ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2015

“เกี๊ยวกล้วยทอด” ของว่างกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน

การประยุกต์อาหารที่มีอยู่ในครัว ทำให้เรามีเมนูอาหารอร่อยๆ ออกมาให้ชิมแบบไม่ซ้ำหน้า อย่าง “ครัววันหยุด” ที่มีวัตถุดิบในครัวเหลืออยู่คือแผ่นแป้งเกี๊ยว ที่เหลือจากการทำบะหมี่เกี๊ยวกิน กับกล้วยหอม ที่เป็นผลไม้ประจำบ้าน ก็สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบของเมนู “เกี๊ยวกล้วยทอด”               เมนูนี้ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่นำเกี๊ยวมาห่อกล้วยหอม แล้วนำไปทอด กินคู่กับซอสช็อกโกแลตและนมข้นหวาน กลายเป็นเมนูอาหารว่าง หรือเป็นของหวานหลังมื้ออาหารก็ได้ ส่วนผสม         แผ่นเกี๊ยว 15 แผ่น         กล้วยหอม 1 ผล         น้ำมันพืช (สำหรับทอด)         นมข้นหวาน ปริมาณตามชอบ         ซอสช็อกโกแลต ปริมาณตามชอบ               วิธีทำ เริ่มจากปอกเปลือกกล้วย แล้วหั่นกล้วยเป็นแว่นๆ หนาประมาณ 1 เซ็นติเมตร จากนั้นนำไปห่อด้วยแผ่นเกี๊ยว แล้วนำน้ำมันพืชตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อนก็ใส่เกี๊ยวกล้วยลงไปทอดให้เหลืองสวยทั้งสองด้าน เสร็จแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน แล้วโรยหน้าด้วยนมข้นหวานและซอสช็อกโกแลต ได้เป็นของว่างอร่อยๆ เอาไว้รองท้อง http://manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9580000053553

“ปลากะพงสามรส” อร่อยครบรสเปรี้ยว เค็ม หวาน

“ปลา” เป็นเมนูเพื่อสุขภาพ ที่สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด อย่างในมื้อนี้ “ครัววันหยุด” ก็เลือกปลากะพง มาปรุงเป็นเมนูอาหารไทยๆ ที่กินอร่อยกันได้ทั้งครอบครัว กับเมนูที่มีชื่อว่า “ปลากะพงสามรส”               เมนูนี้แบ่งเป็นสองส่วนคือ การนำปลากะพงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ ให้สุกเหลืองดี อีกส่วนคือการทำน้ำราดสามรสหวาน เปรี้ยว เค็ม ที่จะทำให้รสชาติของปลากะพงทอดนั้นจัดจ้านโดนใจมากขึ้น ส่วนผสม         ปลากะพงขาว 1 ตัว         พริกแดงเม็ดใหญ่ 10 เม็ด         กระเทียม 1 หัว         รากผักชี 2 ราก         น้ำปลา 2 1/2 ช้อนโต๊ะ         น้ำตาลปี๊บ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ         น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ         น้ำเปล่าเล็กน้อย         น้ำมันพืช สำหรับทอดปลา         ผักชี สำหรับโรยหน้า               วิธีทำ เริ่มจากล้างปลาให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไปพอให้ท่วมตัวปลา พอน้ำมันร้อน นำปลาลงไปทอดให้เหลืองสุกดีทั้งสองด้าน เสร็จแล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน               โขลกพริก กระเทียม และรากผักชีด้วยกัน จากนั้นนำกระทะอีกใบตั้งเตา ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน

“ผัดสายบัว” เมนูอร่อยง่ายๆ จากบัว

“บัว” เป็นพืชอีกชนิดที่มี ประโยชน์ทั้งต้น รากบัวก็นำไปทำขนมหรืออาหาร สายบัว-ไหลบัว ก็นำมาผัด ต้ม หรือกินแกล้มน้ำพริก ดอกบัวก็นำไปถวายพระ เกสรดอกบัวก็ยังเป็นอาหารและเป็นยาชนิดหนึ่ง เรียกว่าบัวต้นเดียวนั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้ครบถ้วน               “ครัววันหยุด” ได้สายบัวสดๆ มาจากตลาด เลยนำมาทำเป็นเมนูง่ายๆ ให้ทุกคนลองชิม นั่นคือเมนู “ผัดสายบัว” ที่บอกว่าง่ายนั้นก็ง่ายจริงๆ เพราะส่วนผสมน้อย ใช้เวลาปรุงนิดหน่อย ก็ออกมาเป็นกับข้าวจานอร่อยกินกับข้าวสวยร้อนๆ ให้อิ่มไปอีกมื้อ ส่วนผสม         สายบัว 300 กรัม         หมูสามชั้น 120 กรัม         กระเทียมสับ 5 กลีบ         น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ         ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ         น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา               วิธีทำเริ่มจากหั่นสายบัวเป็นท่อนๆ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอคำ ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย (ถ้าใช้กระทะเทปลอนไม่ต้องใช้น้ำมันก็ได้) นำหมูสามชั้นลงไปคั่วให้เหลืองหอม พอได้ที่แล้วใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม ใส่สายบัวลงไป ปรุงรสใส่น้ำตาลทราย น้ำมันหอย และซีอิ๊วขาว ผัดคลุกเคล้าให้เข้าก

“ชีสทอด” อาหารว่างจานอร่อย หอมนุ่มชุ่มฉ่ำชีส

 เมนูของว่างง่ายๆ หลายเมนู นอกจากจะหาซื้อกินตามร้านอาหารทั่วไปแล้ว เราก็ยังสามารถทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน อย่างเมนู “ชีสทอด” ที่มีส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง ลงมือปรุงเพียงไม่กี่นาที ก็จะได้ลิ้มรสชาติความอร่อย มาเป็นอาหารว่างที่อร่อยกันได้ทั้งครอบครัว              ชีสทอดจานนี้ ได้รสชาติความหอมมันและเค็มจากชีสทั้งสองชนิด คือ มอสซาเรลล่าชีส และ เชดด้าชีส พอนำไปชุบแป้งและเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบ ก็จะได้ความกรอบ ความอร่อยหอมมัน กินเพลินๆ ส่วนผสม         เชดด้าชีส 5 แผ่น         มอสซาเรลล่าชีส 80 กรัม         ไข่ไก่ 1 ฟอง         เกล็ดขนมปัง         แป้งสาลีอเนกประสงค์         น้ำมันพืช (สำหรับทอด)              วิธีทำ เริ่มจากหั่นมอสซาเรลล่าชีสมาหั่นเป็นแท่งๆ จากนั้นนำเชดด้าชีสที่เป็นแผ่นมาห่อม้วนมอสซาเรลล่าชีสให้แน่น แล้วนำไปแช่ตู้เย็น (ช่องธรรมดา) ประมาณ 30 นาที              เมื่อได้ที่แล้ว เตรียมตีไข่ไก่ 1 ฟองให้เข้ากัน นำชีสที่เซ็ตตัวแล้วมาชุบไข่ ชุบแป้งสาลีอเนกประสงค์ ชุบไข่ไก่อีกครั้ง แล้วชุบเกล็ดขนมปังเตรียมไว้              ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช รอให้ร้อน แล้วจึงนำชีสที่ชุบแป้งเตรียม

“ยำปลาทู” เมนูจัดจ้าน หอมกลิ่นสมุนไพร

        เมนูอาหารที่เราทำกินกันอยู่ทุกวันนี้ บ้างก็ปรุงยาก มีเครื่องเคราหลากหลาย อาจจะต้องใช้เทคนิคในการทำมากมาย แต่บางเมนูก็ง่ายแสนง่าย มีเครื่องปรุงและส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง ก็ออกมาเป็นอาหารจานอร่อยให้ทุกคนได้ชิม               สำหรับมื้อนี้ “ครัววันหยุด” ก็ยังมีเมนูอร่อยทำง่ายมาให้ลองชิมกันเหมือนเดิม เมนูนี้ชื่อว่า “ยำปลาทู” ซึ่งใช้วัตถุดิบเพียงเนื้อปลาทู และพืชผักสมุนไพรอีกไม่กี่อย่าง ปรุงรสง่ายๆ ด้วยน้ำปลาและมะนาว เท่านี้ก็ได้เมนูครบถ้วนคุณค่า ได้โปรตีนจากเนื้อปลา รสชาติก็อร่อย แถมยังมีสมุนไพรไทยกลิ่นหอมชวนกินอีกด้วย      ส่วนผสม         ปลาทูนึ่ง 2 ตัว         หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ         ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ         พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ         ผักชีฝรั่งซอย 3 ช้อนโต๊ะ         น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ         น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ   วิธีทำเริ่มจากนำปลาทูไปย่างไฟอ่อนๆ ให้พอหอม จากนั้นแกะเอาแต่เนื้อ แล้วยีให้เนื้อปลาเป็นชิ้นเล็กๆ นำเนื้อปลาทูมาผสมกับหอมแดงซอย พริกขี้หนูซอย ตะไคร้ซอย ผักชีฝรั่งซอย ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน แต่หน้าด้วยใบสะระแหน่อีกนิดหน่อย

“ข้าวโพดทอด” เหลือง หอม กรอบ อร่อย

       “ข้าวโพด” จะว่าเป็นผลไม้ก็ไม่ใช่ จะว่าเป็นผักก็ไม่เชิง แต่ก็สามารถนำมาทำเป็นอาหารอร่อยๆ ได้หลายจาน ทั้งของคาวและของหวาน รวมไปถึงของว่างที่ “ครัววันหยุด” จะชวนมาลองทำกินกัน               เมนูง่ายๆ มื้อนี้มีชื่อว่า “ข้าวโพดทอด” ที่จะใช้ เมล็ดข้าวโพดดิบนำไปคลุกเคล้ากับแป้งตามส่วนผสม แล้วทอดในน้ำมันร้อนๆ ตักขึ้นมาจิ้มกินกับน้ำจิ้มสามรส ข้าวโพดที่ทอดสุกแล้วจะกรอบจากตัวแป้ง มีความหอมหวานอร่อยจากเมล็ดข้าวโพดสีเหลืองสวย ได้มาเป็นของว่างที่กินอร่อยกันทั้งครอบครัว         ส่วนผสม         ข้าวโพดดิบ 1 ฝัก         แป้งสาลี 4 ช้อนโต๊ะ         แป้งข้าวเจ้า 3 ช้อนโต๊ะ         เกลือ,พริกไทยป่น เล็กน้อย         น้ำเปล่า เล็กน้อย                ส่วนผสมน้ำจิ้ม         พริกชี้ฟ้าแดง 1-2 เม็ด         น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ         น้ำส้มสายชู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ         เกลือ เล็กน้อย         ถั่วลิสงป่น 1 ช้อนโต๊ะ         ผักชีสำหรับโรยหน้า      วิธีทำ ฝานข้าวโพดเอาแต่เมล็ด (หรือจะใช้วิธีแกะเมล็ดก็ได้) เตรียมไว้ก่อน ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี ใส่เกลือเล็กน้อย (ประมาณหนึ่งหยิบมือ) และพริกไทยป่นเล็กน

“มะกะโรนีกราแตง” จัดเต็มนม-เนย-ชีส หอมฟิน อิ่มอร่อย

        ใครที่ชื่นชอบอาหารพวกนม-เนย-ชีส คงจะชื่นชอบหลายๆ เมนูอาหารอิตาเลียน ที่ใส่มาจัดเต็มกันทั้งสามอย่าง รสชาติหอมมันกินแล้วอร่อยเพลินปาก               แต่ต้องบอกเลยว่าเมนูอาหารอิตาเลียนเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำยากจนเกินไป เพราะวัตถุดิบหลายๆ อย่างนั้นก็หาซื้อได้ง่ายในบ้านเรา “ครัววันหยุด” เลยจะชวนมาลองทำเมนู “มะกะโรนีกราแตง” เมนูอร่อยจากนมเนยและชีส             ส่วนผสม         มะกะโรนีอบแห้ง 100 กรัม         แฮม-เบคอน ตามชอบ         มอสซาเรลล่าชีส ตามชอบ         พาเมซานชีสขูดฝอย 3 ช้อนโต๊ะ         ออริกาโน่ 1 ช้อนโต๊ะ         เกล็ดขนมปัง เล็กน้อย         พาสลีย์สด สำหรับโรยหน้า                ส่วนผสมครีมซอส         แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ         เนยสดเค็ม 80 กรัม         นมสด 4 ถ้วย         เกลือป่น 1 ช้อนชา    วิธีทำเริ่มจากต้มมะระโรนีกับน้ำเปล่าให้สุกประมาณ 70% แล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเตรียมหั่นแฮมและเบคอนในปริมาณตามชอบ พาสลีย์สดนำมาสับละเอียดปริมาณตามชอบ               เริ่มทำครีมซอสโดยนำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่เนยสดเค็มลงในกระทะ รอให้ละลาย แล้วค่อยๆ ใส่แป้งสาลีลงไปผัดกับเนยให้

“หมึกผัดพริกเกลือ” เมนูหอมๆ ชวนหิว

   หลายๆ ครั้งที่เราไปกินอาหารที่ร้านอาหารแล้วรู้สึกติดใจในรสชาติของเมนูนั้นๆ จนอยากจะกลับมาลองทำกินเองที่บ้าน เพื่อความอร่อยถูกปาก และสามารถเลือกใส่สิ่งที่ชอบได้อย่างเต็มที่              เหมือนกับที่ “ครัววันหยุด” ไปติดใจเมนู  “หมึกผัดพริกเกลือ”  มา จากร้านอาหารร้านหนึ่ง ก็เลยนำมาปรับประยุกต์สูตรให้ถูกปากคนในครอบครัว แถมยังใส่หมึกได้เยอะๆ ตามชอบใจ ผัดเสร็จร้อนๆ กินแล้วหอมอร่อยมากๆ        ส่วนผสม         หมึกสดหั่นแว่น 300 กรัม         กระเทียม 70 กรัม         รากผักชี 2 ราก         พริกขี้หนู 6-10 เม็ด         แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ         น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา         เกลือ 1/4 ช้อนชา         พริกไทยอ่อน 10 กรัม         ต้นหอม 3 ต้น         พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา         วิธีทำ เริ่มจากโขลกกระเทียมและรากผักชีให้ละเอียด จากนั้นนำไปเจียวกับน้ำมันให้เหลืองหอม แล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ส่วนหมึกสด ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นเป็นแว่น โรยด้วยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย จากนั้นคลุกกับแป้งทอดกรอบบางๆ แล้วนำลงทอดให้สุก ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน              ขั้นตอนต่อไป นำกระทะตั้งไฟอ่อ

“พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน” เด้งดึ๋ง หวานละมุน

      วันหยุดอยู่บ้าน นอกจากจะไปทำกับข้าวกับปลากินกันในครอบครัวแล้ว เราก็ยังช่วยกันทำขนมอร่อยเก็บไว้กินระหว่างสัปดาห์กันได้อีกด้วย ซึ่งเมนูขนมที่ลงมือทำได้ง่ายๆ ก็มีให้เลือกมากมาย แต่มื้อนี้ “ครัววันหยุด” ขอเลือกเป็น “พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน” ที่ใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่าง และมีขั้นตอนการทำที่ง่ายแสนง่าย มานำเสนอให้ลองทำกินกัน               เมนูนี้จะได้ความหอมหวานจากมะพร้าวน้ำหอม ความหวานนิดๆ จากน้ำตาล และความมันจากวิปปิ้งครีม ซึ่งพอนำมาผ่านกระบวนการปรุงแล้วก็จะออกมาเป็นขนมอร่อยๆ ที่เก็บไส้ตู้เย็นไว้กินได้อีกหลายวัน           ส่วนผสมตัวพุดดิ้ง         น้ำมะพร้าวน้ำหอม 350 มิลลิลิตร         เนื้อมะพร้าว 200 กรัม         น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร         น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ         ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนชา         วิปปิ้งครีมสด 150 มิลลิลิตร    เริ่มต้นจากการทำตัวพุดดิ้ง ให้ผสมน้ำตาลทรายและผงวุ้นเข้าด้วยกัน จากนั้นนำน้ำเปล่าผสมกับน้ำมะพร้าว ใส่หม้อตั้งไฟกลางๆ รอให้เดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ลดไฟลง ใส่น้ำตาลทรายที่ผสมกับผงวุ้นแล้วลงไป คนไปเรื่อยๆ จนละลายดี จากนั้นใส่เนื้อมะพร้าวลงไป รอให้เดือด

“ขนมปังหน้าหมู” เมนูของว่าง เคี้ยวเพลิน กินอร่อย

          ยามวันหยุดที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หลายคนอาจจะอยากหาของว่างอร่อยๆ ทำง่ายๆ มาทำเสิร์ฟให้กับทุกคนได้ชิม “ครัววันหยุด” เลยมีอีกหนึ่งเมนูของว่างกินอร่อยมาแนะนำ เมนูนี้ชื่อว่า “ขนมปังหน้าหมู” เป็นเมนูทำง่ายๆ ใช้ส่วนประกอบไม่กี่อย่างก็เสร็จสรรพออกมาเป็นของว่างร้อนๆ ให้ได้ชิมกันแล้ว         ส่วนผสม         ขนมปังแผ่น 10 แผ่น         หมูบด 200 กรัม         พริกไทยเม็ด 10 เม็ด         รากผักชี 2 ราก         แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา         ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ         ไข่ไก่ 2 ฟอง         น้ำมันพืช (สำหรับทอด)    วิธีทำเริ่มจากนำขนมปังแผ่นมาผึ่งลมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง – 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อเวลาทอดเสร็จแล้วจะได้ขนมปังหน้าหมูที่กรอบๆ ระหว่างนั้นเตรียมหน้าหมู โดยโขลกพริกไทยเม็ดกับรากผักชีจนละเอียด นำมาหมักกับหมูบด ใส่ซีอิ้วขาว ไข่ไก่ 1 ฟอง และแป้งข้าวโพด คลุกเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที               เมื่อผึ่งขนมปังจนแห้งแล้ว นำมาตัดแบ่งเป็นสี่ชิ้นต่อแผ่น (หรืออาจจะตัดเป็นรูปร่างต่างๆ ได้ตามชอบ) ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟกลางๆ นำหมูบดที่หมักไว้มาทาลงไปด้านบน ระวัง

“ผัดกะเพรากระดูกหมู” เคี้ยวกรุบๆ อร่อยเพลิน หอมชวนชิมเกินห้ามใจ

        ใครๆ ก็มักจะพูดกันว่า “ผัดกะเพรา” เป็นอาหารสิ้นคิด ถ้าไปถึงร้านอาหารตามสั่งแล้วไม่รู้จะกินอะไร ก็สั่งข้าวผัดกะเพราเอาไว้ก่อนเพื่อความรวดเร็ว ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว “ผัดกะเพรา” ก็ถือว่าเป็นเมนูที่มีรสชาติจัดจ้านครบรส อร่อยถูกปากอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นผัดกะเพราหมู ไก่ กุ้ง หมึก               แต่หากว่าเป็นการปรุงอาหารในช่วงวันหยุด “ครัววันหยุด” ก็อยากจะทำให้เมนูผัดกะเพรานี้พิเศษขึ้นมาอีกนิด โดยเลือกใช้กระดูกอ่อนหมู นำไปต้มเคี่ยวจนเปื่อยนุ่มได้ที่ แล้วค่อยนำมาผัดกับเครื่องกะเพรา ทำให้ได้รสชาติความอร่อยจัดจ้านที่ไม่ซ้ำกับกะเพราแบบเดิมๆ        ส่วนผสม         กระดูกอ่อนหมู 250 กรัม         พริกชี้ฟ้าแดง 7-10 เม็ด         กระเทียม (กลีบเล็ก) 15 กลีบ         น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา         น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ         น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ         ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ         น้ำเปล่า เล็กน้อย         น้ำมันพืช เล็กน้อย         ใบกะเพรา ปริมาณตามชอบ      วิธีทำเริ่มจากนำกระดูกอ่อนหมูไปล้างให้สะอาด ก่อนจะนำมาต้มกับน้ำเปล่าที่ตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆ ประมาณ 20-30 นาที พอกระดูกอ่อ

“ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระ” ไก่เนื้อนุ่ม หอมเครื่องเทศ

    หลายๆ ครั้งที่ออกไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนอกบ้าน ก็เกิดอยากจะกลับมาลองทำกินเองที่บ้าน เพราะนอกจากจะทำหม้อใหญ่ๆ กินกันได้หลายคนในราคาประหยัดกว่า แล้วก็ยังสามารถเลือกใส่เครื่องเคราต่างๆ ได้ตามชอบใจด้วย ซึ่งเมนูก๋วยเตี๋ยวนั้นถึงจะต้องเตรียมเครื่องหลายอย่างเสียหน่อย แต่วิธีทำก็ไม่ซับซ้อนมากนัก              อย่างเมนู “ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระ” ที่จะใช้น่องไก่หรือสะโพกไก่มาตุ๋นกับเครื่องพะโล้ให้ได้กลิ่นหอมเครื่องเทศ เคี่ยวไปพร้อมๆ กับมะระจนเปื่อยนุ่ม ออกมาเป็นก๋วยเตี๋ยวรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม กินอร่อยกันได้ทั้งบ้าน       ส่วนผสม         น่องไก่/สะโพกไก่ 800 กรัม         มะระจีน 1 ลูก         กระเทียม 1 หัว         รากผักชี 3 ราก         อบเชย 2 ชิ้น         โป๊ยกั๊ก 3 ดอก         เม็ดผักชี 20 เม็ด         พริกไทยดำ 20 เม็ด         ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ         ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ         ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ         น้ำเปล่า 2 ลิตร         น้ำตาลกรวด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ         น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ         เกลือป่น 2 ช้อนชา         น้ำมันพืช เล็กน้อย               ส่วนผสมก๋วยเตี๋ยว    

สูตร Mocktail : บลู สกาย

มาทำเครื่องดื่มอร่อยๆ สีสันสดใส ไร้แอลกอฮอล์ อร่อยได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หรือจะให้เด็กๆในปาร์ตี้วันเด็กพรุ่งนี้ ก็เข้าท่าดีนะ Mocktail : บลู สกาย ส่วนผสม น้ำสับปะรด 4 ออนซ์ น้ำหวานบลูฮาวาย 2 ออนซ์ น้ำมะนาวสด 0.5 ออนซ์ น้ำแข็งก้อน ขั้นตอนการทำ 1.รินส่วนผสมทั้งหมดลงในเชคเกอร์ 2.ใส่น้ำแข็งก้อนประมาณ 3/4 ของเชคเกอร์ แล้วเขย่าแรงและเร็วประมาณ 10-15 ครั้ง 3.รินส่วนผสมใส่แก้วพร้อมน้ำแข็ง 4.ตำแต่งด้วยสับปะรดและเชอร์รีสีแดง พร้อมเสิร์ฟ ขอขอบคุณสูตรและภาพจาก แม่บ้านคลับ

โมจิหยดน้ำ หรือ Mizu Shingen Mochi

หลายคนคงสงสัยไม่น้อยว่าเจ้าขนมน่าตาแปลกๆน่ากินนี้ทำมาจากอะไร  และพิเศษอย่างไร เพราะเปิดตัวมาได้ไม่นาน ก็ทำเอาฮิตไปทั่วทุกมุม ขนมนี้มีชื่อว่า Mizu Shingen Mochi (มิซึ ชิงเกน โมจิ)   คือขนมโมจิสูตรใหม่ที่กำลังเป็นที่ฮือฮาในญี่ปุ่น รูปร่างกลมใสเหมือนลูกแก้ว โรยหน้าด้วยถั่วเหลืองบด ราดน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง ซึ่งเวลากิน จะได้สัมผัสกับความแปลกใหม่ กับเนื้อขนมนุ่มเบา ที่ละลายยวบ กลายเป็นน้ำอยู่ในปาก  ที่สำคัญ จะต้องกินภายในสามสิบนาที มิฉะนั้นมันจะละลาย  นี่แล่ะ คือความพิเศษของขนมหวานชิ้นนี้  ซึ่งในวันนี้เราก็ได้นำสูตรการทำ โมจิหยดน้ำ หรือ Mizu Shingen Mochi ที่เพิ่มความสวยหรูไปอีกโดยมีการตกแต่งด้วยดอกไม้มาฝากเพื่อนๆกันค่ะ  จะทำง่ายขนาดไหน พร้อมแล้วไปลองกันเลย ส่วนผสมมีดังต่อไปนี้ 1. น้ำแร่ 2. น้ำตาลทรายขาวธรรมดา  3. ผงวุ้น (Agar)ใช้ผงวุ้นตรานางเงือกบ้านเรานี่แหล่ะ เอาเกรดสูงสุดเลย 4. น้ำเชื่อมจากน้ำตาลทรายแดง (Kokumitsu) 5. ผงถั่วเหลืองป่น (Kinako) 6. ดอกซากุระแห้ง หรือดอกไม้แห้งอื่นๆก็ได้ ขั้นตอนการทำ 1. นำดอกไม้แห้งที่เตรียมไว้แช่น้ำเพื่อให้คลายตัว  2. ผสมผงวุ้น15กรัม + น้ำตาลทรายขาว 12กร

"กุ้งพันอ้อย"อาหารเวียดนามสุดฟิน

ส่วนผสมสำหรับทำ กุ้งพันอ้อย เนื้อกุ้งบด 1 ถ้วย พริกไทยบด 1 ช้อนชา น้ำตาล 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา อ้อยหั่นเป็นท่อน 2 ท่อน น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง เส้นหมี่ 1 แพ็ค วิธีทำ น้ำจิ้ม ของกุ้งพันอ้อย น้ำตาลทราย 10 ช้อนโต้ะ น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต้ะ ถั่วลิสงคั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนและวิธีทำกุ้งพันอ้อย 1. นำเนื้อกุ้งบดผสมกับ น้ำตาล เกลือ และพริกไทยให้เข้ากันและหมักไว้ 30 นาที และปั้นเนื้อกุ้งพันใส่แท่งอ้อย 2.  2.ตั้งกระทะใส่น้ำมันโดยใช้ไฟอ่อน นำเนื้อกุ้งพันอ้อย ลงไปทอด จนสุกออกสีเหลือง นำออกมาพักสะเด็ดน้ำมัน เสริฟใส่จาน 3. ลวกเส้นหมี่ และ นำเสริฟใส่จานกุ้งพันอ้อย เสริฟพร้อมกับน้ำจิ้ม   วิธีทำน้ำจิ้มกุ้งพันอ้อย เตรียมหม้อต้มโดยต้มน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือ พริกขี้หนู จนส่วนผสมเข้ากันและเหนียวเสริฟน้ำจิ้มใส่ถ้วยน้ำจิ้ม และโรยถั่วลิสงบดในน้ำจิ้ม http://www.kinaroi.com/news4464.html

สูตรแกงจืดลูกรอก

วิธีทำแกงจืดลูกรอก ส่วนผสมที่ใช้ทำแกงจืดลูกรอก   * น้ำต้มกระดูกไก่ 15 ถ้วย   * ต้นหอม 100 กรัม   * ลูกชิ้นปลาลวก 50 ลูก   * ผักชี 50 กรัม   * กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลัง 300 กรัม     * หอมใหญ่หั่น 1 ถ้วย   * หมูหั่นเป็นชิ้นๆ 1/2 กิโลกรัม   * น้ำปลา 1/2 ถ้วย   * หัวไชเท้า หั่นตามขวาง 1/2 ซม. 1/2 กิโลกรัม   * พริกไทยป่น 1 ช้อนชา   * รากผักชีโขลก 1 ช้อนโต๊ะ   * ไข่ไก่ 10 ฟอง   * กระเทียมโขลก 1 ช้อนโต๊ะ   * เห็ดหอม 3 ดอก   * กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ   * แครอทหั่นขวาง 1/2 ซม. 2 หัว   * ไส้หมูยาว 1 เมตร ขั้นตอนและวิธีทำลูกรอก  1. ต่อยไข่แล้วคนไข่ขาวไข่แดงให้เข้ากัน แต่อย่าตี  2. กรอกไข่ใส่ในไส้หมู แล้วมัดหัวท้ายให้แน่น วางใส่ในหม้อ ใส่น้ำ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ  3. อย่าให้น้ำเดือดจนไข่สุก ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วตัดเป็นท่อน ยาวประมาณ 1/2 นิ้วพักไว้ก่อน ขั้นตอนและวิธีทำแกงจืดลูกรอก  1. น้ำซุป ตั้งไฟ ใส่พริกไทย รากผักชี กระเทียมที่โขลกไว้ ใส่หมู ไชเท้า แครอทหอมใหญ่ เห็ด     หอม กุ้ง ลูกรอก ลูกชิ้นปลา ใส่น้ำปลา เคี่ยวต่อสักพักจนทุกอย่างสุกดี ชิมรสตามต้องการแล้วยกลง  2. โรยต้นหอม ผักชี กระเทียมเจียว จัดเสิร์ฟ

เมนูอาหาร ขาไก่ต้มพะโล้

เมนูอาหาร ขาไก่ต้มพะโล้ ต้องเตรียมอะไรบ้าง - ขาไก่ 1 กิโลกรัม - ผงพะโล้ 1 ห่อ - รากผักชี 5 ราก - กระเทียม 4 หัว - อบเชยขนาด 3 นิ้ว 1 ชิ้น - โป๊ยกั๊ก 5 ดอก - น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ๊วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ - ซีอิ๊วดำ 1-2 ช้อนโต๊ะ - น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. สับเล็บขาไก่ ล้างให้สะอาด ใส่ตะเกรงให้สะเด็ดน้ำ 2. โขลกรากผักชีกับกระเทียมพอแหลก 3. นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมัน ใส่เกลือที่โขลกลงผัดพอเหลือง ใส่ผงพะโล้ ผัดจนหอม ใส่น้ำเล็กน้อย พอเดือดเทใส่หม้อ 4. ใส่อบเชย โป๊ยกั๊ก ใส่ขาไก่ ต้มประมาณ 30 นาที ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซีอิ๊วดำ ชิมรสให้ออกเค็ม หวาน ต้มต่อ 5 นาที ยกลง ตักใส่จานเสิร์ฟ

เมนูอาหาร แกงหน่อไม้ไก่

Photo : Foodtravel เมนูอาหาร  แกงหน่อไม้ไก่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง - สะโพกไก่  หรือ เนื้อไก่  200 กรัม - หน่อไม้ชนิดแผ่นหรือสับ  200 กรัม - พริกแกงคั่ว 3 1/2 ชต. - กะทิกล่อง 1 1/4 ถ้วย - น้ำสะอาด หรือน้ำซุป 1 1/2 ถ้วย - เกลือป่น 1 1/2 ชช. - น้ำปลา 2 - 3   ชต. - น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ   1  ชช. - ใบโหระพา 2 กิ่ง - ใบมะกรูดแก่ ๆ  4-5 ใบ - พริกชี้ฟ้าสีเขียวแดงอย่างละ 1 เม็ด ซอยเฉียง ๆ ล้างเอาเม็ดออก วิธีทำ แกงหน่อไม้ไก่ 1. ตั้งกระทะบนเตาไฟ  ใส่หัวกะทิ (กะทิกล่อง) ลงไปประมาณครึ่งถ้วย ใช้ไฟกลาง ๆ รอให้กะทิเดือดและแตกมันก็ใส่พริกแกงลงไป ผัดพริกแกงกับหัวกะทิจนมีสีเข้มขึ้น  ส่งกลิ่นหอม และแตกมั 2. ใส่เนื้อไก่ลงไป  เหยาะน้ำปลาตามสัก 5-6 หยด แล้วผัดเนื้อไก่ให้เข้ากับพริกแกง รอจนเนื้อไก่ด้านนอกพอสุก ใส่กะทิที่เหลือลงไป  และตามด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำซุป 3. ใส่หน่อไม้ตามลงไป 4. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา และเกลือป่น คนให้เข้ากัน เคี่ยวด้วยไฟปานกลางประมาณ 5 นาที  ชิมดูให้รสออกเปรี้ยว เค็ม เผ็ด 5. ถ้ารสชาติได้ที่แล้ว ก็ใส่ใบมะกรูดฉีก ใบโหระพา รวมถึงพริกชี้ฟ้าลงไป ปิดไฟ ยกลง เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย หรือขนมจีน