ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ต้มจืดฟักใส่กระดูกหมู

สูตรอาหารไทย เมนูอาหารประเภทต้ม : ต้มจืดฟักใส่กระดูกหมู ช่วงนี้เข้าหน้าหนาว อากาศเริ่มเย็น ลมพัดโบกโบย แต่บางวันก็ร้อน เรียกได้ว่า อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย จนอาจทำให้หลายท่านเจ็บไข้ได้ป่วยได้ หากรู้สึกไม่สบายก็ทานอาอารประเภทต้ม ทานน้ำชุบร้อน ช่วยได้มากทีเดียว สำหรับเมนูยอดฮิตเมนูหนึ่งคือ  ต้มจืดฟักใส่กระดูกหมู ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ทำให้ร่างกายสดชื่นมีเรียวแรงขึ้นมาได้ดีเชียว ฟักอ่อนนั้นเป็นผักที่มีสรรพคุณทางยา ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้หลอดลมอักเสบ ช่วยขับปัสสาวะ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมน้ำ แก้ธาตุพิการอีกด้วย ประโยชน์มากมายขนาดนี้ สงสัยเย็นนี้ครัวจะต้องมาทำต้มจืดทานสักถ้วยแล้วล่ะ ดังนั้น ลองมาดูสูตรต้มจืดฟักใส่กระดูกหมูกันเลย ที่มีวิธีทำง่ายๆตามนี้ครับ....

ต้มจืดฟักใส่กระดูกหมู
เครดิตรูปจากครัวดงละคอน@Oknation.net
ส่วนประกอบและเครื่องปรุง
  • ฟักเขียวอ่อน 1 ลูกเล็ก ปอกเปลือกล้าง หั่นเป็นชิ้นให้เรียบร้อย
  • เห็ดหอมแห้ง 4-5 ดอก (แช่น้ำให้นิ่ม หั่นเป็นชิ้น)
  • กระดูกหมู 500 กรัม (ครึ่งกิโลกรัม)
  • รากผักชีทุบ 5 ราก
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1 ก้อน (ใช้แบบไม่มีผงชูรส)
  • กระเทียมปอกเปลือกทุบพอแตก 7 กลีบ
  • แครอทและต้นหอมหั่น (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ชอบ)
เครื่องปรุงต้มจืดกระดูกหมู

ขั้นตอนและวิธีทำ
  1. นำหม้อใส่น้ำสะอาดตั้งไฟ ใส่รากผักชีลงไป  
  2. พอน้ำเดือด ใส่กระดูกหมูลงไป ขั้นตอนนี้สำคัญ หลังจากใส่กระดูกหมูลงไปแล้ว เปิดไฟแรง ให้น้ำเดือดจัด (น้ำจะมีฟองพุดๆ) แล้วหรี่ไฟลงทันที ใช้ไฟอ่อนๆ เคี่ยวกระดูกหมูประมาณ 30 นาที วิธีนี้จะทำให้น้ำต้มใส ไม่ขุ่น
  3. นำฟักอ่อนและเห็ดหอมใส่ลงไปปรุงรสด้วยเกลือป่น ผงปรุงรส  ซีอิ๊วขาว ชิมรสชาติตามชอบ
  4. ต้มต่อไปด้วยไฟอ่อนๆ จนฟักสุก และกระดูกหมูจะนุ่ม การสังเกตุดูฟักสุกนั้น เนื้อฟักจะใส นิ่ม ก็เป็นอันใช้ได้ครับ (ข้อแนะนำ ระวังอย่าใช้ไฟแรงหรือน้ำเดือดพล่านจะทำให้น้ำซุปขุ่น หมั่นช้อนฟองและไขมันออกเรื่อยๆ จะทำให้น้ำซุปใสน่ารับประทาน)
  5. ชิมรสชาติปรุงรสตามชอบอีกครั้ง ใส่ต้นหอม ปิดไฟได้เลย
  6. ตักให้ถ้วย โรยผักชี เหยาะพริกไทยเล็กหน่อย เสริฟกับข้าวสวยร้อนๆ 

มื้อเย็นวันนี้ ไม่รู้จะทานอะไรดี นึกเมนูอะไรไม่ออก ก็ขอแนะนำต้มจืดฟักกระดูกหมู ต้มหม้อใหญ่ๆ ทานได้หลายๆ คน อีกทั้งเก็บไว้อุ่นทานตอนเช้าได้อีกด้วย อิ่มกาย อิ่มใจ สุขภาพดีไปอีกมื้อ



ที่มา:zabwer

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สูตร กล้วยน้ำว้าเชื่อม

กล้วยน้ำว้าเชื่อม ผิวและเนื้อดี ไม่เละ วิธีทำง่าย แต่ใช้เวลาเยอะ ราดหัวกะทิที่เค็มปะแล่ม หรือหั่นเป็นชิ้นกินกับน้ำแข็งก็สุดยอด ส่วนผสม ============================ - กล้วยน้ำว้า (ห่าม) เปลือกสีกระดังงา - เกลือ น้ำสะอาด (แช่กล้วย) - น้ำตาลทราย ถ้ามีสีรำก็จะดี ไม่มีก็ใช้สีขาว - น้ำตาลมะพร้าว ชั่งรวมกับน้ำตาลทรายได้ประมาณ 400 - 500 กรัม ลดได้ - น้ำสะอาด 1000 กรัม - เกลือ 1 หยิบนิ้ว - มะนาว 1 เซี่ยว - ใบเตยหอม ล้างสะอาด - หัวกะทิ เกลือ แป้งข้าวเจ้า วิธีทำ =========================== - ผสมน้ำกับเกลือ กะให้พอท่วมกล้วย - ปอกเปลือกแล้วหั่นกล้วยตามขวาง 2 ท่อน หรือผ่า 4 - แช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที - ตั้งกระทะ ใส่น้ำสะอาด ใบเตย ใส่น้ำตาลสองชนิด เปิดไฟ - เมื่อน้ำตาลละลายจนหมด ใส่เกลือ รอเดือด ล้างกล้วยที่แช่น้ำเกลือไว้ หย่อนกล้วยใส่กระทะ - เดือดสักครู่ ปรับเป็นไฟอ่อน มีฟอง ให้ช้อนทิ้งไป วักน้ำเชื่อมในกระทะ ราดกล้วยด้านบนเป็นระยะ สามารถเติมน้ำได้อีก - กระทะนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที 2ชั่วโมง เมื่อกล้วยเงาสวย ก่อนตักขึ้น ให้ใส่น้ำมะนาว แล้วคนเบามือ - ตักใส่จาน เตรียมทำน้ำกะทิ ราด -

สูตรลาบเป็ด

ลาบเป็ด เมนูนี้ใครที่ไปร้านส้มตำต้องเคยกินกันแล้วแน่นอน ถือได้ว่าเป็นอาหารอีสานยอดนิยมเลยทีเดียว เนื้อเป็ดที่สับละเอียดเอามาทำเป็นลาบที่ได้รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นข้าวคั่ว ทานเป็นกับแกล้มหรือทานกับข้าวเหนียวร้อนอร่อยแน่นอนครับ วัตถุดิบลาบเป็ด  1. น้ำตาลทราย 1/2 ชช. 2. น้ำปลา 1/2 ชต. 3. พริกป่น 1/2 ชต. 4. เนื้ออกเป็ด 150 กรัม 5. มะนาว 1/2 ลูก 6. หอมแดงซอย 2 ชต 7. พริกแห้งทอด 6-7 เม็ด 8. ข้าวคั่ว 1 ชต. 9. ต้นหอม 2 ต้น 10. ผักชีฝรั่ง 2 ต้น 11. ใบสาระแหน่ 1 ต้น 12. น้ำซุปไก่ 1 ทัพพี วิธีทำลาบเป็ด  1.ซอยต้นหอม , ผักชีฝรั่งเตรียมไว้ จากนั้นสับเนื้อเป็ดให้ละเอียดปานกลาง 2.เติมน้ำซุปไก่ลงในหม้อ ตามด้วยเนื้อเป็ดและรวนให้สุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ,น้ำตาล , พริกป่น , ข้าวคั่ว คนให้เข้ากันปิดแก็สแล้วจึงเติมน้ำมะนาวลงไป 3.เติมหอมแดง , ต้นหอม ,ผักชีฝรั่ง และคลุกให้เข้ากัน เด็ดใบสาระแหน่โรยหน้าตามด้วยพริกทอดเป็นอันเสร็จ

วิธีทำ ซาลาเปาไส้ถั่วดำ(จีน)

ส่วนผสมตัวแป้ง 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 400 กรัม 2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม 3. ผงฟู 20 กรัม 4. ยีสต์แห้ง 20 กรัม 5. เนยขาว 20 กรัม 6. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 20 กรัม 7. น้ำเปล่า 200 กรัม ส่วนผสมไส้ถั่วดำ 1. ถั่วดำเม็ดเล็กคั่วให้หอมแช่น้ำ 1 คืน 2 ถ้วยตวง 2. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง 3. เนยจืดสด 50 กรัม วิธีทำซาลาเปาไส้ถั่วดำ Bean Bun วิธีทำแป้งซาลาเปา 1. นำน้ำอุ่นมาใส่ลงในยีสต์ให้ท่วมเล็กน้อยรอจนยีสต์ตื่น 2. นำแป้งสาลี น้ำตาลทรายขาว ผงฟู ผสมให้เข้ากัน 3. ใส่เนยขาว ยีสต์ ตามด้วยโยเกิร์ตผสมให้เข้ากัน และค่อยๆใส่น้ำลงไปนวดจนเป็นโดว์ และเนียนเข้ากันดี ใช้พลาสติกคลุมไว้ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 35-40 องศา จนแป้งขึ้นฟู ประมาณ 1-2 ชม 4. นำแป้งนวลมาโรยพื้นที่จะทำการปั้นแป้ง แล้วแบ่งแป้งออกมาปั้นเป็นก้อน ขนาดก้อนละ 20-25 กรัม วิธีทำไส้ถั่วดำ 1. นำถั่วดำ ต้มจนนิ่ม กรองน้ำออก 2. นำถั่วดำไปบด และกรองผ่านตะแกรง 3. ผสมเนยจืด น้ำตาลทราย พักให้เย็น 4. นำแป้งมาแผ่ออกใส่ไส้ตรงกลางแล้วห่อคุมให้มิด ใส่กระดาษรองซาลาเปาโดยการใช้น้ำแปะตรงก้นซาลาเปาเล็กน้อย แล้ววางลงกลางกระดาษ วิธีนี้จะช่วยให้เมื่อซาลาเป