ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ข้าวมันไก่ พร้อมสูตรน้ำจิ้ม เคล็ดไม่ลับที่ทำเองได้

ข้าวมันไก่ พร้อมสูตรน้ำจิ้ม เคล็ดไม่ลับที่ทำเองได้

น้ำสำหรับต้มไก่
เวลาเราต้องการทำน้ำซุปหรือน้ำสต๊อก เรามักจะเอาโครงไก่หรือเนื้อไก่ลงไปต้มเพื่อให้น้ำซุปมีรสชาติดี น้ำจะมีรสหวานจากไก่สด พอต้มเสร็จ น้ำซุปที่ได้ก็จะอร่อย แต่เนื้อไก่จะจืดชืด เพราะความหวานของเนื้อไก่ละลายไปอยู่กับน้ำซุปหมดแล้ว จนต้องพึ่งน้ำจิ้มรสจัดมาเป็นตัวทำให้อร่อยแทน ดังนั้นแทนที่เราจะให้ความหวานจากเนื้อไก่ถูกปล่อยออกมา เราก็จะเปลี่ยนเป็นทำให้รสชาติน้ำซุปซึมเข้าไปที่เนื้อไก่แทน

ส่วนผสม น้ำต้มไก่
1. ผักกาดขาว หรือผักหางหงส์สด 1 หัว (ต้องเลือกที่สด ๆ เพื่อให้หวาน)
2. กระเทียม 3–4 หัว (ประมาณ 30 กลีบ)
3. รากผักชี 5–6 ราก
4. ขิงแก่หั่นเป็นแว่นบาง 5–6 แว่น
5. ขิงทุบ เล็กน้อย
6. พริกไทยขาวทุบหยาบ 20–30 เม็ด
7. เกลือสมุทร 1-2 ช้อนโต๊ะ (ได้ดอกเกลือยิ่งดี เพื่อให้มีรสเค็มขึ้นมาบ้าง ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ)
8. น้ำตาลกรวด 1/2 ช้อนโต๊ะ
9. ซีอิ๊วขาว 2–3 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมันพืช 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ (ควรใส่น้ำเผื่อไว้หน่อยกันน้ำแห้งเกินไป) นำขึ้นตั้งไฟแรง (ไม่ต้องปิดฝา) ต้มให้เดือดนานอย่างน้อย 30 นาที

2. พอครบเวลาใส่ไก่ลงไปจนหมด (ถ้าหม้อใบเล็กเกินจะเอาผักกาดขาวออกให้หมดก่อนก็ได้) พอใส่ไก่ชิ้นสุดท้ายลงไป ให้ลดไฟอ่อนลง จากนั้นต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเดือด หมั่นช้อนฟองอากาศทิ้ง
****หมายเหตุ : ควรจับเวลาให้ดี ถ้าต้มนานไปไก่จะสุกเกินไม่อร่อย ถ้าไก่ดิบไปก็กินไม่ได้ (คือกระดูกมีเลือด เนื้อส่วนที่ติดกระดูกเหนียวเลาะไม่ออก) ปกติจะใช้เวลาในการต้มประมาณ 1 ชั่วโมงนับจากใส่ไก่ลงไป หมั่นตักฟองทิ้งไปบ้าง จากนั้นก็ปล่อยให้ไฟรุม ๆ ไปเรื่อย ๆ

น้ำจิ้มข้าวมันไก่
ส่วนผสม น้ำจิ้มข้าวมันไก่
1. เต้าเจี้ยว 6 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
3. ขิงแก่สับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
4. ขิงแก่ ตำแหลก 1 ช้อนโต๊ะ
5. พริกขี้หนูสดเขียว-แดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำส้มพริกดองแบบปั่น 2 ช้อนโต๊ะ
7. ซีอิ๊วหวานสูตร 1 1 ช้อนโต๊ะ
8. มะนาว 1 ซีก

วิธีทำ
1. ใส่เต้าเจี้ยวลงในถ้วย (ควรชิมก่อนด้วยว่า เต้าเจี้ยวที่เราซื้อมามีความเค็มมากน้อยแค่ไหน บางยี่ห้อก็เค็มจัด บางยี่ห้อก็มีติดหวานเล็ก ๆ ปริมาณส่วนผสมมาก-น้อย ลดลงตามส่วนนะค่ะ)

2. ใส่น้ำตาลทราย

3. ใส่ขิงแก่ตำแหลกและขิงแก่สับละเอียด (ขิงแก่ตำแหลกนี่สำคัญนะค่ะ ตำให้แหลกเลย นำน้ำขิงในครกใส่ไปด้วย เวลาผสมกันเป็นน้ำจิ้มแล้วจะได้มีรสและกลิ่นขิงแทรกอยู่อย่างทั่วถึง)

4. ใส่พริกขี้หนูเขียว-แดงซอย (ถ้าชอบเผ็ดก็เอาส่วนหนึ่งไปปั่นหรือตำให้แหลกก่อนเลยแล้วค่อยเอามาใส่)

5. ใส่น้ำส้มพริกดอง (ที่เหลือมาจากการกินข้าวขาหมู เย็นตาโฟ หรือก๋วยเตี๋ยวเรือก็ได้) บีบน้ำมะนาวใส่ลงไป (เพื่อเอากลิ่น)

6. ซีอิ๊วหวาน (ถ้าไม่ต้องการให้สีเข้มมากก็ลดเหลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ แนะนำให้ใช้สูตร 1 นะค่ะ พวกง่วนเชียงฝาสีครีมก็ดี ไม่ควรใช้น้ำตาลโมลาส หรือซีอิ๊วหวานสูตร 5 ได้สีเข้มก็จริง แต่เดี๋ยวจะทำให้เสียรส เสียกลิ่น)

7. คนผสมให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ไม่ต้องใส่น้ำซุปลงไปให้เจือจาง แต่ถ้าเห็นว่าข้นมากเพราะใส่ขิงมากไปก็เติมน้ำซุปลงไปสัก 1 ช้อนโต๊ะ)
****หมายเหตุ : ชิมให้ถูกปาก ถ้าอ่อนเค็มให้เพิ่มเต้าเจี้ยว ถ้าอ่อนหวานให้เพิ่มน้ำตาลทราย (ระวังนะค่ะถ้าคน ๆ น้ำตาลยังไม่ละลายดี ชิมแล้วจะยังไม่ออกหวาน พอละลายแล้วเดี๋ยวหวานเกินไปนะ) ถ้าอ่อนเปรี้ยวให้เพิ่มน้ำส้มพริกปั่นลงไป (ไม่เพิ่มมะนาวนะค่ะ) ส่วนชอบเผ็ดมากน้อยก็ปรับสัดส่วนของพริกขี้หนูเสียแต่ทีแรกเลย

ส่วนผสมข้าวมัน
1. ข้าวหอมเก่า (ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้ข้าวหอมเก่าก็จะดี ที่ไม่ใช่ข้าวหอมใหม่ต้นฤดู หรือข้าวนาปีเสาไห้ อะไรประมาณนี้)
2. น้ำมันพืช
3. กระเทียม
4. ขิงฝานแว่น
5. เกลือสมุทร 1/2-1ช้อนชา
6. น้ำตาลกรวด 1 ช้อนชา
7. น้ำซุป 1 ทัพพี

วิธีทำ
1. ซาวข้าวให้เรียบร้อย เทน้ำออกให้แห้ง พักไว้ (อย่าซาวข้าวทิ้งไว้ล่วงหน้านานนัก ถึงเวลาจะหุงแล้วค่อยซาวข้าว และควรเตรียมการหุงเมื่อไก่ต้มสุกพอดี เพราะต้องใช้น้ำต้มไก่มาหุงข้าว)

2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับและขิงฝานแว่นลงไปเจียวพอหอม

3. ใส่ข้าวที่ซาวแล้วลงไปผัด

4. ช้อนน้ำมันไก่จากหม้อต้มไก่ลงไปผัดกับข้าว (เท่าที่จะช้อนออกมาได้ มีน้ำซุปติดมาด้วยก็ไม่เป็นไร ใช้ตะแกรงมุ้งสแตนเลสแบบนี้ ช้อนน้ำมันออกมาได้ดีทีเดียว)

5. ใส่เกลือสมุทร น้ำตาลกรวด และน้ำซุป แล้วผัดให้เข้ากัน ใช้ไฟกลาง ผัดให้เมล็ดข้าวจากเดิมที่ใส ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขุ่นเหมือนเมล็ดข้าวเหนียว และข้าวเริ่มแห้งติดกระทะ ปิดไฟ ยกลงจากเตา นำไปใส่หม้อหุงข้าว

6. ตักน้ำต้มไก่ใส่ลงไปในหม้อหุงข้าว ใส่น้ำให้น้อยกว่าปกติที่เคยหุงเล็กน้อย กดปุ่มหุงข้าว เมื่อข้าวสุกแล้ว อุ่นทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 20 นาที

7. เปิดฝาหม้อหุงข้าวแล้วใช้ช้อนคุ้ยข้าวเบา ๆ เพื่อให้น้ำมันที่ตกอยู่ก้นหม้อหุงข้าวขึ้นมาคลุกกับข้าวให้ทั่ว (หุงครั้งแรกถ้าเค็มหรือจืดไป ครั้งต่อไปก็ปรับสัดส่วนเอานะครับ เหตุเพราะรสชาติของน้ำต้มไก่ที่เราเอามาหุงข้าว รสจัดมากน้อยแค่ไหนนั่นเอง)

8. เตรียมช็อกไก่ด้วยน้ำเย็น โดยใส่น้ำแข็งก้อนลงในภาชนะ แล้วเติมน้ำลงไป จากนั้นใส่ไก่ที่ต้มไว้ลงไปในอ่างน้ำเย็น (วิธีคือ เมื่อต้มเสร็จให้เอาขึ้นจากหม้อแล้วแช่ในน้ำเย็นทันที) แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5–10 นาที

9. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วเอาน้ำมันพืชมาทาหนังไก่ไว้ให้ทั่ว ๆ (จะใช้แปรงหรือมือก็ได้ แล้วแต่สะดวก)

10. พักทิ้งไว้ประมาณ 3–4 ชั่วโมง (ผิวไก่ก็ยังคงมีสีขาวอมเหลืองสวย เต่งตึงอยู่ตลอดเวลา ไม่แดง ช้ำ กระดำกระด่าง หรือมีกลิ่นหืนแต่ประการใด)
****หมายเหตุ : การช็อกไก่ด้วยน้ำเย็น จะทำให้เนื้อไก่นุ่มหนึบ ไม่เละ หนังกรุบ เด้งดึ๋ง และรสสัมผัสเหมือนไก่บ้าน

วิธีทำน้ำซุป
น้ำซุปต้มไก่จะมีรสจัดเกินไปกว่าที่จะนำมาเป็นน้ำซุปที่กินกับข้าวมันไก่ได้ทันที ต้องเติมน้ำลงไปให้รสอ่อนลงแล้วนำไปต้มให้เดือดอีกครั้ง ถึงเอามารับประทานคู่กับข้าวมันไก่ได้ (ถ้าน้ำซุปต้มไก่รสอ่อนพอดี ก็นำมาทานเป็นน้ำซุปได้เลย แต่ก็แปลว่าไก่เรารสจะจืดไปนิดนะค่ะ)

เคล็ดลับ : เวลารับประทานไก่ไม่หมดให้เก็บไว้ในตู้เย็นได้ พอจะเอามารับประทาน ก็ควรเอาออกมาไว้นอกตู้เย็นสัก 30 นาที เพื่อให้ความเย็นคลายไปตามอุณหภูมิห้อง แล้วรับประทานได้เลย ก็จะยังคงอร่อยเหมือนเพิ่งทำเสร็จ ไม่ต้องเอาไปอุ่นโดยวิธีใด ๆ ไม่ว่านึ่งหรือไมโครเวฟ มิเช่นนั้นความอร่อยของเนื้อไก่จะหายไปทันที และกลิ่นหนังไก่ก็จะไม่หอมเหมือนเดิม

Cr. สูตรอาหาร http://pantip.com/topic/32526903
Cr. ภาพอาหาร http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/002338/lang/th/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สูตร กล้วยน้ำว้าเชื่อม

กล้วยน้ำว้าเชื่อม ผิวและเนื้อดี ไม่เละ วิธีทำง่าย แต่ใช้เวลาเยอะ ราดหัวกะทิที่เค็มปะแล่ม หรือหั่นเป็นชิ้นกินกับน้ำแข็งก็สุดยอด ส่วนผสม ============================ - กล้วยน้ำว้า (ห่าม) เปลือกสีกระดังงา - เกลือ น้ำสะอาด (แช่กล้วย) - น้ำตาลทราย ถ้ามีสีรำก็จะดี ไม่มีก็ใช้สีขาว - น้ำตาลมะพร้าว ชั่งรวมกับน้ำตาลทรายได้ประมาณ 400 - 500 กรัม ลดได้ - น้ำสะอาด 1000 กรัม - เกลือ 1 หยิบนิ้ว - มะนาว 1 เซี่ยว - ใบเตยหอม ล้างสะอาด - หัวกะทิ เกลือ แป้งข้าวเจ้า วิธีทำ =========================== - ผสมน้ำกับเกลือ กะให้พอท่วมกล้วย - ปอกเปลือกแล้วหั่นกล้วยตามขวาง 2 ท่อน หรือผ่า 4 - แช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที - ตั้งกระทะ ใส่น้ำสะอาด ใบเตย ใส่น้ำตาลสองชนิด เปิดไฟ - เมื่อน้ำตาลละลายจนหมด ใส่เกลือ รอเดือด ล้างกล้วยที่แช่น้ำเกลือไว้ หย่อนกล้วยใส่กระทะ - เดือดสักครู่ ปรับเป็นไฟอ่อน มีฟอง ให้ช้อนทิ้งไป วักน้ำเชื่อมในกระทะ ราดกล้วยด้านบนเป็นระยะ สามารถเติมน้ำได้อีก - กระทะนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที 2ชั่วโมง เมื่อกล้วยเงาสวย ก่อนตักขึ้น ให้ใส่น้ำมะนาว แล้วคนเบามือ - ตักใส่จาน เตรียมทำน้ำกะทิ ราด -

สูตรลาบเป็ด

ลาบเป็ด เมนูนี้ใครที่ไปร้านส้มตำต้องเคยกินกันแล้วแน่นอน ถือได้ว่าเป็นอาหารอีสานยอดนิยมเลยทีเดียว เนื้อเป็ดที่สับละเอียดเอามาทำเป็นลาบที่ได้รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นข้าวคั่ว ทานเป็นกับแกล้มหรือทานกับข้าวเหนียวร้อนอร่อยแน่นอนครับ วัตถุดิบลาบเป็ด  1. น้ำตาลทราย 1/2 ชช. 2. น้ำปลา 1/2 ชต. 3. พริกป่น 1/2 ชต. 4. เนื้ออกเป็ด 150 กรัม 5. มะนาว 1/2 ลูก 6. หอมแดงซอย 2 ชต 7. พริกแห้งทอด 6-7 เม็ด 8. ข้าวคั่ว 1 ชต. 9. ต้นหอม 2 ต้น 10. ผักชีฝรั่ง 2 ต้น 11. ใบสาระแหน่ 1 ต้น 12. น้ำซุปไก่ 1 ทัพพี วิธีทำลาบเป็ด  1.ซอยต้นหอม , ผักชีฝรั่งเตรียมไว้ จากนั้นสับเนื้อเป็ดให้ละเอียดปานกลาง 2.เติมน้ำซุปไก่ลงในหม้อ ตามด้วยเนื้อเป็ดและรวนให้สุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา ,น้ำตาล , พริกป่น , ข้าวคั่ว คนให้เข้ากันปิดแก็สแล้วจึงเติมน้ำมะนาวลงไป 3.เติมหอมแดง , ต้นหอม ,ผักชีฝรั่ง และคลุกให้เข้ากัน เด็ดใบสาระแหน่โรยหน้าตามด้วยพริกทอดเป็นอันเสร็จ

วิธีทำ ซาลาเปาไส้ถั่วดำ(จีน)

ส่วนผสมตัวแป้ง 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 400 กรัม 2. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม 3. ผงฟู 20 กรัม 4. ยีสต์แห้ง 20 กรัม 5. เนยขาว 20 กรัม 6. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 20 กรัม 7. น้ำเปล่า 200 กรัม ส่วนผสมไส้ถั่วดำ 1. ถั่วดำเม็ดเล็กคั่วให้หอมแช่น้ำ 1 คืน 2 ถ้วยตวง 2. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง 3. เนยจืดสด 50 กรัม วิธีทำซาลาเปาไส้ถั่วดำ Bean Bun วิธีทำแป้งซาลาเปา 1. นำน้ำอุ่นมาใส่ลงในยีสต์ให้ท่วมเล็กน้อยรอจนยีสต์ตื่น 2. นำแป้งสาลี น้ำตาลทรายขาว ผงฟู ผสมให้เข้ากัน 3. ใส่เนยขาว ยีสต์ ตามด้วยโยเกิร์ตผสมให้เข้ากัน และค่อยๆใส่น้ำลงไปนวดจนเป็นโดว์ และเนียนเข้ากันดี ใช้พลาสติกคลุมไว้ ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 35-40 องศา จนแป้งขึ้นฟู ประมาณ 1-2 ชม 4. นำแป้งนวลมาโรยพื้นที่จะทำการปั้นแป้ง แล้วแบ่งแป้งออกมาปั้นเป็นก้อน ขนาดก้อนละ 20-25 กรัม วิธีทำไส้ถั่วดำ 1. นำถั่วดำ ต้มจนนิ่ม กรองน้ำออก 2. นำถั่วดำไปบด และกรองผ่านตะแกรง 3. ผสมเนยจืด น้ำตาลทราย พักให้เย็น 4. นำแป้งมาแผ่ออกใส่ไส้ตรงกลางแล้วห่อคุมให้มิด ใส่กระดาษรองซาลาเปาโดยการใช้น้ำแปะตรงก้นซาลาเปาเล็กน้อย แล้ววางลงกลางกระดาษ วิธีนี้จะช่วยให้เมื่อซาลาเป