resepthilnd

ครัว  Food-Trick  ขอจัดหนัก จัดเต็ม กับ อาหารง่ายๆ  ทำเองได้ที่บ้าน  ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อคิวซื้อ  ที่สำคัญจะทานเยอะแค่ไหนก็ได้ ทานให้จุใจกันไปเลยกับสูตร   "ผัดหอยลายทำง่ายใครใครก็ชอบ"    เติมรสเค็มจากเต้าเจี้ยว  โรยหน้าให้หอมด้วยใบโหระพา  รับประกันความฟิน 100% ไปเล๊ยยยย ^^ วัตถุดิบ 1.น้ำมันพืช  1ช้อนโต๊ะ 2.กระเทียมสับ  11/2ช้อนโต๊ะ 3.พริกขี้หนูสับ  ตามชอบ 4.พริกเผา  2ช้อนโต๊ะ 5.ซอสหอยนางรม  2ช้อนโต๊ะ 6.ซอสปรุงรส  2ช้อนชา 7.น้ำปลา  11/2ช้อนโต๊ะ 8.น้ำตาลทราย  1ช้อนชา 9.หอยลาย 500กรัม 10.ใบโหระพา  ตามชอบ วิธีการทำ 1.ใส่น้ำมันพืชลงไปในกระทะผัดกับกระเทียมจนหอมจากนั้นใส่พริกขี้หนูสับและพริกเผาลงไป 2.ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม  ซอสปรุงรส  น้ำปลาและน้ำตาลทราย ผัดส่วนผสมให้เข้ากัน 3.จากนั้นก็ใส่หอยลายลงไปผัดจนเครื่องปรุงซึมเข้าไปในเปลือกหอยลาย เสร็จแล้วก็ใส่ใบโหระพาเพื่อความหอม ***เคล็ด(ไม่)ลับ -การเลือกซื้อให้เลือกหอยที่หุบปากแน่นเมื่อวางไว้จะอ้าและหุบอย่างรวดเร็วเมื่อเอามือไปแตะไม่มีกลิ่นเหม็น  -หอยที่แกะเปลือกแล้วต้

หิววววว...หันไปทางนู้นที  หันไปทางนั่นที ก็มีแต่อาหารที่ทำยากๆ ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี  ไม่ต้องเสียใจไปคะ  เพราะวันนี้ครัว  Food-Trick   เรามาแนะนำ ความอร่อย  ที่ ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก  วัตถุดิบก็หาได้จากท้องตลาดใกล้บ้าน   "ไก่รวนเค็มอร่อยโดนใจวัยรุ่น "   ว่าแต่จะเป็นอย่างไรตามไปดูสูตรกันเล๊ยยยย^^   วัตถุดิบ 1.ไก่บ้าน  1/2ครึ่งตัว 2.เกลือป่น  1ช้อนชา 3.น้ำมันพืช  2ช้อนโต๊ะ 4.ซอสปรุงรส 1ช้อนโต๊ะ 5.พริกไทยดำป่น  1/2ครึ่งช้อนชา วิธีการทำ 1.นำไก่ไปล้างให้สะอาด แล้วสับเป็นชิ้นๆพอดีคำ 2.นำไก่ลงอ่างผสมคลุกเคล้ากับเกลือให้ทั่วแล้วพักทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นนำไปนึ่งในน้ำที่ด้วยไฟกลางจกสุกเอาไก่ออกมาตั้งพักไว้ 3.ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพอร้อนแล้วนำไก่ลงไปรวนจนเหลือง ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและพริกไทยรวนต่อไปจนไก่แห้งจากนั้นปิดไฟเป็นอันเสร็จ 4.โรยหน้าด้วยผักชีรับประทานคู่กับ แตงกวา  หั่นชิ้นก็ดีหรือใบมะกรูดทอดกรอบ

คราวนี้เป็นคิวของ เป็ด กันบ้างดีกว่า  เนื้อเป็ดนุ่มๆ  ไม่เหม็นคาว   " เป็ดพะโล้ รสชาติดีน้ำจิ้มเด็ด "   นำมาต้มกับพะโล้จนรสชาติซึมเข้าเนื้อ  ทานกับข้าวสวยหรือข้าวต้ม รับประกันความอร่อยเกิน 100 ไปเลยคะ  ปะ....เราไปจดสูตรดูขั้นตอนการทำกันเลย ^^  วัตถุดิบ 1.เป็ด  1ตัวขนาดประมาณ 1½-2กก.  2.น้ำตาลมะพร้าว  ½กก. 3.รากผักชี  10ราก 4.พริกไทยดำ  2ช้อนโต๊ะ 5.พริกไทยขาว  2ช้อนโต๊ะ 6.กระเทียมจีน  20กลีบ 7.เกลือ  1ช้อนชาถ้าไม่เค็มเติมได้ตามชอบ 8.น้ำเปล่า  2ลิตร 9.น้ำมันหอย  2ช้อนโต๊ะ 10.น้ำส้มสายชู  3ช้อนโต๊ะ วิธีการทำ  1)โขลกรากผักชีกระเทียม 7กลีบเกลือพริกไทยดำ พริกไทยขาวให้ละเอียดแล้วนำลงผัดกับน้ำมันให้หอมแล้วพักไว้ 2)นำน้ำตาลมะพร้าวลงเคี่ยวในกระทะกับน้ำมันที่เหลือจากผัดเครื่องโดยใช้ไฟอ่อนมากๆเพื่อไม่ให้น้ำตาลไหม้เคี่ยวจนน้ำตาลออกสีเข้มเรียกว่าโล้น้ำตาล คือการเคี่ยวน้ำตาลให้เป็นสีเข้มเหมือนสีพะโล้แต่ไม่ใช้เครื่องพะโล้ 3)เมื่อน้ำตาลเป็นสีเข้มแล้วนำเป็ดสดทั้งตัวหรือจะแล่เป็นชิ้นเช่นส่วนอกส่วนน่องเพื่อสะดวกในการทำไม่ต้องใช้หม้อใบใหญ่นำเป็ด

ขยับเข้ามาอีกนิด  เพราะวันนี้ครัว  Food-Trick  เรามี อาหารโบราณ มานำเสนอ  "ปลาหมึกต้มน้ำดำ คำไหนก็อร่อยเหาะ"   หรือมีอีกชื่อ( หมึกต้มหวาน )    ซึ่งมีรสชาติที่แซ่บ หอมพริกและใบกระเพราว่าแต่จะอร่อย  เด็ด ขนาดไหน ตามไปดูสูตรกันเลยคะ   วัตถุดิบ 1.ปลาหมึกกล้วยตัวเล็ก  300กรัม 2.น้ำเปล่า  11/2ถ้วย 3.เกลือทะเล  1/2ช้อนชา 4.น้ำปลา  1/2-2ช้อนโต๊ะ 5.ใบกระเพรา  1ถ้วย 6.พริกขี้หนูบุบ  10เม็ด 7.น้ำมะนาว 1ผล วิธีการทำ 1.ล้างปลาหมึกให้สะอาดโดยไม่ต้องลอกเยื่อสีม่วงและดึงหมึกดำทิ้ง 2.ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ น้ำปลาและปลาหมึกจากนั้นลดไฟให้อ่อนลงห้ามคนเพราะจะทำให้น้ำซุปมีสีดำต้มจนสุกปิดไฟ 3.ใส่ใบกระเพรา พริกขี้หนู และน้ำมะนาวชิมรสเสิร์ฟทันทีต้องรับประทานตอนร้อนๆจึงจะอร่อย

กระจายความแซ่บ แบบไทยไทยกับครัว Food-Trick  ด้วยสูตร   "แกงส้มดอกแคอร่อยไม่ซ้ำใคร"   มีรสชาติที่เปี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดปลายลิ้น เรียกได้ว่าอร่อย ครบทุกรสเลยทีเดียว  แถมยังได้ ประโยชน์จากดอกแค  ทั้งกลมกล่อม ทั้งอร่อยเครื่องแกง บอกเลยว่าฟินสุดๆ ^^ วัตถุดิบ 1.ปลาช่อน  1ตัว 2.เครื่องพริกแกงส้ม  ½ขีด  3.น้ำซุป  3-4ถ้วย 4.ดอกแค  10-20ดอก 5.น้ำมะขามเปียก  3ช้อนโต๊ะ 6.น้ำตาลปี๊บ  1ช้อนโต๊ะ 7.มะนาว  1ช้อนโต๊ะ 8.น้ำปลา  2ช้อนโต๊ะ วิธีการทำ 1.นำปลาช่อนมาล้างทำความสะอาดหั่นเอาแต่เนื้อปลาลงไปต้มในน้ำเดือด 2.นำดอกแคมาล้างทำความสะอาด แล้วเด็ดเกสรข้างในทิ้งแล้วพักไว้ 3.เมื่อปลาสุกแล้ว ให้นำเนื้อมาโขลกกับเครื่องพริกแกงส้มจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน 4.ตั้งไฟจนน้ำเดือดพอประมาณ ใส่พริกแกงลงไปละลายปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ  มะขามเปียก  5.ใส่ดอกแคลงไปต้มในน้ำเดือด เติมมะนาวลงไป ปรุงรสตามใจชอบเคี่ยวจนเดือดอีกครั้งปิดไฟ 6.ตักใส่ชามเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ  ***สาระน่ารู้ ดอกแค : มีสารเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามิน

ส่งต่อความอร่อยแบบไม่หวงสูตรอย่าง  "ผัดมะเขือยาวอิ่มอร่อยทั้งครอบครัว"  เป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยาก  รสชาติไม่จัดจ้าน   เนื้อมะเขือยาวนุ่มๆ  พร้อมหอมกลิ่นใบโหระพา ชวนให้ลิ้มลองเข้าไปอีก ทานคู่กับข้าวสวย  ไม่ว่าจะมื้อไหนๆก็ฟิน ติดใจกันทั้งนั้น  ^^ วัตถุดิบ 1.มะเขือยาวอ่อนหั่น  1x1นิ้ว(150กรัม)3ถ้วยตวง  2.หมูสับมันน้อย  (60กรัม)¼ถ้วยตวง  3.ใบโหระพา  ¼ถ้วยตวง  4.กระเทียมสับหยาบ  7กลีบเล็ก  5.พริกขี้หนูบุบ  5-10เม็ด  6.น้ำตาลทราย  1ช้อนชา  7.เต้าเจี้ยวดำ  1ช้อนชา  8.ซีอิ๊วขาว  1ช้อนโต๊ะ  9.ผงปรุงรส  1ช้อนชา  10.น้ำมันสำหรับผัด  2ช้อนโต๊ะ  11.น้ำเปล่า ¼ถ้วยตวง วิธีการทำ 1.หั่นมะเขือยาวแล้วแช่น้ำเกลือทิ้งไว้เพื่อไม่ให้ดำพักไว้ 2.ตั้งกระทะบนเตาไฟใช้ไฟกลางใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไปพอน้ำมันเริ่มร้อน ก็ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้เหลืองหอมใส่หมูสับลงไป ยีด้วยปลายตะหลิวไม่ให้หมูเกาะกันเป็นก้อน 3.พอหมูเริ่มสุกใส่พริกเร่งไฟให้แรงใส่มะเขือยาว และก็เติมน้ำผัดให้เข้ากันดี 4.ใส่ผงปรุงรส ซีอิ๊วขาว  เต้าเจี้ยวดำและน้ำตาลนิดหน่อยผัดให้เข้ากันชิมรสตา

" ข้าวแช่ " อาหารที่เพื่อนๆบางคนคงจะเคยคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว จากรุ่นต่อรุ่น นิยมทานกันช่วงหน้าร้อน เดิมนั้นเป็น อาหารชาวมอญ   มีข้าวสุกขัดแช่น้ำเย็นซึ่งเป็นน้ำดอกไม้(ส่วนมากใช้ดอกมะลิ)  ทานกับเครื่องกับข้าวต่างๆเช่นลูกกะปิพริกหยวกสอดไส้  เนื้อเค็มฝอยผัดหวาน  หัวหอมสอดไส้ และเครื่องผัดหวานต่างๆ วันนี้ครัว  Food-Trick  ขอนำเสนอสูตร    "ข้าวแช่อาหารไทยโบราณ"   มาฝากเพื่อนๆทุกคน  เพราะไม่ว่าจะอากาศแบบไหน ก็สามารถลองทำตามสูตรของเราได้นะคะ ตามไปดูกันเลย^^ วิธีการทำข้าวแช่ 1.ขั้นแรกเรานำข้าวสารเก่ามาใส่กระชอนซาวข้าวแล้วผึ่งไว้ระหว่างนั้นเราก็เปิดไฟตั้งน้ำรอเดือดไว้เลยพอน้ำเดือดก็ใส่ข้าวสารลงไปในหม้อน้ำเดือดค่ะแต่การต้มข้าวแช่นี้ไม่เหมือนข้าวต้มนะคะต้มแค่ให้ข้างนอกพอสุกไม่ต้องบานและข้างในยังเป็นไตๆอยู่ 2.พอข้าวเริ่มสุกให้บีบมะนาวสัก2ซีกลงไปในข้าวจะช่วยขจัดกลิ่นและทำให้ข้าวหมดเมือกสังเกตเม็ดข้าวจะใสขึ้นมาปิดไฟนำขึ้นมาใส่กระชอนสะเด็ดน้ำแล้วลอยในน้ำเย็นขัดข้าวให้เมือกหลุดออกจากเม็ดข้าวจนหมด 3.เมื่อขัดข้าวเรียบร้อยแล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนการนึ่งค่ะตั้งลั

เปิดตำรับ-ตำรา  อาหารไทย ประเภท แกงกะทิ   ที่มีรสชาติจัดเล็กน้อย  ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย อย่างสูตร   "ต้มข่าไก่ อร่อยโดนใจ ใช่เลย"   หอมกรุ่น กลิ่นกะทิและเครื่องสมุนไพร เหมาะสำหรับผู้ที่ ไม่ชอบทานเผ็ด  แต่จะเด็ดสักแค่ไหน ตามไปดูวัตถุดิบและวิธีทำกันเลยจ้าาา^^ วัตถุดิบ 1.สะโพกไก่เลาะกระดูกหั่นชิ้นพอคำ  300กรัม  2.เห็ด(ตามชอบ)  120กรัม  3.หัวกะทิ  3/4ถ้วยตวง  4.น้ำ  1½ถ้วยตวง  5.ข่าหั่นแว่น  6-7แว่น  6.ตะไคร้หั่นแฉลบ  1ต้น  7.ใบมะกรูดฉีก  3-4ใบ  8.ซุปก้อน  1ก้อน  9.น้ำมะนาว  2ช้อนโต๊ะ  10.น้ำปลา  2ช้อนชา  11.ผักชีฝรั่งหั่นท่อน  1ซม.1ต้นเล็ก  12.พริกขี้หนูแดงบุบ  2-3เม็ด วิธีการทำ 1.ตั้งหม้อต้มน้ำบนไฟกลางจนเดือดใส่ไก่ลงไปต้มประมาณ  5นาทีหรือจนไก่สุกนุ่มเติมหัวกะทิลงไป 2.ใส่ซุปก้อนลงไปคนให้ละลายใส่เห็ด  ข่า  ตะไคร้ใบมะกรูดลงไปต้มต่อจนสุก 3.ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาวปิดไฟ โรยหน้าด้วยใบผักชีและพริกขี้หนูจัดใส่ชามพร้อมเสิร์ฟ ***เคล็ด(ไม่)ลับ ต้มข่าไก่ควรรับประทานร้อนๆจะอร่อยและกะทิไม่เป็นไข  รสชาติจะเข้มข้นกว่า

ไม่ว่าอากาศ เมืองไทย เราจะเป็นแบบไหน ก็อร่อยได้กับ สูตรอาหาร วันนี้เลย   "ปลาแห้งแตงโม หวาน ฉ่ำ ชื่นใจ"   ทานกับ ปลาแห้ง ที่ผสมกับน้ำตาลและหอมเจียว  อร่อย  ฟินกันทั้งบ้านไปเลยคะ แต่จะมีขั้นตอนอย่างไรมาดูกันเลย  >< วัตถุดิบ 1.ปลาช่อนแห้ง  2ตัว 2.น้ำมันเจียวหอมแดง  1ช้อนโต๊ะ 3.หอมแดงซอย  ½ถ้วย 4.น้ำตาลทราย  2ถ้วย 5.แตงโมสีแดง  1/2ลูก 6.เกลือ  1/2 ช้อนโต๊ะ วิธีการทำ 1.ล้างปลาช่อนแห้งให้สะอาดซับให้แห้งแล้วนำไปปิ้งจนสุกและมีกลิ่นหอมพักไว้ 2.เมื่อปลาช่อนแห้งเย็นลงให้แกะเอาเฉพาะเนื้อปลาโดยไม่เอาหนังและก้างแล้วโขลกหรือปั่นเนื้อปลาให้ฟู 3.ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อนใส่หอมแดงซอยเจียวจนเหลืองปิดไฟกรองออกจากน้ำมันพักไว้ 4.ตั้งกระทะใส่น้ำมันหอมเจียวใช้ไฟอ่อนไฟอ่อนๆใส่เนื้อปลาลงผัดจนแห้งกรอบจากนั้นใส่หอมเจียวและน้ำตาลลงผัดให้พอเข้ากันปิดไฟตักใส่ถ้วยพักให้เย็น 5.เสิร์ฟแตงโมเคียงกับปลาแห้งวิธีรับประทานโรยปลาแห้งลงบนแตงโมรับประทานขณะที่แตงโมยังเย็นๆจะชื่นใจ ***สาระน่ารู้ -ป้องกันการสะสมของไขมันที่เป็นอันตรายกับร่างกายลดปริม

ครัว   Food-Trick   ขอนำเสนอสูตรอาหารที่ ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านมาฝากเพื่อนๆทุกคนเลยกับสูตร   "ยำกุนเชียงอร่อยครบรส"   เป็นสูตรที่ กลมกล่อม  น้ำยำก็เด็ด ทานกับกุนเชียงหวานๆ เคี้ยวกรอบๆกับแตงกวา ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พูดแล้วน้ำลายไหล ตามไปดูขั้นตอนกันดีกว้าจ้า ^^ วัตถุดิบ 1.น้ำปลา   2ช้อนโต๊ะ 2.น้ำตาลทราย   1ช้อนโต๊ะ 3.น้ำมะนาว   3ช้อนโต๊ะ 4.พริกแดงซอย  ตามชอบ 5.กุนเชียงทอด   2เส้นหั่นเฉียง 6.หอมแดง   4-5หัว 7.แตงกวาหั่น 8.คื่นช่าย  ตามชอบ วิธีการทำ 1.มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก โดยการหั่นกุนเชียงแล้วนำไปทอดให้แห้ง 2.จากนั้นทำน้ำยำใส่น้ำปลา  น้ำตาลทราย  น้ำมะนาวและพริกแดงซอย คลุกเคล้าจนน้ำตาลละลาย 3.นำกุนเจียงที่ทอดแล้ว ใส่ลงไปและใส่หอมแดง แตงกวา  คื่นช่าย แล้วคลุกให้เข้ากันอีกครั้งเสร็จแล้วตักใส่จานเสิร์ฟแซ่บๆคะ

อีกหนึ่งอาหารว่างสุดโปรด  ที่ทำให้หลายๆคนอยากย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง    "เกี๊ยวทอดกรอบอร่อยทานเพลิน"   เกี๊ยวทอดกรอบๆ แผ่นบางๆ  เสิร์ฟพร้อม น้ำจิ้มรสเด็ด หรือ น้ำจิ้มตามชอบ   รับประกันว่าทานเพลินจนเกลี้ยงจานเลยละคะ พร้อมแล้วเราไปลุยกันเล๊ยยยย^^ วัตถุดิบ 1.แผ่นเกี๊ยว   20แผ่น 2.เนื้อหมูสับละเอียด   50กรัม 3.เนื้อกุ้งสับละเอียด   50กรัม 4.รากผักชีซอย   2ช้อนชา 5.กระเทียมไทยสับละอียด(กระเทียมเม็ดเล็ก)   11/2ช้อนชา 6.น้ำตาลทราย   1ช้อนชา 7.ซีอิ๊วขาว   1ช้อนโต๊ะ 8.น้ำมันพืชใช้สำหรับทอดเกี๊ยว วิธีการทำ 1.ผสมเนื้อหมูสับและเนื้อกุ้งสับเข้าด้วยกันในชามผสมใส่รากผักชี กระเทียม ตามด้วยเครื่องปรุงรส น้ำตาล ซีอิ๊วขาวนวดผสมให้เข้ากันดี 2.แผ่แผ่นเกี๊ยวใส่ไส้หมุและกุ้งที่ผสมไว้ตรงกลางแผ่นเกี๊ยว พับแผ่นเกี๊ยวให้เป็นรูปสามเหลี่ยม แล้วแตะน้ำเปล่าหรือใช้ไข่แดงปิดขอบแผ่นเกี๊ยว 3.ใส่น้ำมันพืชสำหรับทอดลงในกระทะใช้ไฟปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนนำเกี๊ยวที่ทำไว้ลงทอดให้กรอบเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันจัดใส่จาน

ครัว  Food-Trick  มาแนะนำความอร่อย สูตรพิเศษ ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยอาหารชามนี้มีความพิเศษตรงที่การนำ (ลิ้นจี่)  มาเป็นส่วนผสมในการทำอาหาร    "แกงเผ็ดหมูกรอบลิ้นจี่อร่อยจัดจ้านลงตัว"   รสชาติพูดเลยว่าเด็ดมากๆ ยิ่งมีหมูกรอบด้วย ยิ่งฟินเข้าไปใหญ่  ชามนี้ทั้งแซ่บ เปรี้ยว หวาน  โอ๊ยยยยยย...จะอร่อยอะไรเบอร์นั้น ตามไปจดสูตรกันเลยดีกว่าคะ ^^ วัตถุดิบ 1.หมูกรอบ       1ถ้วย 2.ลิ้นจี่        10ลูก 3.พริกแกงเผ็ด      1 ช้อนโต๊ะ 4.กะทิ     1ถ้วยตวง 5.น้ำเปล่าผสมกะทิ    1ถ้วยตวง(อัตราส่วน2:2) 6.น้ำปลา      ½ช้อนโต๊ะ 7.น้ำตาลปี๊บ      ½ช้อนโต๊ะ 8.ใบโหระพา     ¼ถ้วยตวง 9.ใบมะกรูด       3ใบ 10.ผักบุ้งหั่นท่อน    10ต้น 11.พริกแห้ง วิธีการทำ 1.ตั้งหม้อด้วยไฟอ่อนเทกะทิ  1ถ้วยตวงเคี่ยวจนเดือดจัดมีกลิ่นหอม 2.ใส่เครื่องแกงลงไปตามด้วยใบมะกรูดและหมูกรอบคลุกเคล้าให้เข้ากัน 3.เร่งไฟปานกลางเทกะทิที่ผสมน้ำไว้แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ 4.จากนั้นใส่ผักบุ้งที่หั่นไว้และลิ้นจี่ตามลงไป 5.ต้มจนเดือดอีกครั้งใส่ใบโหระพาพริกแห้งปิดไฟตักใส่ชามพ

เอาใจเด็กๆกันหน่อยคะ กับ อาหารทานเล่น ทีสามารถ ทำง่าย อย่างสูตร   'ทอดมันกุ้งกัดคำไหนก็อร่อย'    โดยการนำเนื้อกุ้งชุบกับเกล็ดขนมปัง  แล้วนำไปทอดจนสีเหลือง กรอบ  ทานกับน้ำจิ้มบ๊วยหวานๆ  หรือซอสตามชอบ รับประกันได้เลยคะว่าเด็กๆต้องติดใจอย่างแน่นอน ^^ วัตถุดิบ 1.กุ้งสดปอกเปลือกผ่าหลัง  400กรัม  2.หมูสับติดมัน  200กรัม  3.ผงปรุงรส  1ช้อนโต๊ะ  4.รากผักชีกระเทียมพริกไทยโขลกละเอียด  1ช้อนโต๊ะ  5.น้ำมันงา(ประมาณ¼ช้อนชา)  2กรัม  6.เกล็ดขนมปังป่น  (50กรัม)1ถ้วย  7.น้ำมันสำหรับทอด  1ถ้วย  8.ไข่ไก่  1ฟอง  9.น้ำจิ้มบ๊วย หรือตามชอบ วิธีการทำ 1.ปั่นเนื้อกุ้งกับหมูรวมกันจนละเอียด แล้วนำไปแช่แข็งจนเย็นจัด  ประมาณ10-15นาทีเพื่อให้ส่วนผสมไม่เหลวจะได้ปั้นง่าย 2.ใส่รากผักชีกระเทียมพริกไทยโขลกละเอียดผงปรุงรสและน้ำมันงาลงไปตอกไข่ใส่ลงไปแล้วนวดจนเหนียวเข้ากันดี 3.ปั้นส่วนผสมเป็นก้อนกลมแบนแล้วใช้นิ้วเจาะรูตรงกลางให้เป็นรูปทรงคล้ายโดนัท 4.นำทอดมันกุ้งที่ปั้นแล้วไปแช่แข็งอีกครั้งประมาณ15นาทีเพื่อให้ไม่เละเวลานำไปทอด 5.นำทอดมันกุ้งออกมาคลุกกับเกล็ดข

"ตับหวาน"   นับเป็นอีกหนึ่ง ความอร่อย ของอาหารอิสาน  ที่นิยมทานกันไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่  ส่วนมากจะเห็นตามร้านขายส้มตำเท่านั้น บางร้านก็ให้น้อย  บางร้านตับก็แข็งเกินไป ไม่ต้องกังวลคะ  เพราะวันนี้  Food-Trick  ขอจัดเต็มกับสูตร   "ตับหวานจัดจ้านแซ่บเว่อร์"    เลือกตับสดๆ  มารวนนำร้อนให้สุกพอดี  ปรุงรสชาติตามใจชอบ แล้วปิดท้ายด้วยข้าวคั่วหอมๆ งานนี้บอกเลยว่าแซ่บ แถมอิ่ม อร่อยกันยกใหญ่เลยละคะ>< วัตถุดิบ 1.น้ำเปล่า 2.ตับหมู  300กรัม 3.น้ำปลา  3ช้อนโต๊ะ 4.มะนาว  11/2ลูก 5.พริกป่น  ตามชอบ 6.หอมแดง  ตามชอบ 7.ข้าวคั่วตำหยาบ  ตามชอบ 8.ผักชีฝรั่งซอย 9.ต้นหอมซอย 10.ใบสะระแหน่ วิธีารทำ 1.ใส่น้ำเปล่าลงไปในหม้อพอขลุกขลิกให้ตับลงไปรวนให้พอสุก 2.ปรุงรสด้วยน้ำปลา  น้ำมะนาว และพริกแดงป่นแล้วคนให้ทั่ว 3.ใส่หอมแดงข้าวคั่ว ผักชีฝรั่ง  ต้นหอยซอยและใบสะระแหน่คนให้เข้ากันอีกครั้งเสร็จแล้วปิดไฟใส่จานเสิร์ฟได้เลย ***สาระน่ารู้ รวนตับให้สุกในระดับปานกลาง สามารถบำรุงเลือดได้ดีคะ