเจียว วิธีทำไก่ย่างบางตาล Bang Tarn Grilled Chicken 1. นำไก่เนื้อมาตัดแต่งและล้างให้สะอาดพร้อมที่จะย่าง นำไปหมักกับส่วนผสมทั้งหมดคือ ข้อ 2-8 หมักทิ้งไว้ อย่างน้อย 30-1 ชม 2. นำไปย่างด้วยไฟอ่อนๆ ย่างด้านละ 30 นาที จะสุกทั้ง2ด้านพอดี 3. ส่วนน้

ข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่น Grilled Pork Rice Bowl ข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่นเป็นการนำหมูติดมันมาหมักกับซอสสไตล์ญี่ปุ่นแล้วนำมาย่าง ทานกับข้าวร้อนๆ อร่อยจนลืมไม่ลงแน่นอนค่ะ สูตรข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่น Grilled Pork Rice Bowl สำหรับ 1 ที่ เวลา 45 นาที วัตถุดิบข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่น Grilled Pork Rice Bowl 1. ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก 1 ถ้วย 2. หมูสันใน 200 กรัม 3. กระเทียมสับ 2 ช้อนชา 4. โชยุ 2 ช้อนโต๊ะ 5. สาเก 1 ช้อนชา 6. มิริน 1 ช้อนโต๊ะ 7. น้ำมันงา 1ช้อนชา 8. น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา 9. พริกไทย 1 ช้อนชา 10. ต้นหอมซอย 11. งาขาวคั่ว วิธีทำข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่น Grilled Pork Rice Bowl 1. นำโชยุ มิริน สาเก น้ำมันงา น้ำผึ้ง พริกไทย กระเทียมสับ เทใส่อ่างผสมคนให้เข้ากัน แล้วนำหมูลงไปหมักไว้ประมาณ 15-30 นาที 2. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันให้พอทั่ว แล้วนำหมูที่หมักไว้มาย่างจนสุกทั้ง 2 ด้าน แล้วนำไปวางบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ โรยด้วยต้นหอมและงาคั่วพร้อมเสิร์ฟ ที่มา  http://www.foodtravel.tv/

สูตรหมูทอดแดดเดียว หมูแดดเดียว อาหารคู่บ้านคนไทยก็ว่าได้ เมนูอาหารในวันนี้ขอแนะนำ สูตรหมูแดดเดียว (Thai Pork Jerky Recipe) พร้อมแนะนำวิธีการหมักหมูแดดเดียว ให้อร่อยแบบแซ่บเวอร์ ซึ่งรสชาติเมื่อทอดเสร็จ จะออกกลมกล่อม ไม่จืด ไม่เค็ม โดยสูตรนี้ ใช้เนื้อหมูประมาณหนึ่งกิโล ไปดูส่วนประกอบ และเครื่องปรุงกันเลย... เครื่องปรุงและส่วนผสม เนื้อหมู 1 กิโลกรัม กระเทียม 1 หัวครึ่ง รากผักชี 5-6 ราก พริกไทย 2 ช้อนชา งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 4 ช้อนชา น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรสเนื้อ 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด นำนื้อหมูมาแล่ เป็นชิ้นบางหน่อย (หนาประมาณ 1 เซ็นติเมตร) แต่อย่าบางมาก ถ้าบางมากไป เวลานำไปตากแดด จะแห้งมากเกินไป เนื้อหมูบางส่วนอาจท่อนเป็นชิ้นๆ ด้วยก็ได้ 2. โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้ละเอียด ได้ที่แล้วนำไปหมักเนื้อหมู 3. จากนั้นเติมน้ำตาล, น้ำปลา, ซอสหอยนางรม, งาขาว และผงปรุงรส ลงไป 4. คลุกเคล้าหรือนวดด้วยมือจนส่วนผสมทั้งหมดเข้า กันดี และทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง 5. นำเนื้อหมูไปตากแแดดไว้ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง กลับเนื้อหมูบ้างเป็นระยะ (โดยตากแดดไปสัก 2 ชั่วโม

เคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับขนมถ้วยกับตัวคนทำมาแล้วหลายครั้ง เป็นขนมที่ชอบกินมากๆ ช่วยพ่อแม่ทำมาตั้งแต่เด็ก วันนี้ขอเพิ่มน้ำใบเตยกับมะพร้าวอ่อนเพื่อความหอมอร่อย ส่วนประกอบตัวขนม --------------------- แป้งข้าวเจ้า 120 กรัม แป้งมัน 20 กรัม น้ำใบเตย 50 กรัม หางกะทิ 350 กรัม น้ำตาลปี๊บหอมๆ 200 กรัม นำส่วนผสมทุกอย่างขยำรวมกันแล้วกรอง มะพร้าวอ่อนหั่นเต๋าเล็กๆตามชอบ ถ้วยตะไลขนาดกลาง 28 ใบ ส่วนผสมหน้าขนม ------------------ หัวกะทิ 350 กรัม แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนกินข้าวพูนๆ เกลือป่น 1 ช้อนกาแฟ นำทุกอย่างผสมกันแล้วกรอง วิธีทำ - นำถ้วยวางเรียงในชั้นลังถึงแล้วใส่มะพร้าวอ่อนลงก้นถ้วยเล็กน้อย นำไปนึ่งในน้ำเดือดพล่าน 5 นาที แล้วนำตัวขนมลงหยอดประมาณ 3/4 ถ้วย ปิดฝานึ่งต่อ 10-12 นาที จากนั้นเปิดฝาหยอดส่วนหน้าขนมจนเต็มแล้วปิดฝานึ่งต่อ 8 นาที ขั้นตอนนี้ห้ามเปิดฝาก่อนเวลาจะทำให้กะทิไม่แตกมัน จากนั้นผึ่งขนมให้เย็นค่อยรับประทานค่ะ ที่มา  https://plus.google.com/102194702247063474398/posts/KN4aN17ZAue

ส่วนผสม :เมี่ยงปลาทู *** 1. ปลาทูทอด 2. ขนมจีน 3. ขิงหั่นเต๋า/หอมแดงหั่นเต๋า 4. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 5. ผักตามชอบ ส่วนผสม : น้ำจิ้ม *** 1.พริกขี้หนู 2.กระเทียม/มะนาว 3.เกลือ/น้ำตาลปี๊บ /น้ำต้ม วิธีทำ : น้ำจิ้ม ** 1.โขลกกระเทียม/ พริกขี้หนู /เกลือ/น้ำตาลปี๊บ ให้เข้ากัน 2.ใส่น้ำมะนาว และน้ำต้มเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย ลุยได้เลย ‬ ขอขอบคุณเจ้าของสูตรโดยคุณ :Kwansri Rattanaphithan‎ ทาง facebook.

สิ่งที่ต้องเตรียม            หมูสันนอกหมัก            แป้งสาลีอเนกประสงค์            ไข่ขาว            เกล็ดขนมปัง            น้ำมันพืชสำหรับทอด            ซอสทงคัตสึสำเร็จรูป วิธีทำ 1. ทุบหมูแล้วโรยเกลือพริกไทยค่ะ แต่ไม่รับประกันความนุ่มนะคะ เว้นแต่ว่าจะเป็นหมูสันในซึ่งนุ่มสุดค่ะ 2..นำหมูที่หมักไว้มาชุบแป้งสาลีอเนกประสงค์ ชุบไข่ขาว และเกล็ดขนมปังค่ะ (ใช้เฉพาะไข่ขาว เวลาทอดน้ำมันจะไม่เป็นฟองค่ะ) 3. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่หมูลงไปทอด จากนั้นปรับไฟไห้อ่อนลง ไม่อย่างนั้นเกล็ดขนมปังจะไหม้แต่หมูอาจจะยังไม่สุก เมื่อหมูสุกแล้วให้เร่งเป็นไฟแรงเพื่อให้กรอบและไม่อมน้ำมัน 4. นำขึ้นและหั่นเป็นชิ้นตามต้องการ กรอบนอกนุ่มในจริง ๆ นะเนี่ย 5. เสิร์ฟพร้อมกระหล่ำปลีซอยและแครอทซอย เสิร์ฟพร้อมซอสทงคัตสึซอสโรยงาขาว หรือมายองเนสก็อร่อยค่ะ ใครชอบกินอาหารสไตล์ญี่ปุ่นอย่างหมูทอดทงคัตสึกรอบ ๆ นุ่ม ๆ จานนี้ก็ลองทำกันดูนะคะ จะได้ไม่ต้องไปเสียเงินหลายร้อยบาทสั่งกินที่ร้านอาหารญี่ปุ่นนะคะ ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณเนินน้ำ

~ส่วนผสม~ _กุ้งสด _น้ำปลา _กระเทียมกลีบใหญ่ หั่นแว่นตามขวาง _ใบสะระแหน่ _มะระจีน _พริกขี้หนู _กระเทียมไทยกลีบเล็ก _รากผักชี _น้ำมะนาว _น้ำตาลทราย =============================== ~วิธีทำ~ _ทำน้ำจิ้มโดยโขลกพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล ชิมรสตามชอบ เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยน้ำจิ้ม _มะระ ผ่าตามยาว คว้านไส้ออก จากนั้นหั่นเป็นแว่นๆ _กุ้ง ปอกเปลือกเหลือหางไว้ ผ่าหลังเอาเส้นดำออก แล้วจึงนำกุ้งไปจัดเรียงใส่จานและราดด้วยน้ำปลาให้ทั่ว วางเรียงในจาน _จัดวางมะระไว้บนจานเสริฟ ตกแต่งด้วยกระเทียม และใบสาระแหน่ นำเข้าแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด _นำออกจากตู้เย็น เสริฟพร้อมน้ำจิ้มและข้าวสวยร้อนๆ หรือเสริฟเป็นกับแกล้มก็อร่อยครับ..... ‪#‎โหน่งอาหารไทยแท้แม่ให้มา‬ ขอขอบคุณเจ้าของสูตรโดยคุณ : ศุภชัย เสมอมิตร

สูตรหมักคอหมูย่าง 1. เนื้อสันคอ ชิ้นกลางๆ 1 ชิ้น 2. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 3. ซอสหอย (น้ำมันหอย) 2 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ 5. พริกไทย 1 ช้อนชา 6. เกลือป่น ½ ช้อนชา 7. นมข้นจืด หรือ นมสด 3 ช้อนโต๊ะ น้ำจิ้มคอหมูย่าง 1. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ 2.น้ำมะขามเปียก ½ ช้อนโต๊ะ 3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำตาล ½ ช้อนโต๊ะ 5. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 6. ต้นหอมผักชี ตามชอบ Cr: http://www.khaoza.net

  เคยเป็นเหมือนกันไหมคะ ? เวลาที่ซื้อน้ำกระเจี๊ยบมาดื่ม อะไรมันจะเบาบางเจือจางใสแจ๋วเสียขนาดนั้น บางครั้งเจือจางจนแทบจะไม่มีกลิ่นเหลือเลยสักนิด พอกันที ! วันนี้เราจะมาทำน้ำกระเจี๊ยบดื่มกันเอง และที่สำคัญเป็นสูตรน้ำกระเจี๊ยบแดงใส่พุทราจีนด้วย             ใครที่เบื่อพ่อค้าแม่ค้าที่ขายเครื่องดื่มสมุนไพรแต่ดันทำออกมาใสแจ๋วจนไม่รู้จะรักษาโรคอะไรได้บ้าง กระปุกดอทคอมชวนมาทำ น้ำกระเจี๊ยบแดงกับพุทราจีน ดื่มกันเองเลย ทำก็ไม่ยากด้วยแถมยังได้รับคุณประโยชน์เน้น ๆ ซึ่งในน้ำกระเจี๊ยบสีแดงสดมีสรรพคุณเด่นในด้านของการช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความดันโลหิต แก้นิ่ว แก้กระหายน้ำได้ดี แต่หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า น้ำกระเจี๊ยบกินเดี่ยว ๆ ไปนาน ๆ ไม่ค่อยดีต้องมีพุทราจีนเข้ามาเอี่ยวด้วย ทำไมต้องเป็นน้ำกระเจี๊ยบกับพุทราจีน? ก็เพราะว่าถ้าดื่มน้ำกระเจี๊ยบอย่างเดียวเป็นเวลานาน ๆ เข้าจะทำให้ไตเสื่อมได้ ซึ่งพุทราจีนจะมาช่วยลดกรดบางชนิดในกระเจี๊ยบที่มีผลต่อไตให้เจือจางลงไปนั่นเอง แถมในพุทราจีนยังมีรสฝาดเล็ก ๆ เปรี้ยวหน่อย ๆ และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ที่จะเข้ามาช่วยทำให้น้ำกระเจี๊ยบมีรสชาติที่ดีขึ้นด้วย             เอ

  สูตรเป็ดพะโล้ง่าย ๆ ที่ทำได้หม้อหุงข้าว เปลี่ยนเมนูสุดยากให้กลายเมนูอาหารง่าย ๆได้ในพริบตา แต่ได้เนื้อเป็ดที่นุ่มหอมกลิ่นพะโล้ ใช้แค่หม้อหุงข้าวใบเดียว มาพร้อมสูตรพริกดองน้ำส้ม ลองทำดูน่าทานเว่อร์           ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้น่าจะเป็นหนึ่งในเมนูที่หลายคนชอบ แต่เวลาสั่งมาทานมักเจอเป็ดตบแบน กลิ่นเหม็นสาบ เนื้อไม่นุ่ม แถมยังไร้กลิ่นพะโล้อีกต่างหาก ถ้าหากทำเองได้ก็คงดีเนอะ แต่ถ้าหากเครื่องครัวไม่พร้อม มีแต่หม้อหุงข้าวจะทำได้ไหม วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเป็ดพะโล้หม้อหุงข้าวสูตรจากคุณ Rita_Bunny สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่จับเอาเนื้อเป็ดใส่เครื่องพะโล้แล้วเอาไปทำให้สุกด้วยหม้อหุงข้าว เก๋ใช่ไหมล่ะ ถ้าอยากลองทำเริ่มกันเลยจ้า           เป็ดพะโล้ By หม้อหุงข้าว โดย คุณ Rita_Bunny สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม  ส่วนผสม เป็ดพะโล้            เป็ด 1 กิโลกรัม           สามสหาย 20 กรัม (รากผักชี+กระเทียม+พริกไทยโขลกให้เข้ากัน)           ขิงทุบพอแตก 5 กรัม           อบเชย 1/2 ช้อนชา           เกลือแกง 1 ช้อนชา           น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ           ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ           ซีอิ

 ห่อหมกปลา อาหารไทยเนื้อนุ่มฟู เข้มข้นเต็มรสเครื่องแกง เห็นแล้วน้ำลายหก จับใส่กระทงใบตอง นึ่งสด ๆ หอม ๆ ข้าวสวยสักหน่อยคงจะเยี่ยมไปเลย บ่อยครั้งที่ลองทำห่อหมกแต่พอนึ่งเสร็จเจาะออกมาน้ำนองเลยจ้า... แถมเนื้อยังเละไม่เหนียวนุ่มละมุนลิ้นเหมือนคนขายอีกด้วย อย่ายอมแพ้นะคะ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำห่อหมกปลาสูตรจากคุณ Rin's Cookbook (#Rinscookbook) สูตรทำง่าย น้ำไม่เจิ่ง เนื้อไม่เละ ใส่เนื้อปลาเน้น ๆ กัดไปกี่คำก็เจอ ตักข้าวสวยมารอได้เลยจ้า  ส่วนผสม ห่อหมกปลา            เนื้อปลาบด (ใช้ได้ทั้งเนื้อปลาอินทรี เนื้อปลากราย หรือเนื้อปลาช่อนก็ได้) 500 กรัม           เนื้อปลาสไลซ์ 200 กรัม           น้ำพริกแกงเผ็ด 100 กรัม           ไข่ไก่ 1 ฟอง           น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ           น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง           กะทิ 2 ถ้วยตวง           แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนชา           กะหล่ำปลีซอย หรือผักกาดขาว           ใบโหระพา           พริกชี้ฟ้าซอย           ใบมะกรูดหั่นฝอย           กระทงใบตอง (กระทงใบตองแห้ง หรือถ้วย)           หัวกะทิ (สำหรับตกแต่ง) 1/3 ถ้วย วิธีทำห่อหมกปลา 1. ต้ม

 สูตรหมักหมูสเต็กสูตรใหม่สูตรหมูนุ่มละมุนลิ้นแถมอร่อยล้ำถึงดาวอังคาร!!ได้ทั้งทำกินหรือเปิดร้านขายทำธุรกิจสร้างรายได้มากมายค่ะ สูตร วัตถุดิบ : หมักเนื้อหมู สันคอหมูและสันนอก หมูสับ กระเทียม พริกไทยเม็ด ผงปรุงรส น้ำตาลทราย น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว สับปะรด นมสด หอมใหญ่สับ ไข่ไก่ วัตถุดิบ : ทำสลัด ผลักสลัดต่างๆที่ชอบ น้ำส้มสายชู วัตถุดิบ : ทำน้ำเกรวี่ซอสพริกไทยดำ น้ำมันหอย พริกไทยดำ เกลือ แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ นมสด อุปกรณ์ กระทะเทฟล่อนก้นแบน วิธีทำ 1. นำสันคอและสันนอก มาล้างทำความสะอาด แล้วใส่ตระแกรงรอให้สะเด็ดน้ำ 2. โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด เข้าด้วยกัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการหมักหมู(โดยแบ่งออกเป็นสองส่วนสำหรับผู้ใหญ่หนึ่งส่วน และสำหรับเด็ก-ผู้สูงอายุอีกหนึ่งส่วน) 3. นำกระเทียม-พริกไทยที่โขลกไว้(สำหรับผู้ใหญ่) ผงปรุงรส น้ำตาลทราย น้ำมันหอย และซีอิ๊วขาวมาหมักกับเนื้อหมูที่เตรียมไว้ 4. เพิ่มความนุ่มให้กับเนื้อหมูด้วยสับปะรด และนมสด หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง 5. นำกระเทียม-พริกไทยที่โขลกไว้(สำหรับเด็ก-ผู้สูงอายุ) ผงปรุงรส น้ำตาลทราย น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว หอมใหญ่ และไข่ไก่มาหมักกับหมูสับที่เตร

"ผัดวุ้นเส้นใส่ใบชะอม" (แปลกแต่อร่อยนะคะ)^^ ส่วนผสม : กุ้ง ไข่ วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่ม ชะอม พริกสับ กระเทียมสับ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล น้ำมัน วิธีทำ : ตั้งกระทะใส่น้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมลงไปผัดให้หอมใส่กุ้งและพริกลงไปผัดพอใกล้สุกตอกไข่ลงไปผัดให้เข้ากันใส่วุ้นเส้นกับชะอมลงไป ปรุงรสตามชอบผัดให้เข้ากันอย่างเร็ว ปิดไฟตักใส่จานเสิร์ฟเลยค่ะ (สูตรโดย : Kwansri Rattanaphithan)

ส่วนผสมแหนมคลุก 1. ข้าวหุงสุก 1 ถ้วย 2. พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต้ะ 3. น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ 4. น้ำตาล 1 ช้อนโต้ะ 5. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต้ะผสมน้ำเปล่า 4 ช้อนโต้ะ 6. ไข่ไก่ 1 ฟอง 7. หนังหมูลวกสุกซอย 2 ช้อนโต้ะ 8. พริกป่น 1 ช้อนโต้ะ 9. แหนมสด 2-3 ชิ้น 10. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต้ะ 11. น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ 12. ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต้ะ 13. ขิงซอย 2 ช้อนโต้ะ 14. หอมแดงซอย 2 ช้อนโต้ะ 15. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต้ะ 16. ผักสดสำหรับทานกับแหนมคลุก วิธีทำแหนมคลุก 1. นำข้าวหุงสุก มาผสมกับ พริกแกงเผ็ด น้ำปลา น้ำตาล และไข่ไก่ นวดให้ส่วนผสมเข้ากันและปั้นเป็นก้อนกลมๆ 2. เตรียมแป้งข้าวเจ้าผสมน้ำ ชุปที่ก้อนข้าว และนำลงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้เหลืองกรอบ สุก จากนั้นนำข้าวทอดมาพักให้เย็น 3. เตรียมทำแหนมคลุก โดย ผสม ข้าวทอด แหนมสด น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น หนังหมู หอมแดง ต้นหอมและขิงซอย คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน 4. โรยหน้าด้วย ถั่วลิสงคั่ว เสร็จแล้ว พร้อมเสริฟกับข้าว หรือกินเล่นๆก็อร่อยได้แล้วค่ะ Cr:kapook.com photo by:google.com

หากใครเบื่อที่จะต้องทำอาหารหลาย ๆ ครั้ง แอดมินขอนำเสนอสูตรการทำ “แหนมปลากราย” ที่ลงมือทำครั้งเดียว แต่สามารถเก็บไว้กินได้อีกหลายมื้อ ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ยังหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป เหมาะกับการทำไว้ติดครัวเป็นอย่างยิ่ง ส่วนผสม เนื้อปลากรายบดละเอียด 300 กรัม เกลือป่น 60 กรัม ข้าวสุก 30 กรัม กระเทียมโขลกละเอียด 30 กรัม วิธีทำ 1. นวดเนื้อปลากับเกลือป่นและข้าวสุกจนเหนียว 2. ใส่กระเทียมนวดให้เข้ากันจนมีความเหนียว 3. ใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิทหรือห่อด้วยใบตอง 4. หมักไว้ประมาณ 5-7 วัน ที่มา : นิตยสารเกษตรก้าวหน้า

วันนี้มีเมนูอาหารทานเล่นที่ใช้ส่วนผสมอันน้อยนิด หาวัตถุดิบง่าย ราคาไม่แพง ใช้เวลาแป๊บเดียวในการทำ แถมยังอร่อยสุดๆมาฝากกัน บรรยายซะขนาดนี้ เดี๋ยวจะหาว่าราคาคุย เอาเป็นว่ามาเริ่มทำกันเลยดีกว่า เริ่มจาก เตรียมหาวัตถุดิบในการทำ  วัตถุดิบ 1. เผือก 3 หัว (3 กิโลกรัม) 2. น้ำมันสำหรับทอด 1 ขวด 3. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย 4. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย 5. ต้นหอมซอย 3 ต้น (เลือกที่สวยๆสดๆเอาเฉพาะใบเขียว) ครบแล้วก็ลงมือทำกันได้เลย  วิธีทำ 1. ปอกเปลือกเผือกออกให้หมด นำไปล้างน้ำสะอาด จากนั้นนำไปหั่นเป็นแท่ง 2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ (กะปริมาณน้ำมันให้ท่วมเผือกพอดีจะได้สุขทั่วทุกชิ้น) นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นใส่ตะแกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมัน 3. เทน้ำเปล่าลงในกระทะ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ใช้ไฟอ่อน ๆ คนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายและเริ่มเห็นเป็นเกล็ดขาว ๆ รอบ ๆ กระทะ 4. พอน้ำตาลเป็นเกล็ดขาว ๆ แล้ว เทเผือกที่ทอดไว้ลงไป คลุกให้เข้ากันสัก 1 นาทีแล้วปิดไฟ จากนั้นใส่ต้นหอมแล้วคลุกเผือกต่อไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลที่เกาะบนเผือกเปลี่ยนเป็นสีขาวคล้ายเกล็ดหิมะ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ ที่มา  http://www.kinaroi.com/

วิธีการทำคั่วกลิ้ง เครื่องปรุง ◊ พริกแกง ◊ หอมแดง ๒ หัว ◊ กระเทียม ๓ กลีบใหญ่ ◊ พริกไทย ๑๐ เม็ด ◊ ขมิ้น แง่งเล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อย ◊ ตะไคร้ ๒ ต้น ◊ พริกแห้ง ๑ ช้อนโต๊ะ (ก้อยใช้แบบบด) ◊ เกลือ นิดหน่อย ◊ โขลกทุกอย่างให้ละเอียดจะได้พริกแกงประมาณ ๑ ช้อนโต๊ะ ◊ หมูสับ หรือ เนื้อสับ ๓๐๐ กรัม ◊ ใบมะกรูดหั่นฝอย พอประมาณ ◊ ตะไคร้ซอย ๒ ต้น ◊ น้ำมันพืช นิดหน่อย วิธีทำ ◊ ใส่น้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย ใส่พริกแกงลงผัดจนหอม ระวังอย่าใส่น้ำมันเยอะเพราะเดี๋ยวคั่วจะไม่กลิ้ง จะกลายเป็นผัดพริกแกงไป ◊ พริแกงหอมดีแล้ว ใส่เนื้อหรือหมูลงไป ผัดจนเข้ากันดี ปรุงรสตามชอบแล้วคั่วไปเรื่อยๆ จนเนื้อกลิ้งได้ ◊ ใส่ตะไคร้ซอยกับใบมะกรูดหั่นฝอย คั่วต่ออีกสักพัก ยกลงเสริฟได้เลยค่ะ คั่วกลิ้งยิ่งอุ่นหลายครั้งยิ่งอร่อย ขอบคุณที่มา: Talia Wangtakor ทาง facebook.

(จำนวน 4 ชิ้น) ส่วนผสม • ฟักทองลูกเล็ก (600-800 กรัม) 1 ลูก • ไข่ไก่ 4 ฟอง • น้ำตาลปี๊บ ¼ ถ้วย + 1 ช้อนโต๊ะ • หัวกะทิ (มะพร้าวขูดขาว 300 กรัม คั้นไม่ใส่น้ำ) ½ ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ • ใบเตยมัดเป็นปม 3 ใบ ขั้นตอน 1. ล้างเปลือกฟักทองให้สะอาด ใช้มีดปลายแหลมเจาะตรงขั้วฟักทองออกให้เป็นฝา ตักไส้ออกให้หมด ล้างผลฟักทองอีกครั้งให้สะอาด ทั้งด้านในและด้านนอก แล้วคว่ำลงพักให้แห้ง 2. ต่อยไข่ใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล หัวกะทิ และใบเตย ขยำให้น้ำตาลละลายหมด แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอน ใส่ถ้วย พักไว้ 3. ใส่น้ำในหม้อลังถึงประมาณ ¾ ของหม้อ ปิดฝา ยกขึ้นตั้งบนไฟแรงรอจนน้ำเดือด จึงวางฟักทองลงในจาน ใส่สังขยาลงในผลฟักทองให้เหลือปากประมาณ ½ นิ้ว พร้อมวางฝาฟักทองไว้ข้างๆ เมื่อน้ำเดือดให้นำไปนึ่งโดยลดเป็นไฟกลาง นึ่งนานประมาณ 30-45 นาที หรือจนสุก ยกลงพักให้เย็นสนิท เมื่อจะเสิร์ฟจึงหั่นฟักทองเป็นเสี้ยว จัดใส่จาน ที่มา : รูปภาพของ Sangdad Publishing สูตรอาหารจากรายการ C.I.Y. on TV TAPE 23 "อร่อยวันวาน" (ออกอากาศวันเสาร์ ที่ 10 มกราคม 2558 เวลา 11.00-11.30 น. ทางนิวทีวีช่อง 18)

วิธี การทำเมนูหมูสวรรค์และเนื้อสวรรค์ กับวิธีทำง่ายๆ แต่อร่อยสุดๆ>สำหรับขายกับข้าวเหนียวตอนเช้า ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสาวออฟฟิต พนักงานแบงค์ รปภ แม่บ้าน เห็นเขาแถวซื้อกันทุกกลุ่ม คนขายรวยๆ วิธีการทำหมูสวรรค์ ส่วนผสม - เนื้อหมูส่วนสะโพก 1 กิโลกรัม - เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง - พริกไทยป่น 1 ช้อนชา - กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ - ลูกผักชีและยี่หร่าป่นหยาบ ½ ถ้วยตวง - น้ำมันพืช วิธีทำ 1 ล้างเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นบางๆ 2 เคี่ยวเกลือป่น น้ำตาลปี๊บ และกระเทียมสับให้ข้นเหนียว 3 นำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงเคล้ากับส่วนผสม หมักทิ้งไว้สักครู่ ใส่ลูกผักชีและยี่หร่าป่นเคล้าให้ทั่ว 4 แผ่เนื้อหมูแต่ละชิ้นวางบนตะแกรงผึ่งแดดพอแห้ง นำลงทอดในน้ำมันพืช ** พักส่วนผสมให้เย็นก่อนนำเนื้อหมูไปคลุก ** -------------------------------- วิธีการเนื้อสวรรค์ ส่วนผสม - เนื้อวัว 1 กิโลกรัม - ลูกผักชี 3 ช้อนโต๊ะ - ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ - น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ้วขาว 4 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1 ล้างเนื้อทั้งก้อนซับให้แห้ง แล่พังผืดออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นบางๆขนาดพอควร 2 คั่วลูกผักชีและยี่หร่าด้วยไ

เคล็ดไม่ลับ!! สูตรทอดไก่แบบ KFC อร่อยได้ง่ายๆที่บ้าน พูดถึงไก่ทอดที่ทุกคนต่างยกให้เป็นอันดับหนึ่งของความอร่อยคงจะเป็น KFC สุดยอดของความกรอบอร่อย วันนี้ไข่เจียวมีเคล็ดไม่ลับของสูตรเด็ดความอร่อยของไก่ทอดแบบ KFC มาฝาก ให้สามารถทำกินอร่อยกันได้ที่บ้าน จะมีขั้นตอนอะไรบ้างไปชมคลิปกันเลยค่ะ ส่วนผสมที่ 1 – แป้ง หรือ แป้งสาลี อเนกประสงค์ – ผงซุปไก่ – พริกไทยป่น – เกลือป่น – ผงปาปริก้า ส่วนผสมที่ 2 – น่องไก่ สะโพกไก่ ปีกไก่ เครื่องปรุง – พริกปาปริก้า – พริกไทยป่น – ผงซุปไก่ – เกลือป่น – ไข่ไก่ และ น้ำมันปาล์ม ประมาณ 3 ลิตร 1.นำไก่มาหมักกับเครื่องปรุง โดยเท พริกปาปริก้า เกลือป่น ผงซุปไก่และพริกไทยป่นลงในอ้างประผสมคนให้เข้ากัน แลังน้ำไก่ลงไปคุกให้ทั่วไก่ พักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงหรือนานกว่านี้ก็ได้ 2.ผสมเครื่องปรุงและแป้งสาลีให้เข้ากัน โดยเทเครื่องปรุงทั้งหมดลงไปผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้รอจนครบเวลาหมักไก่ 3.เมื่อหมักไก่ได้ที่แลัวตีไข่ให้เข้ากัน นำไก่ไปคุกกับแป้งให้ทั่วเขย่าให้เศษแป้งหลุดออกให้หมด จากนั้นนำลงไปชุบไข่ไก่ และลงชุบแป้งอีกครั้ง 4.นำไก่ที่ชุบแป้งแลัวลงไปทอดที่น้ำมันร้อนจัด จากนั้นปรับไฟเป็นไ

จังหวัดสมุทรสงคราม หรือ เมืองแม่กลอง เป็นเมืองเล็กๆติดชายทะเลอ่าวไทยที่มีเสน่ห์น่ายลอีกเมืองหนึ่งที่เดียวครับ เมืองนี้เค้ามีเมนูเด็ดเรียกว่าเป็นเมนูต้อนรับนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ หอยหลอดผัดฉ่าเมนูนี้เป็นเมนูที่ทำง่ายและอร่อยจนใครที่ได้ลิ้มลองก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยสมคำล่ำลือเลยที่เดียว อีกทั้งเครื่องปรุงก็บ้านๆมีอยู่คู่ครัวกันทุกบ้านอยู่แล้วครับ เพียงแต่จัดหาหอยหลอดมาให้ได้เท่านั้นครับ วัตถุดิบและเครื่องปรุง 1. หอยหลอดสดแกะเปลือกล้างสะอาด  1 กิโลกรัม 2. พริกขี้หนูสับ 2 ช้อนโต๊ะ 3. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ 4. พริกไทยอ่อน 3 - 4 ช่อ 5. กระชายซอย 1 ถ้วย 6. ใบมะกรูดฉีก 4 - 5 ใบ 7. ใบกระเพา 1 ถ้วย 8. น้ำมันพืช 1 ถ้วย 9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 10. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 11. น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. ตั้งกระทะเทน้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่พริกกับกระเทียมสับลงผัดจนหอม 2. ใส่กระชาย พริกไทยอ่อน และใบมะกรูดฉีกตามลงไป 3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันหอยแล้วผัดให้เข้ากัน 4. นำหอยหลอดที่เตรียมไว้ลงผัดจนสุก 5. โปรยใบกระเพรา คลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกลงเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆหรือจะทานเป็นกับแกล้มก็

สูตรข้าวผัดปู สุดยอดกลิ่นหอมของเนื้อปู.. ขึ้นชื่อว่า ข้าวผัดปู เป็นอาหารจานด่วน ที่ทานได้ทันที ทำได้เร็ว รสชาติดี สำหรับท่านที่ต้องการทานหรือชอบเนื้อปูเป็นพิเศษ ขอแนะนำอาหารจานนี้เลยครับ รับรองว่าท่านได้โปรตีนและเนื้อปูล้วนๆ ทานกับพริกน้ำปลาแล้วละก็ท่านจะลืมข้าวผัดทั่วๆไปได้เลย การทำก็ไม่ยุ่งยากสามารถซื้อเครื่องไว้ก่อน แต่ปูก็ต้มแล้วให้สุกแกะเป็นเนื้อปูเตรียมรอไว้ทำทีเดียว มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง วัตถุดิบในการทำข้าวผัดปู 1. ข้าวสวย หอมมะลิ 2 ถ้วย 2. เนื้อปูทะเลต้มแกะแล้ว 1 ตัว 3. ไข่ไก่ 2 ฟอง 4. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ 5. ผักชี. 1 ช้อนโต๊ะ 6. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ 7. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา 8. น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา 9. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 10. น้ำมัน พืช 4 ช้อนโต๊ะ 11. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ 12. มะนาวผ่าซีก 1 ลูก 13. แตงกวาหั่นเป็นแว่นๆ 1ลูก 14. ต้นหอม 1 ต้น ขั้นตอนการทำข้าวผัดปู 1. นำน้ำมันพืช ตั้งไฟให้ร้อน จากนั้นใส่กระเทียมเจียวให้หอม 2. จากนั้นตอกไข่ไก่ ใช้ไข่สองฟองเพื่อเป็นการเพิ่มพลังให้กับร่างก่าย ผัดไข่ให้สุกใช้ไฟกลาง 3. เทข้าวสวยใช้หอมมะลิอย่างดี ใส่เนื้อปูลงไปด้วย แล้วทำการผัดให้เข้ากัน 4.

ถั่วพู 250 กรัม (ล้างและหั่นขวางเป็นชิ้นเล็กๆ) เนื้อหมูสับ 100 กรัม กุ้งขนาดกลาง 5 ตัว (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก) กะทิ 2 ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย 2 ลูก น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่วบด 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับโรยหน้า) เนื้อมะพร้าวฝอย 50 กรัม ไข่ไก่ต้ม 1 ลูก (หั่นครึ่งตามยาว) พริกแห้ง (สำหรับแต่งหน้า) น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำหมูสับที่เตรียมไว้ไปลวกในน้ำร้อนจนสุก เสร็จแล้วนำออกมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง จากนั้นจึงลวกกุ้งให้สุกและนำออกมาสะเด็ดน้ำเช่นกัน นำถั่วพูที่หั่นแล้วไปลวกในน้ำร้อนประมาณ 3 นาทีจนสุก จึงนำออกมาสะเด็ดน้ำ ผสมกะทิ (1 ช้อนโต๊ะ), น้ำปลา, น้ำตาลและน้ำมะนาวเข้าด้วยกันในชามขนาดปานกลาง คนจนเข้ากันดี ใส่หมูสับ และ กุ้งที่ลวกไว้แล้วลงไปในชามที่ใส่เครื่องปรุงรสไว้ในขั้นตอนที่สาม คนจนหมูและกุ้งผสมเข้ากันดีกับเครื่องปรุง จากนั้นใส่เนื้อมะพร้าวฝอย,ถั่วลิสงบดและถั่วพูลงไป คนจนเข้ากันทั่ว จึงตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยกะทิสด (1 ช้อนโต๊ะ), หอมเจียว, พริกแห้ง และไข่ต้มที่หั่นเตรียมไว้ เสิร์ฟทันทีกับข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นของว่างทานเล่นก็ดี เมน

1. น้ำสลัดครีมวาซาบิ น้ำสลัดครีมทั่ว ๆ ไปมีแค่รสเปรี้ยวกับหวาน ลองเพิ่มวาซาบิเข้าไปกระตุ้นต่อมเผ็ดหน่อยแล้วกัน จนกลายเป็นสูตรน้ำสลัดครีมวาซาบิ สีเขียวครีมอ่อน ๆ ทำง่าย ๆ แค่เอาส่วนผสมไปคนให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็พร้อมเสิร์ฟกับสลัดผักกรอบ ๆ หรือถ้าหากยังไม่กินก็นำไปแช่เย็นเก็บไว้ได้นานเกือบเดือนคะ ส่วนผสม น้ำสลัดครีมวาซาบิ - น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล 100 มิลลิลิตร - น้ำตาลทราย 100 กรัม - เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ - น้ำมันมะกอก 250 มิลลิลิตร - นมข้นหวาน 60 มิลลิลิตร - วาซาบิสด 1/8 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ น้ำสลัดครีมวาซาบิ 1. ใส่น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล น้ำตาลทราย และเกลือ คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน 2. เทน้ำมันมะกอกลงไป คนผสมเร็ว ๆ จนน้ำมันเป็นเนื้อเดียวกัน 3. เติมนมข้นหวานและวาซาบิสดลงไปคนผสมให้เข้ากัน 4. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสลัด หรือเก็บใส่ขวดที่มีฝาปิดมิดชิด สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 20 วัน -------------------------------- 2. น้ำสลัดครีมไขมันต่ำ เอาใจสาว ๆ ที่ชอบรสเปรี้ยวด้วยน้ำสลัดครีมไขมันต่ำ หน้าตาน้ำสลัดมีสีเหลืองนวลจากมัสตาร์ด เพิ่มความเปรี้ยวจากน้ำมะนาว ความเผ็ดเล็กน้อยจากพริกไทยดำ เสิร์ฟพร

สูตรหมูนุ่ม วัตถุดิบ เนื้อหมูหั่นชิ้นบาง 500 กรัม พริกไทป่น 2 ช้อนชา น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 2 ชอนโต๊ะ แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ ผงฟู 2 ช้อนชา วิธีทำ นำส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นเนื้อหมูใส่ถ้วยใบใหญ่ จากนั้นนำหมูหั่นลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว นำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือข้ามคืนยิ่งดี สูตรกุ้งเด้ง วัตถุดิบ แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ เบกกิ้งโซดา (ไม่ใช่ผงฟู) 1 ช้อนชา กุ้ง 1 กก. วิธีทำ แกะกุ้ง ผ่าหลัง นำแป้งมัน เบกกิ้งโซดา คลุกเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 10-15 นาทีในตู้เย็น จากนั้นนำกุ้งออกมาล้างน้ำ พักให้แห้ง นำไปประกอบอาหารตามชอบ ****ส้มแนะนำให้ใส่ซอสพริกศรีราชาแทนเครื่องปรุง พริก น้ำตาล น้ำปลา จะได้รสชาติเข้มข้น อร่อยไปอีกแบบค่ะ by...‪#‎ส้มฉุน‬

สูตรวิธีทำลอดช่องของหวานสูตรดั้งเดิมทำขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ 🍧🍨 สูตรวิธีทำลอดช่องของหวานสูตรแบบดั้งเดิม ส่วนประกอบ 1. แป้งมันสำปะหลัง 1 ถุง (ถุงเล็ก) 2. น้ำต้มเดือด (ใส่ภาชนะตั้งไฟให้เดือดหรือใช้น้ำร้อนในกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน) 3. น้ำตาลทราย 500 กรัม 4. น้ำกะทิ 600 กรัม 5. นมสด 1 กระป๋อง 6. เกลือป่น 2 ช้อนชา 7. ขนุนสุก 300 กรัม 8. สีดอกอัญชัน 2 ช้อนโต๊ะ 9. สีของใบเตย 2 ช้อนโต๊ะ 10. ใบเตย 3-5 ใบ 11. น้ำเปล่าสำหรับทำน้ำเชื่อม 500 กรัม 12. น้ำแข็งบด วิธีทำตัวลอดช่อง 1. แบ่งแป้งมันออกไว้ 1 ถ้วยตวงแล้วนำส่วนที่เหลือใส่ภาชนะเทน้ำร้อนใส่ลงในแป้งทีละน้อยแล้วค่อยๆนวดจนแป้งจับตัวเป็นก้อน จากนั้นแบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆปิดคลุมแป้งไว้ 2. นำแป้งส่วนที่ 1 มาผสมกับสีดอกอัญชันที่คั้นน้ำเอาไว้แล้วนวดให้เนื้อแป้งเนียน โดยใช้แป้งมันส่วนที่แบ่งไว้แตะที่มือเล็กน้อยเพื่อไม่ให้แป้งติดมือ เมื่อนวดจนแป้งเนียนแล้วจะได้เนื้อแป้งสีม่วงอ่อนๆ แล้วนำแป้งส่วนที่เหลืออีก 2 ส่วนมานวดโดยใช้วิธีเดียวกัน จะทำให้ได้แป้ง 3 สี คือสีม่วง สีเขียว และสีขาว 3.จากนั้นนำแป้งแต่ละสีมาแบ่งคลึง

สิ่งที่ต้องเตรียม - เนื้อปลาช่อนหั่นเป็นชิ้น 300 กรัม - เกลือป่นเล็กน้อยสำหรับหมักปลา - น้ำมันพืชสำหรับทอด - น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ - น้ำมะนาว ¼ ถ้วยตวง - น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา - พริกชี้ฟ้าแดงซอย 1 เม็ด - ตะไคร้ซอย 1 ต้น - หอมแดงซอย 4 หัว - มะนาวหั่นเป็นชิ้นเล็ก 1/2 ลูก - เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ทอดกรอบ 1 ช้อนโต๊ะ - กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ - ใบสะระแหน่ 10 ใบ วิธีทำ 1. เคล้าผสมเนื้อปลาช่อนกับเกลือป่นให้ทั่ว พักทิ้งไว้สักครู่ 2. ทอดปลาช่อนที่หมักไว้ในน้ำมันที่ร้อนจัดด้วยไฟปานกลางจนเนื้อปลาสุกเหลือง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้ 3. ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกชี้ฟ้าแดงลงในอ่างผสมคนผสมจนละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบใจ เตรียมไว้ 4.ใส่ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย มะนาวหั่น เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ กุ้งแห้ง ใบสะหระแหน่ และเนื้อปลาช่อนทอด ลงในอ่างผสม เคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่จาน ราดส่วนผสมน้ำยำ พร้อมรับประทาน Cr. ภาพอาหาร http://cooking.kapook.com/view

-ไข่ ล้างทำความสะอาดเปลือกไข่ นำมาเจาะเป็นรูเล็กโดยใช้มีดปลายแหลมเจาะ แล้วเทไข่ขาวและแเดงออกใส่ถ้วย เก็บเปลือกไข่ไว้ -ปรุงรสด้วยพริกไทยป่นและซีอิ้วขาว ใส่ลงในถ้วยไข่ คนเครื่องปรุงกับไข่ขาวและแดงเข้ากัน (ไม่ต้องตีฟูนะคะ) -เทไข่เติมไข่ที่ผสมคืนใส่เปลือกไข่ ไม่ต้องเติมให้เต็ม ใช้สลิงฉีดยาเติมไข่ -นำไข่ไปนึ่ง โดยตั้งเรียงส่วนทีเจาะขึ้นด้านบน ใช้ถาดไข่เก่าแล้วเรียงไข่ง่ายขึ้น การนึ่งรอให้น้ำเดือดค่อยนึ่งนะคะ ลดไฟใช้ไฟอ่อน ถ้าไฟแรงไข่จะฟูแตกค่ะ ไข่สุกจะฟูออกมาจากเปลือกเล็กน้อยเป็นอันใช้ได้ค่ะ (สูตรโดย : รวีษุ สิงห์คนอง)