ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แกงกิมจิ อาหารเกาหลี เมนูเพื่อสุขภาพ ทำเองอร่อยเหมือนกินที่ร้าน

 วิธีทำแกงกิมจิโฮมเมดกินเองที่บ้าน เมนูอาหารเกาหลี สุดฮิต เอาใจแฟนคลับเกาหลี เหมาะกับสาว ๆ ที่รักสุขภาพ ไม่ใส่กะทิ แคลอรีต่ำ กินเป็นมื้อเย็นก็อิ่มท้องแบบเบา ๆ ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน

          เทรนด์อาหารเกาหลีกำลังฮิต แกงกิมจิก็กำลังฮอต ใครใคร่อยากทำแกงกิมจิ หรือที่รู้จักกันว่า กิมจิชิเกะ กินเองที่บ้านบ้าง ก็ไม่อยากจะไปเข้าคิวให้เมื่อยตามร้านอาหารเกาหลี วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำสูตรวิธีทำแกงกิมจิ จาก คุณ Rita_Bunny สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝาก เหมาะทำทานเองในครอบครัว และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ที่กำลังหาเมนูอาหารลดน้ำหนักอยู่ เพราะเต็มไปด้วยผักกิมจิ ไม่ใส่กะทิ กินมื้อเย็นก็ผอมได้

 >> หนูกระต่ายชวนเข้าครัว << ... แกงกิมจิ (김치찌개) โดย คุณ Rita_Bunny สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          แกงกิมจิ (김치찌개) (คิมชี ชีเก)


แกงกิมจิ

แกงกิมจิ

 ส่วนผสม

           เบคอนหั่น หรือหมูสามชั้นหั่นชิ้น 100 กรัม
          ผงกระเทียม 1 ช้อนชา (หรือกระเทียมสับ 3 กลีบ)
          ขิงผง 1 ช้อนชา (หรือขิงสับ 1 ช้อนชา)
          พริกป่น หรือพริกเกาหลี 1/4 ช้อนชา
          กิมจิ 150-200 กรัม
          น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
          ดาชิ (ผงซุปปลา) 2 ช้อนโต๊ะ (ซุปก้อนไก่หรือหมู 1/2 ก้อน หรือน้ำที่แช่ปลาแห้งปริมาณพอเหมาะ)
          โคชูจัง (พริกแกงเกาหลี) 1-2 ช้อนโต๊ะ
          มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) หรือเต้าเจี้ยวไทย 1 ช้อนโต๊ะ
          เต้าหู้คินุ หรือเต้าหู้ใบตองหั่นเต๋าใหญ่ 1/2-1 ก้อน
          ไข่ไก่ 1 ฟอง
          ต้นหอมญี่ปุ่น หรือต้นหอมไทยหั่นท่อน


แกงกิมจิ

วิธีทำ

           1. นำเบคอนลงไปผัดในกระทะพอให้มีน้ำมันออกมาแล้วใส่กระเทียม ขิง และพริกป่นลงไปผัดให้เข้ากัน
          2. หลังจากผัดเบคอนจนหอมแล้วจึงใส่กิมจิ (พร้อมน้ำกิมจิ) ลงไปผัด
          3. ใส่น้ำเปล่าลงไป
          4. ปรุงรสด้วยผงซุปปลา
          5. ใส่โคชูจัง
          6. ใส่มิโซะลงไปคนให้เข้ากัน
          7. ใส่เต้าหู้ลงไป รอสักครู่เพื่อให้เต้าหู้ดูดซึมน้ำซุปเข้าไป (ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที)
          8. ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป ปิดไฟ


แกงกิมจิ

           ตักใส่ชาม โรยต้นหอม พร้อมเสิร์ฟ

          สำหรับคนที่ไม่เคยทานแกงกิมจิต้องลองมาทำทานดูนะคะ แม้หน้าตาสีสันจะดูจัดจ้าน แต่รสชาติไม่ได้เผ็ดอย่างที่คิด ออกเปรี้ยว เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก กินเป็นอาหารเย็นเบา ๆ ท้อง กินเพียว ๆ ก็อร่อย หรือจะกินกับข้าวกล้องก็ได้เช่นกันค่ะ แวะไปชมสูตรอาหารอย่างอื่นได้ที่ เฟซบุ๊ก ทำอาหารในแบบง่ายๆ ตามสไตล์ Rita นะคะ มีแต่สูตรอาหารดี ๆ น่ากิน ๆ ทั้งนั้นเลย เห็นแล้วน้ำลายจะไหล
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ Rita_Bunny สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก ทำอาหารในแบบง่ายๆ ตามสไตล์ Rita

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีทำ ซาลาเปาไส้ถั่วดำ(จีน)

ส่วนผสมตัวแป้ง 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 400 กรัม 2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม 3. ผงฟู 20 กรัม 4. ยีสต์แห้ง 20 กรัม 5. เนยขาว 20 กรัม 6. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 20 กรัม 7. น้ำเปล่า 200 กรัม ส่วนผสมไส้ถั่วดำ 1. ถั่วดำเม็ดเล็กคั่วให้หอมแช่น้ำ 1 คืน 2 ถ้วยตวง 2. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง 3. เนยจืดสด 50 กรัม วิธีทำซาลาเปาไส้ถั่วดำ Bean Bun วิธีทำแป้งซาลาเปา 1. นำน้ำอุ่นมาใส่ลงในยีสต์ให้ท่วมเล็กน้อยรอจนยีสต์ตื่น 2. นำแป้งสาลี น้ำตาลทรายขาว ผงฟู ผสมให้เข้ากัน 3. ใส่เนยขาว ยีสต์ ตามด้วยโยเกิร์ตผสมให้เข้ากัน และค่อยๆใส่น้ำลงไปนวดจนเป็นโดว์ และเนียนเข้ากันดี ใช้พลาสติกคลุมไว้ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 35-40 องศา จนแป้งขึ้นฟู ประมาณ 1-2 ชม 4. นำแป้งนวลมาโรยพื้นที่จะทำการปั้นแป้ง แล้วแบ่งแป้งออกมาปั้นเป็นก้อน ขนาดก้อนละ 20-25 กรัม วิธีทำไส้ถั่วดำ 1. นำถั่วดำ ต้มจนนิ่ม กรองน้ำออก 2. นำถั่วดำไปบด และกรองผ่านตะแกรง 3. ผสมเนยจืด น้ำตาลทราย พักให้เย็น 4. นำแป้งมาแผ่ออกใส่ไส้ตรงกลางแล้วห่อคุมให้มิด ใส่กระดาษรองซาลาเปาโดยการใช้น้ำแปะตรงก้นซาลาเปาเล็กน้อย แล้ววางลงกลางกระดาษ วิธีนี้จะช่วยให้เมื่อซาลาเป...

สูตร ถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน

ส่วนผสมถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน 1. ถั่วลิสงเม็ดใหญ่ 300 กรัม 2. น้ำตาลทราย 200 กรัม 3. น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง 4. เกลือ 1 ช้อนชา 5. โอวัลติน 1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ 6. งาขาวคั่ว ตามชอบ วิธีการทำถั่วกรอบแก้วโรยงา หอมกลิ่นโอวัลติน 1. นำน้ำ น้ำตาลทราย ถั่วลิสง โอวัลติน ใส่ในกระทะ ใช้ไฟปานกลางถึงแรงเล็กน้อยเคี่ยวจนน้ำใกล้งวด (ประมาณ 15 นาที) ให้คอยคนกันน้ำตาลติดกระทะ 2. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำแห้งหมด น้ำตาลจะตกทราย ให้ลดไฟเบา แล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำตาลเริ่มเยิ้มเล็กน้อย 3. เมื่อน้ำตาลเริ่มเยิ้มพอประมาณ ให้ใส่เกลือ ลงไป 4. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลเยิ้มจนเคลือบถั่วเป็นเงาแวววาว ใช้ตะหลิวคนตลอด แล้วจึงใส่งาคลุกให้ทั่ว และปิดไฟ 5. ยกลงและเทลงในภาชนะกระจายถั่วให้แยกจากกัน รอจนเย็น กรอบ 6.ใส่ถุง หรือขวดโหล ปิดให้สนิท พร้อมรับประทาน ****เคล็ดลับ สีของถั่วจะสวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการให้ไฟ ถ้าแรงเกินไปสีจะออกมาคล้ำ สามารถเปลี่ยนเป็น ไมโล กาแฟ ก็ได้ตามความชอบ หรือจะผสมทั้ง โอวัลตินกับกาแฟ ก็ได้ Cr. ภาพอาหาร Internet

สูตร กล้วยน้ำว้าเชื่อม

กล้วยน้ำว้าเชื่อม ผิวและเนื้อดี ไม่เละ วิธีทำง่าย แต่ใช้เวลาเยอะ ราดหัวกะทิที่เค็มปะแล่ม หรือหั่นเป็นชิ้นกินกับน้ำแข็งก็สุดยอด ส่วนผสม ============================ - กล้วยน้ำว้า (ห่าม) เปลือกสีกระดังงา - เกลือ น้ำสะอาด (แช่กล้วย) - น้ำตาลทราย ถ้ามีสีรำก็จะดี ไม่มีก็ใช้สีขาว - น้ำตาลมะพร้าว ชั่งรวมกับน้ำตาลทรายได้ประมาณ 400 - 500 กรัม ลดได้ - น้ำสะอาด 1000 กรัม - เกลือ 1 หยิบนิ้ว - มะนาว 1 เซี่ยว - ใบเตยหอม ล้างสะอาด - หัวกะทิ เกลือ แป้งข้าวเจ้า วิธีทำ =========================== - ผสมน้ำกับเกลือ กะให้พอท่วมกล้วย - ปอกเปลือกแล้วหั่นกล้วยตามขวาง 2 ท่อน หรือผ่า 4 - แช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที - ตั้งกระทะ ใส่น้ำสะอาด ใบเตย ใส่น้ำตาลสองชนิด เปิดไฟ - เมื่อน้ำตาลละลายจนหมด ใส่เกลือ รอเดือด ล้างกล้วยที่แช่น้ำเกลือไว้ หย่อนกล้วยใส่กระทะ - เดือดสักครู่ ปรับเป็นไฟอ่อน มีฟอง ให้ช้อนทิ้งไป วักน้ำเชื่อมในกระทะ ราดกล้วยด้านบนเป็นระยะ สามารถเติมน้ำได้อีก - กระทะนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที 2ชั่วโมง เมื่อกล้วยเงาสวย ก่อนตักขึ้น ให้ใส่น้ำมะนาว แล้วคนเบามือ - ตักใส่จาน เตรียมทำน้ำกะทิ ราด - ...