ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สูตร " หมี่กรอบชาววัง เปรี้ยว หวาน ทานเพลิน "


 "หมี่กรอบชาววัง เปรี้ยวหวานทานเพลิน  "   


ขึ้นชื่อว่าอาหารชาววัง ก็ต้องมีเครื่องเยอะและพิถีพิถันกันใช่ไหมละคะ  ซึ่งอาหารที่ food-trickนำมาแนะนำในวันนี้  มีส้มซ่าเป็นส่วนผสมที่สำคัญในการปรุงอาหากับสูตร  "หมี่กรอบชาววัง เปรี้ยวหวานทานเพลิน  "   โดยเป็นการนำเสนอตำรับของ(หม่อมหลวงพวงทินกรฯ)ราชสกุลทินกร  รสชาติอร่อย เข้มข้นสุดๆ  รับประกันได้เลยไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ได้ทานต้องติดใจคะ ^^



วัตถุดิบ
1.เส้นหมี่ห่อเล็ก  1ห่อ400กรัมโดยประมาณ  
2.เนื้อหมูหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ  500กรัม 
3.กุ้งนาง  4ตัว[มากน้อยตามชอบ] 
4.เต้าหู้แข็งหั่นเล็กๆ  2ชิ้น 
5.ไข่เป็ด  2ฟอง 
6.ใบกุยช่ายหั่นท่อน  1ถ้วยตวง 
7.กระเทียมดองหั่นแว่น  1ถ้วยตวง 
8.ถั่วงอก  200กรัม 
9.พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย  2เม็ด 
10.ผักชีเด็ดเป็นใบสักเล็กน้อย 
11.ผลส้มซ่า  1ลูก 
12.หอมแดง  3หัว 
13.กระเทียม  3กลีบ


เครื่องน้ำปรุง
1.น้ำส้มสายชู3ช้อนโต๊ะ  
2.เต้าเจี้ยว1ช้อนโต๊ะ 
3.น้ำตาลทราย10ช้อนโต๊ะ 
4.น้ำปลา3ช้อนโต๊ะ 
5.ส้มมะขามเปียก3ช้อนโต๊ะ 
6.น้ำมะนาว2ช้อนโต๊ะ 
7.น้ำส้มซ่า2ช้อนโต๊ะถ้าไม่มีหรือหาไม่ได้ให้ใช้น้ำมะนาวแทน1ช้อนโต๊ะ 


วิธีทำเส้นหมี่กรอบ
1.เตรียมเส้นหมี่สำหรับทอด

โดยแกะเส้นหมี่ออกจากห่อนำไปแช่น้ำอุ่นประมาณ5นาทีนำขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำผสมน้ำเปล่า2ถ้วยกับน้ำส้มสายชู3ช้อนโต๊ะเตรียมไว้
2.นำเส้นหมี่ที่สะเด็ดน้ำจนหมาดๆแล้วใส่ลงในหม้อใบใหญ่ที่มีฝาปิดมิดนำน้ำเปล่าผสมกับน้ำส้มสายชูที่เตรียมไว้พรมให้ทั่วหมี่ปิดฝาทิ้งไว้5นาทีพลิกเส้นหมี่กลับไปมาพรมน้ำซ้ำอีกครั้งปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ10-15นาทีด้วยวิธีการเช่นนี้จะทำให้เส้นหมี่นุ่มนิ่มขึ้น
3.กระทะใส่น้ำมันตั้งไฟอ่อนรอให้น้ำมันร้อนเวลาทอดทอดทีละน้อยถ้าเส้นเปียกน้ำมันจะกระเด็นถ้าเป็นเส้นแห้งคลี่เส้นออกก่อนทอดไม่อย่างนั้นเส้นจะไม่พองออกจับตัวกันเป็นก้อนทอดเสร็จใส่ภาชนะพักไว้ให้เย็นแล้วปิดฝาเส้นหมี่



วิธีทำน้ำปรุงหมี่
1.ปอกเปลือกหอมแดงและกระเทียมล้างให้สะอาดแล้วนำมาสับรวมกันให้ละเอียดมากๆแล้วพักไว้
2.หั่นหมูเนื้อแดงเป็นเส้นยาวประมาณ2ซม.ปอกเปลือกกุ้งนางล้างให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
3.ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยพอร้อนใส่หอมกับกระเทียมสับละเอียดเจียวสักครู่พอเริ่มเหลืองใส่หมูและกุ้งลงไปผัดใส่เต้าเจี้ยว1ช้อนโต๊ะผัดไปสักครู่ให้ได้กลิ่นหอมๆใส่เนื้อหมูหรือเนื้อไก่สับกุ้งสับละเอียดหรือจะใส่กุ้งทั้งตัวก็ได้นะคะ
4.เติมน้ำตาลทรายลงไปในกระทะคนจนน้ำตาลทรายละลายหมดเติมน้ำส้มมะขามเปียกน้ำมะนาวน้ำปลาโดยปรุงให้ออกรสหวานเปรี้ยวนำ


5.ล้างผลส้มซ่าคั้นเอาแต่น้ำใส่ลงในน้ำปรุงหมี่ที่ผัดในกระทะหั่นผิวส้มซ่าเป็นเส้นเล็กๆบางๆแล้วแยกไว้สำหรับโรยหน้าหมี่หั่นผิวส้มซ่าต้องระวังอย่าให้ติดผิวสีข้าวใต้เปลือกจะทำให้มีรสขม


6.ชิมรสน้ำปรุงที่เคี่ยวในกระทะเมื่อได้รสที่ต้องการตักเนื้อหมูเนื้อกุ้งพักไว้ในถ้วยเคี่ยวน้ำที่เหลือในกระทะต่อจนเหนียวข้นสาเหตุที่ให้พักเนื้อหมูและกุ้งเพราะจะทำให้แข็งเมื่อน้ำเหนียวข้นแล้วค่อยนำเนื้อหมูและเนื้อกุ้งกลับลงไปคนผสมต่อแล้วค่อยตักขึ้นใส่ชามพักรอไว้
7.ตั้งกระทะเตรียมคลุกหมี่โดยใช้ไฟกลางตักน้ำปรุงหมี่ลงอุ่นใส่เส้นหมี่ที่ทอดไว้ลงไปให้เส้นหมี่กระจายแล้วคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันถ้วนทั่วเส้นหมี่สีแดงสดสวยโดยไม่ต้องเติมสีหรือใส่น้ำสีแดงใดๆลงไปสีแดงจากมันแดงตรงหัวกุ้งสดเราก็ได้สีแดงแบบธรรมชาติแล้วค่ะก่อนเสิร์ฟตักใส่จานโรยหน้าตกแต่งให้สวยงามด้วยกระเทียม







***เคล็ดลับในการปรุง
การปรุงรสน้ำคลุกหมี่จะต้องมีส่วนผสมน้ำปรุงรส  5ชนิดอันได้แก่ น้ำส้มซ่า ส้มมะขามเปียกน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปีบที่สำคัญถ้าขาดส้มซ่าจะทำให้เสียรสชาติเพราะทั้งน้ำส้มซ่าที่เป็นส่วนผสมของน้ำปรุงและเปลือกที่นำมาหั่นฝอยๆแล้วโรยหน้าจะให้กลิ่นหอมเวลาทานถือเป็นเสน่ห์ของหมี่กรอบชาววังสูตรโบราณและการใส่หัวมันกุ้งลงไปเพื่อให้ตัวหมี่มีสีแดงธรรมชาติของน้ำปรุง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สูตร กล้วยน้ำว้าเชื่อม

กล้วยน้ำว้าเชื่อม ผิวและเนื้อดี ไม่เละ วิธีทำง่าย แต่ใช้เวลาเยอะ ราดหัวกะทิที่เค็มปะแล่ม หรือหั่นเป็นชิ้นกินกับน้ำแข็งก็สุดยอด ส่วนผสม ============================ - กล้วยน้ำว้า (ห่าม) เปลือกสีกระดังงา - เกลือ น้ำสะอาด (แช่กล้วย) - น้ำตาลทราย ถ้ามีสีรำก็จะดี ไม่มีก็ใช้สีขาว - น้ำตาลมะพร้าว ชั่งรวมกับน้ำตาลทรายได้ประมาณ 400 - 500 กรัม ลดได้ - น้ำสะอาด 1000 กรัม - เกลือ 1 หยิบนิ้ว - มะนาว 1 เซี่ยว - ใบเตยหอม ล้างสะอาด - หัวกะทิ เกลือ แป้งข้าวเจ้า วิธีทำ =========================== - ผสมน้ำกับเกลือ กะให้พอท่วมกล้วย - ปอกเปลือกแล้วหั่นกล้วยตามขวาง 2 ท่อน หรือผ่า 4 - แช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที - ตั้งกระทะ ใส่น้ำสะอาด ใบเตย ใส่น้ำตาลสองชนิด เปิดไฟ - เมื่อน้ำตาลละลายจนหมด ใส่เกลือ รอเดือด ล้างกล้วยที่แช่น้ำเกลือไว้ หย่อนกล้วยใส่กระทะ - เดือดสักครู่ ปรับเป็นไฟอ่อน มีฟอง ให้ช้อนทิ้งไป วักน้ำเชื่อมในกระทะ ราดกล้วยด้านบนเป็นระยะ สามารถเติมน้ำได้อีก - กระทะนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที 2ชั่วโมง เมื่อกล้วยเงาสวย ก่อนตักขึ้น ให้ใส่น้ำมะนาว แล้วคนเบามือ - ตักใส่จาน เตรียมทำน้ำกะทิ ราด -

สูตรลาบเป็ด

ลาบเป็ด เมนูนี้ใครที่ไปร้านส้มตำต้องเคยกินกันแล้วแน่นอน ถือได้ว่าเป็นอาหารอีสานยอดนิยมเลยทีเดียว เนื้อเป็ดที่สับละเอียดเอามาทำเป็นลาบที่ได้รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นข้าวคั่ว ทานเป็นกับแกล้มหรือทานกับข้าวเหนียวร้อนอร่อยแน่นอนครับ วัตถุดิบลาบเป็ด  1. น้ำตาลทราย 1/2 ชช. 2. น้ำปลา 1/2 ชต. 3. พริกป่น 1/2 ชต. 4. เนื้ออกเป็ด 150 กรัม 5. มะนาว 1/2 ลูก 6. หอมแดงซอย 2 ชต 7. พริกแห้งทอด 6-7 เม็ด 8. ข้าวคั่ว 1 ชต. 9. ต้นหอม 2 ต้น 10. ผักชีฝรั่ง 2 ต้น 11. ใบสาระแหน่ 1 ต้น 12. น้ำซุปไก่ 1 ทัพพี วิธีทำลาบเป็ด  1.ซอยต้นหอม , ผักชีฝรั่งเตรียมไว้ จากนั้นสับเนื้อเป็ดให้ละเอียดปานกลาง 2.เติมน้ำซุปไก่ลงในหม้อ ตามด้วยเนื้อเป็ดและรวนให้สุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ,น้ำตาล , พริกป่น , ข้าวคั่ว คนให้เข้ากันปิดแก็สแล้วจึงเติมน้ำมะนาวลงไป 3.เติมหอมแดง , ต้นหอม ,ผักชีฝรั่ง และคลุกให้เข้ากัน เด็ดใบสาระแหน่โรยหน้าตามด้วยพริกทอดเป็นอันเสร็จ

วิธีทำ ซาลาเปาไส้ถั่วดำ(จีน)

ส่วนผสมตัวแป้ง 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 400 กรัม 2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม 3. ผงฟู 20 กรัม 4. ยีสต์แห้ง 20 กรัม 5. เนยขาว 20 กรัม 6. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 20 กรัม 7. น้ำเปล่า 200 กรัม ส่วนผสมไส้ถั่วดำ 1. ถั่วดำเม็ดเล็กคั่วให้หอมแช่น้ำ 1 คืน 2 ถ้วยตวง 2. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง 3. เนยจืดสด 50 กรัม วิธีทำซาลาเปาไส้ถั่วดำ Bean Bun วิธีทำแป้งซาลาเปา 1. นำน้ำอุ่นมาใส่ลงในยีสต์ให้ท่วมเล็กน้อยรอจนยีสต์ตื่น 2. นำแป้งสาลี น้ำตาลทรายขาว ผงฟู ผสมให้เข้ากัน 3. ใส่เนยขาว ยีสต์ ตามด้วยโยเกิร์ตผสมให้เข้ากัน และค่อยๆใส่น้ำลงไปนวดจนเป็นโดว์ และเนียนเข้ากันดี ใช้พลาสติกคลุมไว้ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 35-40 องศา จนแป้งขึ้นฟู ประมาณ 1-2 ชม 4. นำแป้งนวลมาโรยพื้นที่จะทำการปั้นแป้ง แล้วแบ่งแป้งออกมาปั้นเป็นก้อน ขนาดก้อนละ 20-25 กรัม วิธีทำไส้ถั่วดำ 1. นำถั่วดำ ต้มจนนิ่ม กรองน้ำออก 2. นำถั่วดำไปบด และกรองผ่านตะแกรง 3. ผสมเนยจืด น้ำตาลทราย พักให้เย็น 4. นำแป้งมาแผ่ออกใส่ไส้ตรงกลางแล้วห่อคุมให้มิด ใส่กระดาษรองซาลาเปาโดยการใช้น้ำแปะตรงก้นซาลาเปาเล็กน้อย แล้ววางลงกลางกระดาษ วิธีนี้จะช่วยให้เมื่อซาลาเป