ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สูตรทำข้าวซอย

“ ข้าวซอย “ เชียงรายถือเป็นอาหารจากตำนานแห่งวิถีความเป็นอยู่ของคนจีนมุสลิมที่เดินทางเข้ามาค้าขายและอพยพเข้ามาในภาคเหนือของประเทศไทยโดยเริ่มจากจังหวัดชายแดนใกล้ประเทศจีนก็คือ เชียงราย “ ข้าวซอย “ ทำมาจากแป้งเป็นแผ่นก่อนแล้วก็เอามาซอยเป็นเส้นๆ
เลยเรียกว่าเส้นซอยหรือ “ ข้าวซอย “ นั่นเอง การทำน้ำ “ ข้าวซอย “ สูตรดั้งเดิมโบราณของชาวจีนมุสลิมไม่ได้ใส่กะทิบางคนเรียกว่า “ ข้าวซอยน้ำใส “ แต่เมื่อคนไทยนำมาทำได้มีการประยุกต์โดยใส่กะทิไปด้วยเพื่อให้รสชาติเข้มข้นเป็นที่ถูกปากจนเป็นที่ติดอกติดใจและถ่ายทอดกันมาหลายยุคหลายสมัย นอกจากคนไทยแล้วชาวต่างชาติก็ชื่นชอบ " ข้าวซอย " เพราะทานได้ง่าย รสชาติไม่เผ็ดมากนัก แต่สำหรับคนไทยเราแล้วยังสามารถเติมพริกคั่ว ทมะนาวานกับหอมแดงและผักกาดดอง เพิ่มรสชาติที่เข้มข้นและรสชาติจัดจ้านมากขึ้น

เครื่องปรุง
เนื้อไก่ 400 กรัม
เส้นบะหมี่ 1 ห่อ
ผักกาดดอง 1 ห่อ
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ขิง ¼ ถ้วย
หัวหอมแดง ¼ ถ้วย
ผักชี 1 ต้น
กะทิ 1 กระป๋อง
น้ำเปล่า 3 ถ้วย
น้ำมันสำหรับทอด ½ ถ้วย
น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำแกงข้าวซอย
1. นำเนื้อไก่มาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอประมาณ จากนั้น ปลอกเปลือกขิง นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วจึงนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในครกโขลกให้ละเอียดแล้วจึงนำน้ำพริกแกงเผ็ดใส่ลงไปโขลกให้เข้ากัน


2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ รอจนน้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่น้ำพริกที่โขลกไว้ลงไปผัดจนน้ำพริกเริ่มหอม จากนั้นใส่ไก่ที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนไก่เริ่มสุกก็โรยผงกะหรี่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน


3. ค่อยๆ ใส่หัวกะทิลงไป (แบ่งหัวกะทิไว้ประมาณ ¼ ถ้วย สำหรับโรยหน้าตอนเสริฟ) ผัดและใส่กะทิลงไปเรื่อยๆ จนไก่สุก จึงใส่กะทิลงไปจนหมด


4. เคี่ยวน้ำแกงต่อไปประมาณ 10 นาที ก็เติมน้ำเปล่าลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ รอจนน้ำแกงเดือดอีกครั้งก็ปิดเตาได้


วิธีเตรียมเครื่องเคียง
1. ปลอกเปลือกหัวหอมแดง นำไปล้างน้ำให้สะอาด นำหัวหอมแดงมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ส่วนผักกาดดองนำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ


2. เปิดเตาที่ไฟแรง ตั้งกระทะใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 3 ถ้วย ต้มจนน้ำเดือด จึงเอาผักกาดดองที่หั่นไว้ใส่ลงไปต้มผักกาดดองประมาณ 10 นาที ก็เทน้ำออก สะเด็ดน้ำขึ้นมาใส่ชาม เติมน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วพักไว้


3. เปิดเตาที่ไฟแรง ตั้งกระทะใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 5 ถ้วย ต้มจนน้ำเดือด จึงนำเส้นบะหมี่ใส่ลงไป(ก่อนใส่เส้นให้กระจายเส้นออกจากกันก่อน) ต้มจนเส้นสุก ก็ตักขึ้นล้างด้วยน้ำเย็น สะเด็ดน้ำ แล้วคลุกด้วยน้ำมันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะเพื่อไม่ให้เส้นติดกันเป็นก้อน พักไว้


4. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะรอจนน้ำมันร้อนก็ใส่พริกป่นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปผัดประมาณ 1 นาที ปิดเตาและตักพริกผัดใส่ถ้วยพักไว้


5. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ ½ ถ้วย รอจนน้ำมันร้อนก็ใส่บะหมี่ประมาณ ½ ก้อนลงไปทอดจนบะหมี่เหลืองกรอบ ปิดเตาและตักบะหมี่ขึ้นมาวางบนกระดาษซับน้ำมันและพักไว้


6. หัวกะทิ ¼ ถ้วยที่แบ่งเอาไว้ ให้นำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที และล้างผักชีให้สะอาด เด็ดเป็นใบๆ เตรียมไว้สำหรับโรยหน้า


วิธีเสิร์ฟ
ตักเส้นบะหมี่ที่ลวกไว้ใส่ชาม ตักน้ำแกงข้าวซอยราดลงบนเส้น ใส่ผักกาดดองซอยและหัวหอมแดงหั่นเต๋า โรยด้วยบะหมี่ทอดกรอบ ใบผักชี และหัวกะทิ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟพร้อมมะนาวและพริกป่นผัดน้ำมันได้เลย



ขอบคุณที่มาสูตร : ucancookthai.com
ภาพ : เพจร้านอาหาร EATHAI

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีทำ ซาลาเปาไส้ถั่วดำ(จีน)

ส่วนผสมตัวแป้ง 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 400 กรัม 2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม 3. ผงฟู 20 กรัม 4. ยีสต์แห้ง 20 กรัม 5. เนยขาว 20 กรัม 6. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 20 กรัม 7. น้ำเปล่า 200 กรัม ส่วนผสมไส้ถั่วดำ 1. ถั่วดำเม็ดเล็กคั่วให้หอมแช่น้ำ 1 คืน 2 ถ้วยตวง 2. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง 3. เนยจืดสด 50 กรัม วิธีทำซาลาเปาไส้ถั่วดำ Bean Bun วิธีทำแป้งซาลาเปา 1. นำน้ำอุ่นมาใส่ลงในยีสต์ให้ท่วมเล็กน้อยรอจนยีสต์ตื่น 2. นำแป้งสาลี น้ำตาลทรายขาว ผงฟู ผสมให้เข้ากัน 3. ใส่เนยขาว ยีสต์ ตามด้วยโยเกิร์ตผสมให้เข้ากัน และค่อยๆใส่น้ำลงไปนวดจนเป็นโดว์ และเนียนเข้ากันดี ใช้พลาสติกคลุมไว้ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 35-40 องศา จนแป้งขึ้นฟู ประมาณ 1-2 ชม 4. นำแป้งนวลมาโรยพื้นที่จะทำการปั้นแป้ง แล้วแบ่งแป้งออกมาปั้นเป็นก้อน ขนาดก้อนละ 20-25 กรัม วิธีทำไส้ถั่วดำ 1. นำถั่วดำ ต้มจนนิ่ม กรองน้ำออก 2. นำถั่วดำไปบด และกรองผ่านตะแกรง 3. ผสมเนยจืด น้ำตาลทราย พักให้เย็น 4. นำแป้งมาแผ่ออกใส่ไส้ตรงกลางแล้วห่อคุมให้มิด ใส่กระดาษรองซาลาเปาโดยการใช้น้ำแปะตรงก้นซาลาเปาเล็กน้อย แล้ววางลงกลางกระดาษ วิธีนี้จะช่วยให้เมื่อซาลาเป...

สูตร ถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน

ส่วนผสมถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน 1. ถั่วลิสงเม็ดใหญ่ 300 กรัม 2. น้ำตาลทราย 200 กรัม 3. น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง 4. เกลือ 1 ช้อนชา 5. โอวัลติน 1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ 6. งาขาวคั่ว ตามชอบ วิธีการทำถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน 1. นำน้ำ น้ำตาลทราย ถั่วลิสง โอวัลติน ใส่ในกระทะ ใช้ไฟปานกลางถึงแรงเล็กน้อยเคี่ยวจนน้ำใกล้งวด (ประมาณ 15 นาที) ให้คอยคนกันน้ำตาลติดกระทะ 2. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำแห้งหมด น้ำตาลจะตกทราย ให้ลดไฟเบา แล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำตาลเริ่มเยิ้มเล็กน้อย 3. เมื่อน้ำตาลเริ่มเยิ้มพอประมาณ ให้ใส่เกลือ ลงไป 4. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลเยิ้มจนเคลือบถั่วเป็นเงาแวววาว ใช้ตะหลิวคนตลอด แล้วจึงใส่งาคลุกให้ทั่ว และปิดไฟ 5. ยกลงและเทลงในภาชนะกระจายถั่วให้แยกจากกัน รอจนเย็น กรอบ 6.ใส่ถุง หรือขวดโหล ปิดให้สนิท พร้อมรับประทาน ****เคล็ดลับ สีของถั่วจะสวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการให้ไฟ ถ้าแรงเกินไปสีจะออกมาคล้ำ สามารถเปลี่ยนเป็น ไมโล กาแฟ ก็ได้ตามความชอบ หรือจะผสมทั้ง โอวัลตินกับกาแฟ ก็ได้ Cr. ภาพอาหาร Internet

สูตร กล้วยน้ำว้าเชื่อม

กล้วยน้ำว้าเชื่อม ผิวและเนื้อดี ไม่เละ วิธีทำง่าย แต่ใช้เวลาเยอะ ราดหัวกะทิที่เค็มปะแล่ม หรือหั่นเป็นชิ้นกินกับน้ำแข็งก็สุดยอด ส่วนผสม ============================ - กล้วยน้ำว้า (ห่าม) เปลือกสีกระดังงา - เกลือ น้ำสะอาด (แช่กล้วย) - น้ำตาลทราย ถ้ามีสีรำก็จะดี ไม่มีก็ใช้สีขาว - น้ำตาลมะพร้าว ชั่งรวมกับน้ำตาลทรายได้ประมาณ 400 - 500 กรัม ลดได้ - น้ำสะอาด 1000 กรัม - เกลือ 1 หยิบนิ้ว - มะนาว 1 เซี่ยว - ใบเตยหอม ล้างสะอาด - หัวกะทิ เกลือ แป้งข้าวเจ้า วิธีทำ =========================== - ผสมน้ำกับเกลือ กะให้พอท่วมกล้วย - ปอกเปลือกแล้วหั่นกล้วยตามขวาง 2 ท่อน หรือผ่า 4 - แช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที - ตั้งกระทะ ใส่น้ำสะอาด ใบเตย ใส่น้ำตาลสองชนิด เปิดไฟ - เมื่อน้ำตาลละลายจนหมด ใส่เกลือ รอเดือด ล้างกล้วยที่แช่น้ำเกลือไว้ หย่อนกล้วยใส่กระทะ - เดือดสักครู่ ปรับเป็นไฟอ่อน มีฟอง ให้ช้อนทิ้งไป วักน้ำเชื่อมในกระทะ ราดกล้วยด้านบนเป็นระยะ สามารถเติมน้ำได้อีก - กระทะนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที 2ชั่วโมง เมื่อกล้วยเงาสวย ก่อนตักขึ้น ให้ใส่น้ำมะนาว แล้วคนเบามือ - ตักใส่จาน เตรียมทำน้ำกะทิ ราด - ...